พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวว่า ปัจจุบันยังมีเด็กไทยอีกจำนวนหนึ่งที่ยังขาดโอกาสทางการศึกษา เนื่องจากอาศัยอยู่ในพื้นที่ห่างไกล ประกอบกับโรงเรียนใกล้เคียงขาดแคลนอุปกรณ์ทางการศึกษา ทั้งนี้ เพื่อการสร้างเกราะป้องกัน และสร้างพลังเชิงบวกการเป็นผู้ให้แก่น้องๆ ตลอดจนคำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวม กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ในฐานะหน่วยงานที่มุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็กและเยาวชน ซึ่งเป็นกำลังหลักของชาติให้สามารถพัฒนาตนเองและพร้อมแบ่งปันสิ่งดีดีคืนสู่สังคม จึงได้น้อมนำพระดำริทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ที่ทรงให้ความสำคัญต่อการพัฒนาเด็กและเยาวชน ในการปลูกจิตสำนึกให้คำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวมและการปลูกฝังให้รู้จักการเป็น "ผู้ให้" อันเป็นหัวใจสำคัญในการสร้างประโยชน์ต่อสังคมและชุมชน ผ่านการดำเนินโครงการ Miracle of Life (ปาฏิหาริย์แห่งชีวิต)
พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวต่อว่า โครงการ Miracle of Life ได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2552 เป็นต้นมา โดยในปี 2556 ได้เริ่มดำเนินการภายใต้กรอบแนวคิด "SHIFT&SHARE" โดยมีจุดประสงค์เพื่อส่งเสริมสนับสนุน และเปิดโอกาสให้เด็กได้รับการพัฒนาศักยภาพของตนเอง และมีพื้นที่ในการแสดงออกตามความสามารถความสนใจของตนเองได้อย่างเหมาะสมกับสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลง ภายใต้กรอบวัฒนธรรมอันดีงามของชุมชน เพื่อจุดประกายการพัฒนาทักษะให้เกิดศักยภาพที่สูงขึ้น ตลอดจนเกิดการรวมกลุ่มและสร้างสรรค์ประโยชน์แก่ตนเอง ครอบครัว ชุมชน และสังคม โดยมุ่งพัฒนาเด็กและเยาวชนไทยในพื้นที่ 6 ภูมิภาคทั่วประเทศ ได้แก่ พื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และพื้นที่ตามแนวชายแดนที่ขาดแคลนอุปกรณ์ทางการศึกษา ซึ่งส่งผลให้มีพัฒนาการทางร่างกาย อารมณ์ และศักยภาพด้านการเรียนรู้ไม่เท่าเทียมกับเด็กที่อยู่ในเมือง อย่างไรก็ดี จากผลการดำเนินภายใต้กรอบแนวคิด "SHIFT&SHARE" การพัฒนาเพื่อการแบ่งปันที่ยิ่งใหญ่ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมานั้น มีเด็กและเยาวชนจากโรงเรียนในพื้นที่ 50 จังหวัด อาทิ เชียงใหม่ นนทบุรี ชลบุรี ขอนแก่น ฯลฯ รวมถึงโรงเรียนเพียงหลวงในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ได้รับการพัฒนาเพื่อเสริมสร้างพฤติกรรมเชิงบวกแล้วกว่า 23,000 คน
นายวิเชียร ชวลิต ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า สำหรับการดำเนินโครงการ Miracle of Life ภายใต้กรอบแนวคิด "พัฒนาเพื่อการแบ่งปันที่ยิ่งใหญ่ SHIFT&SHARE " ซึ่งได้จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 โดยขยายพื้นที่ดำเนินการในอีก 20 จังหวัดเพื่อให้ครอบคลุมทั้ง 77 จังหวัดทั่วประเทศ ดังนี้ ภาคเหนือ 4 จังหวัด ได้แก่ แม่ฮ่องสอน พะเยา อุตรดิตถ์ ตาก ภาคกลาง 9 จังหวัด ได้แก่ ปทุมธานี นครปฐม สมุทรปราการ อ่างทอง ชัยนาท ปราจีนบุรี ราชบุรี ตราด เพชรบุรี ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 5 จังหวัด ได้แก่ อำนาจเจริญ ยโสธร นครพนม บึงกาฬ บุรีรัมย์ และภาคใต้ 2 จังหวัด ได้แก่ ยะลา นราธิวาส โดยมีเด็กและเยาวชน อายุระหว่าง 13-18 ปี และนักเรียนโรงเรียนเพียงหลวงฯ อายุระหว่าง 7-15 ปี เข้าร่วมโครงการฯ รวมกว่า 11,500 คน
นายวิเชียร กล่าวต่อว่า น้องๆ ที่เข้าร่วมโครงการดังกล่าวนี้ จะได้รับการอบรมเพื่อเสริมสร้างพฤติกรรมเชิงบวก ผ่านกิจกรรมถอดบทเรียน รวมไปถึงการคิดโครงการเชิงสร้างสรรค์เพื่อนำไปปรับใช้ในพื้นที่จริง (One day Sharing) ซึ่งในปีนี้ มีโครงการที่ประสบความสำเร็จและได้รับคัดเลือกเพื่อนำไปใช้จริง รวมทั้งสิ้น 45 โครงการ โดยเป็นโครงการในพื้นที่เป้าหมาย 20 จังหวัดๆ ละ 2 โครงการ และอีก 5 โครงการจากโรงเรียนเพียงหลวงฯ อาทิ โครงการเศษอาหารเปลี่ยนชีวิต จากโรงเรียนบึงโขงหลงวิทยาคม จ.บึงกาฬ เป็นการรวมกลุ่มเพื่อทำน้ำหมักชีวภาพจากเศษอาหารและขยะในโรงเรียน ก่อนส่งต่อให้เกษตรกรในชุมชนใช้แทนปุ๋ยเคมี โครงการธรณีนี่นี้...ใครจอง จากโรงเรียนคุรุประชาสรรค์ จ.ชัยนาท เป็นการเผยแพร่ประวัติศาสตร์ของชุมชนให้ประชาชนทั่วไปได้รับรู้และเห็นคุณค่า โครงการชีวิตเด็กดอย จากโรงเรียนบ้านวนาหลวง จ.แม่ฮ่องสอน เป็นผลงานการผลิตคลิปวิดีโอจากสองมือเยาวชนที่ถ่ายทอดการใช้ชีวิตตามแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงของชาวเขาเผ่าต่างๆ ได้แก่ ลาหู่ กะเหรี่ยง และไทยใหญ่ โครงการร้อง เต้น เล่นโปงลาง สไตล์สรภัญญะ จากโรงเรียนมัธยมพัชรกิติยาภา 1 นครพนม จ.นครพนม เป็นการนำการร้องสรภัญญะ และการเล่นเครื่องดนตรีโปงลางที่เป็นวัฒนธรรมท้องถิ่นมาประยุกต์ร่วมกัน และโครงการบ้านนี้มีรัก (เฮือนเหย้า) จากโรงเรียนเพียงหลวง 10 จังหวัดนครพนม เป็นการสร้างบ้านพักชั่วคราวให้กับผู้สูงอายุในชุมชนได้มาพบปะ พูดคุย ทำกิจกรรมร่วมกันในตอนกลางวัน ฯลฯ
อย่างไรก็ดี กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พส.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ยังคงมุ่งมั่นสานต่อการพัฒนาเพื่อการแบ่งปันที่ยิ่งใหญ่ Shift and Share เพื่อเป็นสะพานสู่เส้นชัยแห่งการฝึกคิด และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเมื่อเด็กและเยาวชนได้รับการเสริมสร้างพฤติกรรมในเชิงบวกแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนความคิด ทัศนคติ หรือพฤติกรรมไปในทางที่ดีขึ้น ทางด้านครอบครัว โรงเรียน ชุมชน และสังคม ก็ต้องช่วยกันดูแลและบ่มเพาะอีกทางหนึ่งด้วย เพื่อเป็นพลังบวกที่เสริมสร้างให้เด็กและเยาวชนไทยในวันนี้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดี เป็นคนเก่ง และดำเนินชีวิตได้อย่างมีความสุข ไปพร้อมๆ กับการเป็นผู้ให้สิ่งที่ดีงามและความสุขคืนสู่สังคมและคนรอบข้างได้ในอนาคต นายวิเชียร กล่าวสรุป
ด้าน น้องเตย-นางสาวเกศรินทร์ เหมือนพร้อม นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ตัวแทนโรงเรียนถนนหักพิทยาคม จังหวัดบุรีรัมย์ ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ จากโครงการ Hello! Massage กล่าวถึงความรู้สึกหลังได้เข้าร่วมอบรมในโครงการ Miracle of Life ว่า เป็นครั้งแรกที่ได้เข้าร่วมโครงการ Miracle of Life ซึ่งเป็นโครงการที่ให้ความรู้มากมายผ่านการทำกิจกรรมเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจพฤติกรรมเชิงบวก ทั้งต่อตนเอง ครอบครัว ชุมชน รวมไปถึงคิดค้นกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ต่อสังคม สำหรับโรงเรียนเราได้จัดทำเป็นโครงการ Hello Massage เป็นการรวมกลุ่มเป็นชมรมนวดแผนไทยในโรงเรียน และให้ผู้เชี่ยวชาญด้านการนวดแผนไทยจากโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านผักหวาน มาให้ความรู้และสอนวิธีการนวดแผนไทยที่ถูกวิธี การทำลูกประคบจากสมุนไพรของไทยที่สามารถหาวัตถุดิบได้ในท้องถิ่น ตลอดจนมีการบริการนวดแผนไทยและมอบลูกประคบสมุนไพรให้แก่ผู้สูงอายุที่ไม่มีคนดูแลและผู้พิการที่ต้องทำกายภาพบำบัดที่ไม่สามารถมารับบริการได้ที่โรงเรียน ซึ่งนอกจากจะเป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์แล้ว ยังเป็นการแบ่งปันสิ่งดีๆ ให้และกระชับความสัมพันธ์กับคนในชุมชนอีกด้วย ทั้งนี้ รู้สึกภูมิใจที่ได้รับรางวัลนี้ พร้อมกันนี้ตั้งใจจะถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับการนวดแผนไทยไปสู่น้องๆ ในชุมชนอีกด้วย อย่างไรก็ดีหากมีโอกาสดีๆ แบบนี้อีกก็อยากมาเข้าร่วมโครงการอีกครั้ง
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเผยแพร่และขยายผลการดำเนินงานของน้องๆ นักเรียนที่เข้าร่วมโครงการฯ กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ จึงได้จัดนิทรรศการแสดงผลงานของเด็กและเยาวชนฯ ที่ลานอเนกประสงค์ ชั้น 2 อาคารรัฐประศาสนภักดี (อาคาร B) ศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ โดยได้รับเกียรติจากพลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เป็นประธานในพิธี
สำหรับโรงเรียนหรือเยาวชนกลุ่มใดที่สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการปาฏิหาริย์แห่งชีวิต (Miracle of Life) สามารถติดต่อหรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ โทรศัพท์ 0-2659-6242 เว็บไซต์ www.dsdw.go.th อีเมล์ [email protected]
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit