บริษัท อินเดียน-วิคตอรี่ มอเตอร์ไซเคิล จำกัด ผู้นำเข้าและจำหน่ายรถบิ๊กไบค์ไฮเอนท์ ทั้งรถบิ๊กไบค์คลาสสิคระดับตำนาน Indian และรถบิ๊กไบค์สมรรถนะสูง Victory แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย จัดกิจกรรม Exclusive ขับขี่ทดสอบสมรรถนะรถบิ๊กไบค์ทั้ง 2 แบรนด์รุ่นใหม่ล่าสุดปี 2015 บนเส้นทางกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ระยะทางกว่า 250 กิโลเมตร พร้อมร่วมงานแถลงข่าวเปิดตัวดีลเลอร์แห่งแรกบนแผ่นดินไทย “Indian & Victory Motorcycle of Nakhon Ratchasima” บนถนนมหาดไทย จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นโชว์รูมและศูนย์บริการมาตรฐานสากล เพื่อเป็นจุดหมายปลายทางอีกแห่งของบริษัท และรองรับการเติบโตของตลาดและกลุ่มผู้ใช้ให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น
เริ่มต้นออกสตาร์ทเพื่อร่วมจารึก 2 ปรากฏการณ์ครั้งประวัติศาสตร์จากโชว์รูมและศูนย์บริการ อินเดียน-วิคตอรี่ มอเตอร์ไซเคิล (ซอยพัฒนาการ 76) ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ในประเทศไทย โดยมีนายณัฐพล ไตรณัฐี กรรมการผู้จัดการ และนายณัฐบูร ไตรณัฐี ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ บริษัท อินเดียน-วิคตอรี่ มอเตอร์ไซเคิล จำกัด นำทัพขับขี่ และจัดฝูงรถบิ๊กไบค์คลาสสิคระดับตำนาน Indian ทั้งรุ่น Chieftain, Classic, Scout รวมทั้ง Victory รุ่น Judge, Hammer รวม 7 คัน
โดยเฉพาะรถไฮไลท์ “2015 Indian Scout” จำนวน 3 คัน ที่ได้รับความสนใจเป็นพิเศษจากเหล่าไบค์เกอร์ชาวไทย หลังจากเปิดตัวในงานเทศกาลเพื่อคนรักมอเตอร์ไซค์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน “แบงค์ค็อก มอเตอร์ไบค์ เฟสติวัล ครั้งที่ 7” เมื่อปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา มาพร้อมจุดเด่น 5 ประการ คือ ดีไซน์คลาสสิคระดับตำนานอันเป็นอัตลักษณ์เฉพาะตัว, มีขนาดเล็กน้ำหนักเบา เหมาะกับรูปร่างคนไทย, จุดศูนย์ถ่วงเบาะนั่งต่ำ, สมรรถนะสูงแต่ควบคุมได้คล่องตัวที่สุดในกลุ่มคู่แข่งครุยเซอร์พิกัดนี้ และสนนราคาค่าตัวยั่วใจเพียง 849,000 บาทความลงตัวของตำนานคลาสสิคกับเทคโนโลยีล้ำสมัย
"2015 Indian Scout" นับเป็นอีกหนึ่งตำนาน ที่หวนกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ครั้งแรกในรอบ 70 ปี เป็นรถที่มีดีไซน์ที่ร่วมสมัยกับเครื่องยนต์แบบใหม่ระบายความร้อนด้วยน้ำ เป็นรถครุยเซอร์ขนาดกลาง น้ำหนัก 558 ปอนด์ ซึ่งเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังและอัดแน่นด้วยเทคโนโลยี ตัวถังอลูมิเนียมน้ำหนักเบา เครื่องยนต์ V-Twin ความจุกระบอกสูบ 69 ลูกบาศก์นิ้ว (1,133 C.C.) ให้กำลังม้าถึง 100 ตัว ความสูงจากพื้นถึงเบาะนั่ง 25.3 นิ้ว เพิ่มประสิทธิภาพการทรงตัวและการควบคุมรถ ขับขี่ง่ายเหมาะกับไบค์เกอร์ทุกระดับ ทั้งมือใหม่และมือเก๋ามากประสบการณ์
พลันที่เสียบกุญแจสตาร์ทที่ด้านซ้ายของเครื่องยนต์ เสียงท่อไอเสียคำรามเสนาะหู หน้าปัดเรือนไมล์ทรงกลมขอบชุมโครเมียมเงาวับ แสดงสถานการทำงานต่างๆ โดยด้านในบอกรายละเอียดความเร็วแบบอนาล็อก (ทั้งหน่วยที่เป็นกิโลเมตรและไมล์) แม้จะไม่มีมาตรวัดแสดงระดับน้ำมันก็ตาม แต่มีไฟแสดงตำแหน่งเกียร์ว่าง ไฟเตือนระดับน้ำมันเชื้อเพลิง ไฟสูง ไฟเลี้ยว ไฟเบรก ABS และไฟเตือนระบบการทำงานเครื่องยนต์ พร้อมทำงาน
ขณะที่ตรงกลางหน้าจอมาตรวัดทรงสี่เหลี่ยม ยังเลือกดูข้อมูลต่างๆ แบบดิจิตอลได้ ประกอบด้วย ระยะทางรวม ทริปวัดระยะการเดินทาง อุณหภูมิเครื่องยนต์ รอบเครื่องยนต์ (RPM) โดยกดเลื่อนจากตำแหน่งไฟขอทาง หรือ Pass ที่แฮนด์ฝั่งซ้าย (ไฟ Pass ไม่มี) ซึ่งเลือกดูได้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น ส่วนนาฬิกาจะแสดงตลอดเวลา
สำหรับปุ่มควบคุมบนแฮนด์ทั้งสองข้างนั้น ด้านขวาติดตั้งสวิตช์ออฟรันและปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ ด้านซ้ายมีไฟเลี้ยว ไฟสูง-ต่ำ แตร ไฟฉุกเฉิน และปุ่มเลือกดูค่าต่างๆ ในตำแหน่งไฟขอทาง เมื่อพิจารณาการประกอบรถและการเลือกใช้วัสดุที่มีคุณภาพ ถือว่าทำได้ดีเยี่ยมขุมพลังจี๊ดจ๊าดขับขี่คล่องตัวตอบไลฟ์สไตล์ไบค์เกอร์
เบาะนั่งออกแบบอย่างประณีตสวยงาม นั่งสบายไม่นิ่มจนรู้สึกยวบ โดยเฉพาะด้วยการออกแบบเบาะให้มีส่วนเว้าเป็นพนักพิง สามารถรับรองกับสรีระผู้ขับขี่ได้กระชับ หากเป็นคนรูปร่างเล็กอาจต้องโน้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อย
จากการออกแบบตัวรถรูปทรงสามเหลี่ยม "Rigid Triangle" นอกจากสะท้อนความคลาสสิคของScout ยุคอดีตที่เป็นรถช่วงท้ายแข็ง แต่การจัดวางระบบกันสะเทือนที่ถูกกำหนดไว้อย่างแนบเนียน ช่วยเพิ่มความสบายแก่ผู้ขับขี่และประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนนตามแบบรถจักรยานยนต์สมัยใหม่ โดยความกว้างฐานล้อ 61.5 นิ้ว ท้องรถสูงจากพื้น 5.3 นิ้ว ทำให้ Scout ทำมุมเอียงขณะเข้าโค้งได้ถึง 31 องศา ควบคุมได้ง่ายในทุกย่านความเร็ว
สมรรถนะการขับขี่เข้าโค้งสั้นและทางไฮเวย์ ระบบช่วงล่างและการยึดเกาะถนน ให้ความประทับใจเป็นพิเศษ ซึ่งเป็นผลมาจากมีระยะฐานล้อที่ยาว จึงให้ความมั่นคงและเสถียรภาพการเข้าโค้ง ส่วนการทำงานของโช๊คหน้าและหลัง ซับแรงกระแทกได้ดี และสามารถปรับค่าที่ระบบกันสะเทือนหลังได้อีกด้วย
ขุมพลังเครื่องยนต์ 4 จังหวะ สองสูบวี ขนาด 1,133 ซี.ซี. ระบายความร้อนด้วยน้ำ ส่งกำลังด้วยชุดเกียร์ 6 สปีด ให้กำลังสูงสุด 100 แรงม้า ที่ 8,100 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 97.7 นิวตัน-เมตร ที่ 5,900 รอบต่อนาที จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์ ปรับการฉีดแบบควบคุมส่วนผสมอัตโนมัติ หรือ Closed Loop ให้การตอบสนองอัตราเร่งได้อย่างยอดเยี่ยม นับเป็นครุยเซอร์ที่แฝงสมรรถนะสปอร์ต ช่วยให้เพลิดเพลินในยามขับขี่บนทางไฮเวย์ได้ดี ส่วนระบบเบรกไว้วางใจได้ให้ความมั่นใจสูงในการหยุดรถ พร้อมตั้งระบบกระจายแรงเบรก ABS เพื่อทำให้การหยุดรถเป็นไปได้ดั่งใจ และเพิ่มความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
"2015 Indian Scout” จะมีให้เลือก 4 สี คือ Thunder Black, Indian Motorcycle Red, Silver Smoke (matte) และ Thunder Black Smoke (matte) ราคาจำหน่ายเริ่มต้น 849,000 บาท สัมผัสและทดลองขับขี่ได้ที่โชว์รูมและศูนย์บริการ ซอยพัฒนาการ 76, โชว์รูมและศูนย์บริการ จังหวัดนครราชสีมา หรือคลิกชมรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่www.indianmotorcyclethailand.com
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit