เรื่องเพจแอนตี้รู้ตัวคนทำไหม ?
“แรกๆ ที่นั่งดูก็ไม่ได้สงสัยอย่างที่เคยบอกไปว่าทุกคนก็โดนกันหมด แต่เริ่มเอาข้อมูลที่ยอมรับว่าเป็นข้อมูลส่วนตัว รูปภาพที่ไม่มีทางมีใครได้มีถ้าคนไม่ได้เป็นเพื่อนในไลน์ของบุคคลที่เขากล่าวถึงจริงๆ เช่นการนำเอารูปของเพื่อนชายมาลงซึ่งอยู่ในโทรศัพท์เขา แล้วเขาเองก็ไม่ได้มีเพื่อนที่ไหน เราเคยยืมโทรศัพท์เขาใช้ในการติดต่อคนใกล้ตัว และคอนแทกมันก็มีอยู่แค่ประมาณ 10 คน เพราะฉะนั้นการที่จะดึงรูปจากโทรศัพท์เขาไปมันต้องเป็นคนในนั้นเท่านั้น เขาไม่เคยโพสที่ไหนอยู่แล้วค่ะ แล้วก็ข้อมูลที่เป็นอีเมลล์ในเรื่องของการทำงาน ระบบการทำงานตอนเป็นบริษัทโบยีเนี่ยว่ามันคืออะไรยังไง ก็จะไม่เอ่ยชื่อนะคะ วันนี้จะไม่มีการเอ่ยชื่อของฝ่ายตรงข้าม เราก็เลยจพะร้อยเรื่องให้ฟังว่าทำไมเราถึงว่าเป็นคนใกล้ตัว แล้วไม่เคยบอกว่าเป็นคู่กรณี แต่ที่เราแจ้งความไปเป็นพนักงานทั้งหมด พนักงานที่เคยทำกับเรา ตอนนี้จะไปทำกับใครเราไม่ทราบตรงนั้น แต่โดยฐานข้อมูลแล้วไม่สามารถนำไปเผยแพร่ได้”
มั่นใจว่าเป็นคู่กรณี ?
“มั่นใจ ด้วยหลักฐานที่เราไปยื่นให้ดีเอสไอต่างๆ ตอนนี้เขาก็รู้ตัวแล้วนะ ว่าเราหมายถึงเขา เขาก็ยังเขียนลงในเพจแอนตี้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งถ้าเอาตามจริงสิ่งมที่เขียนลงเฟชบุ๊คถ้ามันไม่ใช่ตัวเขาจริงๆ เขาจะไม่ร้อนขนาดนั้น แต่เขาร้อนแทนไปถึงเชฟ ร้อนแทนไปถึงคนมันเลยยิ่งออกอาการ ทำให้ทางนั้นเขาตามจับได้ง่ายขึ้น”
เห็นบอกทางตำรวจจะปิดภายใน 12 ชั่วโมง แต่ก็ยังไม่ปิด ?
“ปัญหาที่ไม่ปิดเพราะว่าตอนนี้ต้องการให้เขาเขียนลงเพื่อนที่จะหาตัวย่อของโทรศัพท์ที่ใช้ กับคอมพิวเตอร์ที่ใช้ ซึ่งตอนนี้ก็ได้มาครบแล้วนะคะ ก็คืออีกแค่ไม่กี่วัน”
จะดำเนินการยังไง ?
“จริงๆ ตั้งใจว่าจะไม่ไกล่เกลี่ยในเรื่องนี้นะคะ ไม่ไกล่เกลี่ยเรื่องของธุรกิจที่นำเอาฐานข้อมูลของโยไปทำต่อ ไม่ว่าจริงๆ บริษัทของโยยังไม่ได้ปิดอย่างถาวรนะคะ ตามที่รู้ว่าอีกฝ่ายหนึ่งไม่ได้มา ก็ยังถือว่าธุรกิจยังดำเนินอยู่ เพียงแต่หยุดการขายอาหารเท่านั้นเอง การที่จะมีใครนำข้อมูลทุกอย่างออกไปใช้เพื่อเป็นประโยชน์ต่อตัวเอง ผิดกฎหมายแน่นอน”
เจ้าหน้าที่ว่าไงบ้าง ?
“ตรงนี้เป็นเรื่องของทนายด้วยที่เขาต้องยื่นเรื่องก่อนว่าอะไรเป็นยังไง ร้อยเรื่องทั้งหมดให้เสร็จสิ้น แล้วก็คิดว่าวันที่ 12 นี้คะน่าจะทราบทั้งหมด”
มั่นใจร้อยเปอร์เซ็น ?
“มั่นใจค่ะ มั่นใจแน่นอนแต่จะซัดทอดว่าร่วมทำกับใครอันนี้ไม่ทราบ”
ถ้าเขาโทรมาขอเคลียร์ส่วนตัว ?
“คือตอนนี้บุคคลที่ 3 ที่ 4 ที่จะเป็นพยานให้เราคือรับโทรศัพท์จากเขาหลายครั้ง เขาพยายามไปขอข้อมูลกับบุคคลอื่นๆ ที่โยเคยมีปัญหาด้วย ร่วมทำงานด้วย จนคนอื่นๆ ก็งงว่าน้องคนนี้เคยทำธุรกิจกับเรามาก่อนตอนนี้พยายามจะโทรหาคนอื่นเพื่ออะไร”มีพยาน “มีพยานบุคคลด้วยค่ะที่ยืนยันว่าพยายามเอาข้อมูลโดยทั่วไปจากเราจริงๆ แล้วคราวนี้ก็ไปเดือดร้อนกับหลายคนไม่ได้ตั้งใจที่จะจับเขาเพราะว่ามาเขียนขุดคุ้ยเรื่องราวของเรา เรื่องราวของเราคือเป็นเรื่องราวปกติอยู่แล้ว อะไรท่ามันเกิดขึ้นในอดีตจะถูกดึงมาใช้ในปัจจุบันเสมอ แต่เรื่องบางเรื่องที่มันเป็นคดีความได้ ไม่ควร”
เขาออกมาพูดว่าภายในสิ้นเดือนจะมีการเคลียร์ ?
“แล้วแต่เขานะ เพราะตลอดเวลาเร่าองราวที่เขาพูดมันเปลี่ยนตลอด แล้วแต่ว่าเขาจะมีอารมณ์ที่เขาพูดแบบไหน ยังไงเขาก็จะพูดอยู่เสมอ มาวันนี้โยจะพูดเป็นครั้งสุดท้าย ตัวเองไม่จำเป็นต้องพูดเองอีกแล้วทุกอย่างจะให้ทนายเป็นคนจัดการทั้งหมด ครั้งนี้ก็คงไม่ยอม แล้วก็คงจะไม่แบบอยู่นิ่งแล้ว”
เคลียร์กันรึยัง ?
“วันที่ 12 ค่ะ ก็จะเป็นทนายไม่ทราบนะคะว่าทางนั้นจะมาใครบ้าง เพราะทุกครั้งที่นัดเจอไม่เคยได้เจอเขา ยืนยันไม่เคยเจอเขาจริงๆ”จะไปเองไหม ?
“ครั้งนี้คงไม่ไปแล้วค่ะ เพราะว่าทนายเขาก็จะบอกว่าเขารับเรื่องจากเราทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการขอไกล่เกลี่ยอะไรก็ตาม คือแล้วแต่ทนายว่าเขาจะยอมหรือไม่ยอม”
ถ้าวันที่ 12 นี้ไม่จบ จะทำยังไงต่อไป ?
“ก็เป็นเรื่องขึ้นศาล เชื่อว่าบางเรื่องนะจะถูกผิดต้องให้ศาลตัดสิน แต่บางเรื่องจะถูกผิดตัวเราเป็นคนตัดสินเพราะเราคือคนที่โดนหมิ่นประมาท”
เป็นเรื่องใหญ่ ลุกลาม ?
“คงไม่มีอะไรที่ลุกลามไปกว่านี้แล้ว ใหญ่ไปกว่านี้ แล้วก็น่าเบื่อไปว่านี้แล้วเพราะจริงๆ คือมันง่ายมากแก้ไขปัญหาธุรกิจโดยเฉพาะธุรกิจที่เขาพยายามที่จะพูดตลอดเวลาว่ามันคือเรื่องตัวเลข เรื่องตัวเลขก็ต้องมานั่งคุยกัน มีทนายของคุณ ทนายของโย คุณจะเอายังไงก็คุยเลย แต่การที่คุณออกไปเรียกร้องสิทธิผ่านสื่อประชาชนเขาไม่ได้รู้การทำธุรกิจของเราทั้งหมด เขาจะช่วยคุณได้ยังไงนอกจากว่าจุดมุ่งหมายที่คุณพยายามทำอยู่ตอนนี้มันไม่ใช่เรื่องเงิน ตามที่บอกว่าคุณพยายามเรียกศักดิ์ศรีของคุณ ที่จะทำลายคนคนหนึ่งโยมองว่ามันหมิ่นเหม่เหมือนกันนะ”
วันที่ 12 ถ้าบีไม่มาเคลียร์ เจอที่ศาล ?
“เขาอาจจะไม่มาอีกแล้วก็ได้ อย่างที่ทุกครั้งมอบอำนาจแต่ทุกครั้งคือโยก็เชื่อว่าการมอบอำนาจของเขาเนี่ยมันเป็นเรื่องจริง เป็นเรื่องที่ฟังได้ แต่เอาตามจริงแล้วเนี่ย มันมอบอำนาจให้ใครมามั่วๆ แบบนี้ไม่ได้นะ ถ้าจะมอบอำนาจให้ทนายมาก็ตามก็ต้องมีใบมอบอำนาจให้มันถูกต้อง มอบอำนาจให้เพื่อนสนิทมานั่งคุยๆ แล้วก็นั่งขู่ๆ ตลอดมันก็ไม่ไหวแล้ว”
ถ้าเขานัดเคลียร์ เราจะใจอ่อน ?
“มันไม่มีคำว่าใจอ่อนนะ ถ้าใครที่พูดว่าการที่ไม่มาเจอกันเพราะกลัวจะใจอ่อนตัวโยก็ไม่มีนะ และตัวเขาก็ไม่ควรจะต้องมีด้วย เพราะมาถึงขนาดนี้แล้ว คำว่าใจอ่อนไม่ต้องมาใช้แล้ว มันมาไกลเกินกว่าที่มันจะยุติแบบสวยงาม”
ติดตามบทสัมภาษณ์แบบเต็มๆ ได้ในรายการ “คนดังนั่งเคลียร์” ได้ทางช่อง 2 ทุกวันจันทร์-ศุกร์เวลา 11.30 / 15.00 / 20.00 น. เสาร์-อาทิตย์11.00/15.00/20.00 และติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่ www.facebook.com/thaich2
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit