บรรยากาศในงานแถลงข่าวร้อนแรงขึ้นทันทีที่หนุ่ม คังมินฮยอก ปรากฏตัว เรียกเสียงกรี๊ดจากแฟนคลับได้สนั่นลั่นบริเวณ โดยในวันนี้ ดีเจคิว ธิติพันธ์ สุริยาวิชญ์ รับหน้าที่พิธีกร ส่วนล่ามภาษาเกาหลีมี แจยอง ช่วยสื่อสารให้ หนุ่มมินฮยอก แนะนำตัวด้วยประโยคภาษาไทยสั้นๆ "สวัสดีครับ ผมมินฮยอก ตีกลองครับ" ซึ่งพูดได้น่าเอ็นดูเหลือเกิน ดีเจคิว จึงรีบกล่าวต้อนรับ คังมินฮยอก สู่ไทยแลนด์แดนออฟสไมล์อย่างเป็นทางการว่า "ขอต้อนรับสู่เมืองไทย สยามเมืองยิ้ม ตอนนี้ไม่ว่าคุณจะมองไปทางไหนก็จะเจอแต่คนยิ้มให้" มินฮยอก ไม่รอช้าขอหยอดคำหวานทันที "ทุกคนสวยมากเลยครับ" และ "ผมมีอะไรจะบอก...ยินดีที่ได้เจอกันอีกนะครับ" เท่านั้นไม่พอยังอ้อนต่อเป็นภาษาไทยอีกว่า "คิดถึงมากครับ" แล้วหยอดเบาๆว่า "ไม่ใช่แค่ช่วงนี้นะครับที่ผมจะยิ้ม แต่ผมจะยิ้มไปตลอดจนจบงานเลย เพราะตอนนี้ผมมีความสุขมาก บรรยากาศในวันนี้อบอุ่นมากจริงๆ ผมสัมผัสได้ถึงความรักของแฟนที่มีให้กับผมครับ"
เข้าสู่ช่วงคำถาม "ฉายเดี่ยวมาจัดงานแฟนมีตติ้งคนเดียวแบบนี้ เหงามั้ย?" คังมินฮยอกตอบอย่างตั้งใจว่า "เมื่อกี้ตอนที่รอสแตนด์บายอยู่ด้านหลังแล้วดีเจคิวเรียก ก็จะมีเพลงของ CNBLUE เปิดคลอไปด้วย พอได้ยินเพลงของ CNBLUE แต่มีผมยืนอยู่คนเดียวก็อดคิดถึงสมาชิกในวงไม่ได้ แล้วพอมายืนอยู่ตรงนี้จะเห็นแฟนคลับถือป้าย CNBLUE ผมดีใจที่ได้มาเป็นตัวแทนของวง และผมมายืนอยู่ตรงนี้ได้ก็เพราะความรักของทุกคนที่มีให้ CNBLUE และเร็วๆนี้พวกเรา CNBLUE จะมาเมืองไทยอีกครั้งพร้อมกันครับ" คำถามที่ 2 "ชื่อแฟนมีตติ้งครั้งนี้คือ Kang Min Hyuk from CNBLUE 1st Fan Meeting in Thailand 2015 'The Moment' อยากรู้ว่าคุณมีโมเม้นท์ไหนในชีวิตที่ประทับใจจนลืมไม่ลงบ้าง?" คังมินฮยอกบอกว่า "มันเยอะมากเลย แต่มีอยู่โมเม้นท์หนึ่งที่ชอบมากจนลืมไม่ลง คือ โมเม้นท์ตอนได้แสดงโชว์เคสครั้งแรกของ CNBLUE เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2010 บนเวทีจะมีผ้าบางๆกั้นอยู่แล้วผมยืนอยู่ด้านหลังผ้านั้นอีกที บนโปรเจ๊กเตอร์ฉายภาพMV ของ CNBLUE ตอนนั้นใจผมเต้นแรงมาก เป็นโมเม้นท์ที่ลืมไม่ลงเลยจริงๆ ยังจำความรู้สึกตอนใจเต้นแรงได้อยู่เลย"
คำถามที่ 3 "แล้วในงานแฟนมีตติ้งครั้งนี้อยากมีโมเม้นท์แบบไหนกับแฟนๆบ้าง?" มินฮยอกบอกเลยว่า "เพื่อให้สมกับที่เป็นงานแฟนมีตครั้งแรกผมจะทำให้มันเป็นโมเม้นท์ที่ทุกคนพลาดไม่ได้แม้แต่วินาทีเดียวเลยล่ะครับ" คำถามที่ 4 "ก่อนหน้านี้คุณเคยใช้ชีวิตอยู่ในหอร่วมกับเพื่อนๆในวง พอต้องออกมาใช้ชีวิตอยู่คนเดียวแบบนี้รู้สึกอย่างไร ชีวิตแตกต่างไปจากเดิมมั้ย?" มินฮยอกจึงเล่าให้ฟัง "ตอนอยู่หอกับเพื่อนๆในวง นึกอยากชวนกันไปเที่ยวก็ไปกัน แต่พอย้ายออกมาอยู่คนเดียว นานๆทีถึงจะได้เจอกันมันทำให้เรารู้สึกรักกันมากขึ้น แล้วความสัมพันธ์ระหว่างพวกเราก็แน่นแฟ้นขึ้นด้วยครับ" คำถามถัดไป"ทราบมาว่าถ้ามีเวลาว่างคุณคังมินฮยอกชอบไปเดินดูดอกไม้ แล้วคุณคิดว่าดอกไม้ชนิดไหนเหมาะกับบอยซ์ไทยมากที่สุด เพราะอะไร?" มินฮยอกคิดหนัก "ผมเป็นคนชอบดอกไม้ มันเป็นดอกไม้ชนิดหนึ่งที่ผมชอบมาก ชื่อว่า ดอกสแตติส (Statice) ซึ่งเวลาสดกับเวลาแห้งจะเหมือนกัน เลยคิดว่าคงคล้ายๆกับบอยซ์ไทยที่สวยตลอดไม่เคยเปลี่ยน ที่สำคัญคือดอกสแตติส มันมีหลายดอกรวมกัน แล้วมีสีฟ้าๆม่วงๆ ตอนแสดงคอนเสิร์ตผมเห็นแฟนๆถือแท่งไฟแล้วรู้สึกว่าอารมณ์มันคล้ายกันมากเลยครับ" มาถึงคำถามเด็ด "แฟนๆฝากถามมาว่าระหว่างแมวน้อยสองตัว เจ้าชิชิ กับ เจ้าตาต้า ตัวไหนแสบซน และตัวไหนขี้อ้อนมากกว่ากัน?" มินฮยอกรีบออกตัว "ต้องขอโทษ ชิชิ กับ ตาต้า ก่อนนะครับ" โอ้โหนี่ถึงขั้นต้องขอโทษแมวก็มีแซวน่ะสิ มินฮยอกเลยแก้เขินว่า "แน่นอนอยู่แล้ว เพราะพวกเค้าเป็นลูกของผมนี่นา" ก่อนเล่าถึงความน่ารักของลูกๆให้ฟัง "ชิชิ เป็นน้องเล็กที่รู้ว่าตัวเองเป็นน้องเล็กด้วย เขาก็เลยจะน่ารัก ขี้อ้อน ฉลาด รู้ว่าต้องทำยังไงถึงจะมีคนมารัก อย่างเวลาถ่ายรูปจะชอบทำหน้าไร้เดียงสาเหมือนกับว่า เธอจะทำอะไรฉันเหรอ? แล้วก็กินเก่ง ส่วน ตาต้า เป็นพี่ เขาจะเรียบร้อย เงียบๆ ขี้กลัว ได้ยินเสียงอะไรดังๆก็จะวิ่งก่อนเลย แต่ผมรักตาต้ามากกว่านะ เพราะเป็นลูกตัวแรกมั้ง"
ข้อต่อมา "คังมินฮยอกตัวจริงกับยุนชันยองในเรื่อง The Heirs เหมือนหรือต่างกันมากมั้ย?" มินฮยอกอธิบาย "ผมไม่ค่อยแน่ใจเหมือนกันว่าต่างกันตรงไหน แต่ตอนแสดงผมอินกับบทยุนชันยองมากนะ ผมว่าคงเป็นตรงความเป็นสุภาพบุรุษมั้งครับ" ดีเจคิวถามต่อ "ถ้าคุณมีแฟนแบบอีโบนา...แฟนสุดแสบแบบนี้" มินฮยอกเล่าว่า "ถ้าเธองอแงแบบอีโบนาในบทก็โอเค แต่ถ้ามากกว่านั้น ผมคงเหนื่อย ถ้าเป็นแฟนที่รักกันมากๆ แล้วแฟนงอแง ผมก็คงตามใจเธอหมดมั้ง คือถ้าผมรัก ไม่ว่าเค้าจะทำอะไรก็สวยหมด อันนี้พูดจากใจจริงเลย" อยากรู้อีกว่า "มีโมเม้นท์ไหนที่ประทับใจที่สุดในละครเรื่อง The Heirs?" มินฮยอกตอบ "อาจเป็นช่วงแรกๆของ The Heirs ในซีนที่ ชันยอง ไปรอ ชาอึนซอง ที่คาเฟ่แล้วมี อีโบนา เข้าฉากด้วย ตอนนั้นผมลูบหัว อีโบนา แล้วไม่รู้ว่าสั่งคัทแล้ว ซึ่งภาพที่ออกมามันเป็นธรรมชาติมาก ก็เลยรู้สึกประทับใจ"
"รู้มั้ยว่าแฟนไทยเรียกคุณว่า 'น้องมิน'?" มินฮยอกพูดตาม "น้องมิน นี่เหมือนนิคเนมใช่มั้ยครับ น่ารักดีครับ" พอแฟนๆเรียกว่า 'น้องมิน' เจ้าตัวก็บอกว่า "ชอบนะครับ น้องมิน" แล้วโปรยเสน่ห์ใส่ทุกคนด้วยคำบอกรักภาษาไทยสั้นๆแต่โดนใจว่า "รักนะ...รู้ยัง" เรียกพลังกรี๊ดจากบอยซ์ไทยได้สนั่นหวั่นไหว คราวนี้ดีเจคิวเลยแซวขึ้นว่า "มันไม่เหมือนงานแถลงข่าวเลยเนอะ แต่เหมือนงานแฟนมีตติ้งเล็กๆมากกว่า" น้องมินเลยถามขึ้นอย่างใสซื่อ "ปกติไม่ได้เป็นแบบนี้หรอกเหรอครับ? อ้อ...ก็เพราะมันเป็นครั้งแรกของผมน่ะสิครับ" คำถามสุดท้าย "อยากฝากอะไรถึงแฟนๆหน่อยมั้ย?" มินฮยอกกล่าวด้วยรอยยิ้ม "ขอบคุณนะครับที่มาให้กำลังใจผมอย่างอบอุ่นในวันนี้ ส่วนพรุ่งนี้วันงานก็มากันเยอะๆนะครับ ผมรู้สึกรักทุกคนมาก มีความสุขมากจริงๆ ยังไงมาเจอกันวันพรุ่งนี้นะครับ ขอบคุณครับ...เยี่ยมเลย" ก่อนกลับ คังมินฮยอก ร่วมถ่ายภาพที่ระลึกกับผู้บริหาร"อะชิ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ กรุ๊ป" ( A CHI ENTERTAINMENT GROUP COMPANY LIMITED) ผู้จัดงาน และ ผู้บริหารจากห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ที่เอื้อเฟื้อสถานที่ พร้อมให้พี่ๆสื่อมวลชนชักภาพกันอย่างจุใจ เรียกว่าแค่งานแถลงข่าวก็ทำเอาบอยซ์ไทยรู้สึกว่าฟินกันไปซะแล้ว
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit