นายทากุโอะ ฮาเซกาวา ประธานกรรมการบริษัท ไลท์เฮ้าส์ อินโฟ เซอร์วิส จำกัด ผู้บริหารสถาบันสอนภาษาและศูนย์แนะแนวศึกษาต่อประเทศญี่ปุ่นเจเอ็ดดูเคชั่น เปิดเผยว่า ความนิยมของเยาวชนไทยที่สนใจไปเรียนต่อประเทศญี่ปุ่นมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นทุกปี โดยข้อมูลในปี 2556 พบว่ามีนักเรียนไทยศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัยและวิทยาลัยที่ญี่ปุ่นประมาณ 2,383 คน และศึกษาอยู่ในสถาบันสอนภาษาญี่ปุ่นประมาณ 660 คน ขณะที่รัฐบาลญี่ปุ่นมีนโยบายส่งเสริมการเพิ่มจำนวนนักศึกษาไทย ด้วยการมอบทุนการศึกษาแก่นักเรียนไทยอย่างต่อเนื่องการจัดแข่งขัน J-Challenge จึงถือเป็นอีกหนึ่งแนวทางในการสนับสนุนเยาวชนไทยที่สนใจศึกษาต่อประเทศญี่ปุ่น โดยเปิดโอกาสให้นักเรียน นิสิต นักศึกษาเข้าร่วมแข่งขันตอบปัญหาภาษาญี่ปุ่นและความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับญี่ปุ่น เพื่อชิงรางวัลทุนการศึกษาไปเรียนภาษาญี่ปุ่นและสัมผัสชีวิตของชาวญี่ปุ่นเป็นเวลา 2 สัปดาห์ โดยแบ่งการแข่งขันออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ ประเภทนักเรียนที่กำลังศึกษาภาษาญี่ปุ่นอยู่ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 สัญชาติไทย ซึ่งมีนักเรียนเข้าร่วมแข่งขันทั้งหมด 360 ทีม และประเภทนักศึกษาระดับปริญญาตรีทุกชั้นปี อายุไม่เกิน 26 ปี ไม่จำกัดคณะและสาขาวิชา สัญชาติไทย ในปีนี้มีผู้สมัครเข้ามาประชันความรู้จำนวน 71 ทีม
สำหรับผลการแข่งขันประเภทนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 ทีมชนะเลิศ ได้แก่ นางสาวชนิกานต์ สุขประสงค์ และ นางสาวธนัญชนก พิบูลย์ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา
โดย ชนิกานต์ เล่าว่า “จุดเริ่มต้นที่ทำให้สนใจภาษาญี่ปุ่น เกิดจากชอบดูการ์ตูนญี่ปุ่น ทำให้ซึมซับวิถีชีวิตแบบญี่ปุ่นผ่านตัวการ์ตูนมาตั้งแต่เด็ก จนกลายเป็นแรงบันดาลใจในการศึกษาภาษาญี่ปุ่นด้วยตัวเอง พอมาเรียนชั้น ม.4 ที่ ร.ร.เตรียมอุดมศึกษา จึงเลือกเรียนภาษาญี่ปุ่นอย่างจริงจัง สำหรับเทคนิคการเรียนจะเน้นอ่านหนังสือเยอะๆ ทบทวนบทเรียน เพื่อจำคำศัพท์ให้เยอะขึ้น ส่วนเหตุผลที่สนใจมาแข่งขัน J-Challenge 2015 เพราะเห็นว่าเป็นเวทีที่น่าสนใจ เลยต้องการเข้ามาหาประสบการณ์ ซึ่งการแข่งขันค่อนข้างยาก เพราะนอกจากภาษาแล้ว ยังต้องมีความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับญี่ปุ่นด้วย พอได้รางวัลแล้วรู้สึกดีใจที่จะได้ไปเรียนภาษาญี่ปุ่นและสัมผัสชีวิตที่ประเทศญี่ปุ่นนานถึง 2 สัปดาห์”
ธนัญชนก เล่าถึงแรงบันดาลใจที่ทำให้ชอบภาษาญี่ปุ่นว่า “ชอบเล่นเกมของญี่ปุ่นมาตั้งแต่ชั้น ม.1 จึงต้องพยายามอ่านวิธีการเล่นที่เป็นภาษาญี่ปุ่นให้ได้ เลยเริ่มฝึกแกะคำ สะกดคำ และหาความหมายด้วยตัวเอง พอรู้คำศัพท์และความหมายมากขึ้น ทำให้เกิดความสนุกจนต่อยอดมาสู่การดูหนัง ฟังเพลงภาษาญี่ปุ่น ซึ่งสิ่งเหล่านี้ถือเป็นเทคนิคที่ทำให้เรียนรู้ภาษาญี่ปุ่นได้รวดเร็วขึ้น ช่วยเสริมทักษะการฟังและการออกเสียงที่ถูกต้อง สำหรับเหตุผลที่สนใจมาแข่งขันChallenge 2015 เพราะอยากได้รางวัลไปญี่ปุ่น ซึ่งตอนนี้สามารถทำความฝันของตัวเองให้เป็นจริงได้แล้ว”
ทางด้านทีมที่ชนะเลิศการแข่งขันประเภทนักศึกษาระดับปริญญาตรี ได้แก่ นางสาวพรรณิดา ขำนิพัทธ์ และ นางสาวจริวรรณ โชตินวนนท์ นักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะอักษรศาสตร์ เอกภาษาเอเชียตะวันออก (ภาษาญี่ปุ่น) มหาวิทยาลัยศิลปากร
พรรณิดา กล่าวว่า “รู้สึกดีใจมากๆ ที่ได้รางวัลชนะเลิศ เกินความคาดหวังที่ตั้งไว้ เพราะคู่แข่งเก่งกันทุกทีม โดยส่วนตัวแล้วชอบเรื่องราวของญี่ปุ่นมาตั้งแต่ชั้นประถม เพราะได้รับอิทธิพลมาจากสื่อบันเทิงอย่างการ์ตูน เพลง และดารานักแสดง ทำให้สนใจที่จะเรียนรู้ภาษาญี่ปุ่นด้วยตัวเอง ทั้งซื้อหนังสือมาอ่าน หัดคัดตัวอักษร ท่องคำศัพท์และหาความหมาย โดยจะท่องซ้ำๆ จนกว่าจะจำได้ ส่วนการแข่งขันครั้งนี้ ถือเป็นประสบการณ์ที่ดี เป็นโอกาสได้มาทดสอบความรู้ อีกทั้งยังได้พัฒนาความรู้อื่นๆ เพิ่มเติม ทั้งจากการหาข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับญี่ปุ่นและจากคำถามที่คณะกรรมการตั้งขึ้น”
ทางด้าน จริวรรณ เล่าว่า “ชอบภาษาญี่ปุ่นมาตั้งแต่ชั้นประถม เพราะรู้สึกว่าตัวอักษรดูน่ารัก จึงเป็นจุดเริ่มต้นในการเสาะหาหนังสือภาษาญี่ปุ่นมาอ่านอย่างจริงจัง จากนั้นก็หันมาดูการ์ตูน ภาพยนตร์ และฟังเพลง ซึ่งเป็นเทคนิคพัฒนาทักษะเหมือนกับการเรียนภาษาต่างประเทศอื่นๆ แต่การเรียนภาษาญี่ปุ่นจะมีความยากตรงหลักไวยากรณ์ ซึ่งมีความซับซ้อนมากกว่าภาษาอังกฤษ การเข้ามาแข่งขัน Challenge 2015 ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวในการเรียนรู้ภาษาญี่ปุ่นนอกห้องเรียน รู้สึกดีใจและภูมิใจมากที่สามารถนำความรู้มาต่อยอดสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้ตัวเองได้”
น้องๆ เยาวชนที่สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการแข่งขัน J-Challenge ได้ที่www.japanexpothailand.org/j-challenge
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit