นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวต่อว่า การจัดกิจกรรมตามโครงการถนนสายวัฒนธรรม จะเป็นการเปิดพื้นที่ในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางวัฒนธรรม โดยเปิดโอกาสให้ประชาชนมีพื้นที่ในการจำหน่ายสินค้า ซึ่งจะส่งผลให้ประชาชนกินดีอยู่ดี สร้างรายได้ให้ชุมชนอย่างยั่งยืนตามนโยบายรัฐบาล อีกทั้ง ยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยได้นำร่อง เส้นทาง ตลาดนครชุม ตำบลนครชุม อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร เป็นแห่งแรก เนื่องจากตลาดนครชุม เป็นตลาดเก่าที่มีเรื่องราวที่เป็นประวัติศาสตร์ สืบทอดกันมายาวนาน ซึ่งจะสามารถสร้างกระแสการท่องเที่ยวถนนสายวัฒนธรรมให้เป็นที่รู้จักได้ โดยกระทรวงวัฒนธรรม ร่วมกับจังหวัดกำแพงเพชร จัดพิธีเปิดเมื่อวันที่ 6 ก.พ.58 ที่ผ่านมา และจะจัดกิจกรรมต่อเนื่องในทุกวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ ตั้งแต่บัดนี้ ไปจนถึงเดือนมีนาคม 2558
นอกจากนี้ กระทรวงวัฒนธรรม จะประเมินผลการดำเนินงานในการจัดกิจรรมดังกล่าว ทั้งข้อดีและข้อเสีย เพื่อนำไปพัฒนา และปรับปรุง การจัดกิจกรรมอีก 10 จังหวัด ได้แก่ เส้นทาง ตลาดร้อยปีเมืองย่า ถนนมุขมนตรี ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมาเส้นทาง ข่วงเมืองน่าน อำเภอเมือง จังหวัดน่าน เส้นทาง เชียงของ อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย เส้นทาง เซราะกราว วอล์คกิ้งสตรีท ถนนพิทักษ์ อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ เส้นทาง หน้าพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสงขลา อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา เส้นทาง กำแพงประวัติศาสตร์เมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ เส้นทาง ตลาดต้าน้ำต้นตาล (วัฒนธรรมไทยวน) อำเภอเสาไห้ จังหวัดสระบุรี เส้นทาง ตลาดร้อยสิบเก้าปี เจ็ดเสมียนอำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี เส้นทาง ถนนอัฎฐารส หน้าวัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร จังหวัดลำพูน และเส้นทาง ตรอกโรงยา อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี
ทั้งนี้ คาดหวังว่าการจัดกิจกรรมตามโครงการถนนสายวัฒนธรรมทั้ง 11 จังหวัดดังกล่าว จะเป็นต้นแบบในการจัดกิจกรรมให้จังหวัดอื่นๆทั่วประเทศ โดยคาดว่าในปีหน้า 2559 จะสามารถขยายพื้นที่การจัดกิจกรรมเพิ่มเป็น 30 จังหวัด