สำหรับการดำเนินงานภายใต้อนุสัญญาไซเตส หลังจากคณะกรรมการบริหารอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่า และพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ (CITES) จัดให้ประเทศไทยเป็น 1 ใน 8 ประเทศร่วมกับ จีน มาเลเซีย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ อูกันดา แทนซาเนีย และเคนย่า ที่มีปัญหาเกี่ยวกับการค้างาช้างผิดกฎหมาย และถูกกล่าวหาว่าไม่มีมาตรการควบคุมการค้างาช้างภายในประเทศอย่างมีประสิทธิภาพกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบเรื่องการแก้ไขปัญหาการค้างาช้างผิดกฎหมาย ได้ดำเนินการและรายงานผลต่อคณะกรรมการฯ เมื่อวันที่ ๑๒ มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งทางคณะกรรมการฯแสดงความพอใจต่อการดำเนินการของประเทศไทย และขอให้ไทยรายงานการดำเนินการการแก้ไขการค้างาช้าผิดกฎหมายในครั้งต่อไปภายในวันที่ ๑๕ ก.ย.๕๘ พร้อมทั้งรอพิจารณารายงานในการประชุมครั้งที่ ๖๖ ในเดือนมกราคม พ.ศ.๒๕๕๙ ทั้งนี้เพื่อให้ประเทศไทยพ้นจากการถูกระงับการค้าสัตว์ป่า และพืชป่า ในบัญชีไซเตส ที่มีมูลค่ารวมกว่า 4๗,๕๐๐ ล้านบาท และส่งผลต่อการจ้างแรงงานกว่า 39,000 คน อีกด้วย
ด้านนายนิพนธ์ โชติบาล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวว่า การจัดกิจกรรมการรณรงค์ครั้งนี้ เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา ๘๓ พรรษา 12 สิงหาคม มหาราชินี ภายในงานนอกจากจะมีการเดินรณรงค์ให้นักท่องเที่ยวได้ทราบถึง ข้อห้ามต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขาย งาช้างในประเทศไทยตามพระราชบัญญัติงาช้าง 2558 แล้ว ยังมีการจัดนิทรรศการประกอบด้วย นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และนิทรรศการภายใต้แนวคิด "รักษ์ช้างไทย ไม่ซื้องาช้างผิดกฎหมาย" โดยขอความร่วมมือจากประชาชนหากพบเห็นการกระทำความผิด พบการลักลอบซื้อขายงาช้างผิดกฎหมาย แจ้งที่สายด่วนกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ๑๓๖๒ ตลอด ๒๔ ชั่วโมง
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit