ปตท.จับมือ มูลนิธิอภัยภูเบศร สำรวจแนววางท่อส่งก๊าซฯ ในพื้นที่มูลนิธิฯ ใหม่ เพื่ออนาคตความมั่นคงทางพลังงานของประเทศ

13 Feb 2015
จากกรณีการก่อสร้างโครงการวางท่อส่งก๊าซฯ ของ บริษัท ปตท . จำกัด (มหาชน) ในพื้นที่ของมูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ต.เนินหอม อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี โดยจังหวัดปราจีนบุรี ได้แต่งตั้งคณะทำงานแก้ไขปัญหาโครงการวางท่อส่งก๊าซธรรมชาติเส้นที่ 4 (ระยอง-แก่งคอย) ช่วงผ่านที่ดินของมูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ซึ่งประกอบด้วย รองผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดปราจีนบุรี ปลัดจังหวัดปราจีนบุรี นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดปราจีนบุรี ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดปราจีนบุรี เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดปราจีนบุรี โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดปราจีนบุรี ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ประธานมูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรฯ ผู้อำนวยการโครงการท่อส่งก๊าซธรรมขาติเส้นที่ 4 (ระยอง-แก่งคอย) ปตท. ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน และพลังงานจังหวัดปราจีนบุรี และมีการประชุมหารือร่วมกันเป็นครั้งที่ 2 ในวันนี้ (12 กุมภาพันธ์ 2558) นั้น

นายสมฤกษ์ บัวใหญ่ รองผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี ในฐานะประธานการประชุมฯ ได้แจ้งผลการหารือว่า คณะทำงานฯ มีมติร่วมกันให้ ปรับแนววางท่อส่งก๊าซฯใหม่ โดยให้วางท่อตามแนวตะเข็บในพื้นที่ของมูลนิธิฯ อภัยภูเบศร ด้วยวิธีการขุดเปิด ตามข้อเสนอของคณะทำงานฯ ในการประชุมครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2558 ที่ผ่านมา เพื่อให้การก่อสร้างโครงการท่อส่งก๊าซธรรมชาติเส้นที่ 4 (ระยอง-แก่งคอย) แล้วเสร็จตามกำหนด อันจะเป็นประโยชน์สูงสุดต่อประเทศในการจัดส่งพลังงานให้แก่ทุกภาคส่วน

นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่บริหารความยั่งยืนและวิศวกรรมโครงการ บริษัท ปตท . จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปตท. ขอขอบคุณ ท่านรองผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี ในฐานะประธานการประชุมและคณะทำงานฯ ทุกท่านเป็นอย่างยิ่ง ในความเห็นร่วมกันเพื่อแก้ไขปัญหา ซึ่งการปรับแนวท่อส่งก๊าซฯ ในครั้งนี้ สามารถผสานเจตนารมณ์ในการใช้ประโยชน์เพื่อสังคมในพื้นที่ของมูลนิธิฯ และการสร้างโครงข่ายพลังงานเพื่อประเทศของ ปตท. ได้เป็นอย่างดี โดย ปตท. พร้อมเข้าสำรวจพื้นที่ของมูลนิธิฯ เพื่อประเมินสภาพพื้นที่ตามขั้นตอนมาตรฐานการดำเนินงาน และวางแผนการทำงานแบบขุดเปิดได้ทันที ซึ่งจะช่วยให้การก่อสร้างมีประสิทธิภาพและลดผลกระทบที่อาจเกิดในระหว่างการก่อสร้างได้เป็นอย่างดี ซึ่งการวางท่อแบบขุดเปิดหน้าดินจะไม่มีการใช้แร่ดินเบนโทไนต์แต่อย่างใด ทั้งนี้ ขั้นตอนหลังจากนี้จะต้องมีการนำมติดังกล่าวไปดำเนินเรื่องกับคณะกรรมการกำกับกิจกรรมพลังงาน (กกพ.) เพื่ออนุมัติการปรับแนวเขตระบบท่อดังกล่าวต่อไป สำหรับการพิจารณา ค่าชดเชยความเสียหายในพื้นที่ของมูลนิธินั้น ได้มีการแต่งตั้งคณะทำงานตรวจสอบและชดเชยความเสียหาย ทั้งในและนอกเขตระบบต่อไป

“ปตท. ขอขอบคุณ มูลนิธิฯ อภัยภูเบศร ในการสนับสนุนความร่วมมืมอดังกล่าว และให้โอกาส ปตท. ได้เข้าสำรวจพื้นที่ โดย ปตท. จะดำเนินการก่อสร้างให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุด เพื่อให้พื้นที่ของมูลนิธิฯ สามารถสร้างประโยชน์ให้แก่สังคมสมดังความตั้งใจ และเป็นแหล่งเรียนรู้สมุนไพรที่สำคัญของชาติและภูมิภาค ปตท. พร้อมสนับสนุนการพัฒนาสมุนไพรและผลิตภัณฑ์ของอภัยภูเบศรซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่คนไทยภาคภูมิใจด้วยความจริงใจ” นายอรรถพล กล่าวเสริมในตอนท้าย