"บ้านหลังที่เกิดเรื่องนี้อยู่อาศัยมา 70 ปีแล้วปกติเมื่อก่อนก็จะเดินเข้าออกที่คันสวนมาตลอดแต่ก็มีบริเวณคลองวัดประดู่ที่ใช้ได้ด้วย จนเมื่อปี 2551 ก็มีการเปลี่ยนแปลงเมื่อลูกเจ้าของที่ดินเขาเอาที่ดีนนี้ไปจำนองกับธนาคารแล้วจากนั้นก็ถูกกรมบังคับคดีนำที่ดินนี้มาขายทอดตลาดแล้วก็มีเจ้าของรายใหม่มาซื้อไปเมื่อปี 2551 แล้วทางเจ้าของใหม่เขาก็ทำการปิดล้อมรั้วทางเข้าออกที่เราเคยเดินหมดทุกทาง ซึ่งตอนนั้นทางเราก็ได้นำเรื่องนี้ไปร้องต่อศาลเพื่อใช้เป็นทางสาธารณะ แต่ก็ศาลก็ตัดสินให้ทางเราแพ้ทั้ง 3 ศาลโดยทางศาลชี้ว่าทางบ้านเรายังมีทางเดินที่เป็นคลองสาธารณะที่สามารถเข้าออกได้ แต่ความจริงแล้วคลองตอนนี้มันตื้นจนหมดแล้วมีแต่วัชพืชขึ้นหมดแล้ว"
"หลังจากที่เราแพ้ทั้ง 3 ศาลแล้วตอนนี้ก็ได้ได้ยื่นเรื่องเพื่อให้ศาลคุ้มครองเพราะเรามีความจำเป็นในชีวิตที่จะต้องเดินทางเข้าออกเพราะที่บ้านมีผู้สูงอายุ 3 คนโดยเฉพาะคุณพ่อที่มีอายุ 97 ปีที่ป่วยหลายโรคและก็ต้องไปหาหมอตลอด ยอมรับว่าตอนนี้ลำบากมากก่อนหน้าเราไม่ได้ออกไปไหนเลย 16 วันเพราะไม่มีทางเข้าออกก็อายุของกินที่กักตุนไว้ในบ้านที่เป็นอาหารแห้ง แล้วก็เก็บผักประเภทตำลึง หัวปลี ผักหวาน ฯลฯที่อยู่ในสวนทำกินปะทังชีวิต แต่มาช่วงหลังก็มีเพื่อนบ้านเค้ารู้ว่าเราไม่สามารถไปไหนมาไหนได้เขาก็ช่วยซื้อของมาให้บ้าง ส่วนช่วงนั้นยาของคุณพ่อก็ยังมีบวกกับโชคดีที่คุณพ่อไม่ได้ป่วยถึงต้องไปหาหมอด้วยก็เลยไม่มีปัญหาอะไร"
คุณครูกุลธร กล่าวต่อว่า " ช่วงนี้ลำบากมากแต่ก็ต้องสู้กันต่อไป แต่ก็ได้ลูกศิษย์เข้ามาช่วยเหลือช่วยทำสะพานบ้านให้เพื่อที่จะได้เดินง่ายๆขึ้น และตอนนี้เราก็ทำเรื่องเพื่อให้ศาลคุ้มครองชั่วคราวทางเจ้าของที่ดินเขาก็เลยมารื้อรั้วที่ปิดไว้ได้เดิน ซึ่งก่อนหน้าที่จะเกิดเรื่องก็เคยที่จะพูดคุยกับเจ้าของที่ดินตั้งแต่ปี 2551 แล้วแต่ก็ไม่ได้มีโอกาสคุยกันเลยจนเวลาผ่านไป 7 ปีก็ยังไม่ได้พูดคุยกันเลยจนเกิดเรื่องนี้ขึ้น ส่วนเรื่องที่มีคนบอกว่ามีการบีมเราเพื่อที่จะต้องการขอซื้อที่เรานั้นก็รู้สึกว่าเขาก็ไม่ได้ชัดเจนในเรื่องของการที่จะเข้ามาของซื้ออะไรก็เลยไม่รู้ว่าจะอย่างไร"
"ตอนนี้ทางเราก็ได้ทำเรื่องเพื่อคุ้มครองชั่วคราวและก็ได้ยื่นเรื่องไปที่ศาลเพื่อพิจารณาเรื่องของความจำเป็นของการใช้ทางอีกครั้งซึ่งก็จะมีนัดการสืบพยานเร็วๆนี้ ส่วนตอนนี้ก็สู้กันต่อไปแม้ว่ามันจะยากลำบากก็ตามเพราะที่ดินแห่งนี้เป็นที่ดินของเราก็พยายามจะสู้เต็มที และก็ขอขอบคุณทุกคนที่เป็นกำลังใจและพยายามเข้ามาช่วยเหลือจนตอนนี้มีกำลังใจที่ดี"
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit