กลยุทธ์การดำเนินงานและกำไรสุทธิหลักส่งให้ผลประกอบการไอวีแอลปี 57 เติบโตแข็งแกร่ง

23 Feb 2015
บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) หรือ ไอวีแอล ผู้ผลิตในอุตสาหกรรมปิโตรเคมีขั้นกลางชั้นนำของโลก รายงานผลประกอบการปี 2557

บริษัทฯ รายงานกำไรสุทธิหลักในปี 2557 อยู่ที่ 5.1 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 146 จากปี 2556 และมีกำไรสุทธิหลังจากหักรายการพิเศษและรายการที่ไม่ใช่เงินสดอยู่ที่ 1.48 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 12 จากปี 2556 กำไรหลักก่อนหักดอกเบี้ย ภาษีเงินได้ ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (Core EBITDA) โตร้อยละ 30 จากปี 2556 อยู่ที่ 19.5 พันล้านบาทในปี 2557

ราคาวัตถุดิบในครึ่งหลังปี 2557 ปรับตัวลดลงตามราคาน้ำมันดิบ ทำให้บริษัทฯ มีกระแสเงินสดเพิ่มขึ้น โดยมีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 22.4 พันล้านบาทในปี 2557 หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 114 จากปี 2556

นายอาลก โลเฮีย รองประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทฯ กล่าว “กลยุทธ์ของบริษัทฯ ที่มุ่งเน้นการพัฒนากลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่ม (HVA) เริ่มแสดงให้เห็นถึงผลตอบแทน เรากำลังพัฒนากลุ่มผลิตภัณฑ์เส้นใยสำหรับสินค้าเพื่อสุขอนามัยจากสินทรัพย์หลายแห่งที่เรามีให้ดำเนินงานอย่างสมบูรณ์และกำลังอยู่ระหว่างการพัฒนากลุ่มผลิตภัณฑ์เส้นใยและเส้นด้ายสำหรับยานยนต์และอุตสาหกรรมเพิ่มเติม โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพและความปลอดภัย เช่น ยางรถยนต์ เข็มขัดนิรภัย ถุงลมนิรภัย เป็นต้น กำไรที่สูงขึ้นจากธุรกิจเส้นใยเส้นด้ายและการลดต้นทุนอย่างต่อเนื่องจากโครงการความเป็นเลิศด้านการปฏิบัติงานที่ดำเนินการทั่วโลก ส่งผลให้กำไรหลักก่อนหักดอกเบี้ย ภาษีเงินได้ ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (Core EBITDA) โตร้อยละ 30 เราได้เห็นผลกระทบจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลง ส่งผลให้มีการบันทึกการขาดทุนจากการลดมูลค่าของสินค้าคงเหลือในไตรมาสที่ 4 ในขณะเดียวกันส่งผลดีต่อบริษัทฯ ทำให้มีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานสูงขึ้น เนื่องจากเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินกิจการลดลงจากราคาที่ต่ำลง”

“บริษัทฯกำลังดำเนินการตามแผนกลยุทธ์โดยการเข้าซื้อกิจการที่ช่วยเสริมสร้างผลกำไรและกระแสเงินสด ธุรกิจผลิตภัณฑ์ที่จำเป็นประเภท PET และบรรจุภัณฑ์กำลังเติบโต ในทางภูมิศาสตร์ เราขยายการให้บริการลูกค้าหลักในตลาดเกิดใหม่ โดยเฉพาะในประเทศตุรกี ซึ่งเราเป็นผู้ผลิต PET รายหลักในปัจจุบัน เรามีการเพิ่มปริมาณการผลิตของโรงงานผลิต PET ของเราในเมืองกวางตุ้ง รวมทั้งโรงงานผลิตเส้นใยโพลีเอสเตอร์แห่งใหม่ในประเทศอินโดนีเซีย Polychem หรือ CP4 และเพิ่มผลผลิตของโรงงานอื่น ๆเช่น ที่โปแลนด์ โดยการเพิ่มกำลังการผลิต

“แม้ว่าอินโดรามา เวนเจอร์ส ครบรอบ 25 ปีในปีนี้ แต่เรายังคงไม่หยุดนิ่ง เราคาดว่าจะเสร็จสิ้นข้อตกลงในการเข้าซื้อกิจการ Performance Fibers Asia ในประเทศจีนเร็วๆนี้ ซึ่งจะเข้ามาช่วยเสริมทัพกลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับยานยนต์ของเราในยุโรป สำหรับการเข้าซื้อกิจการ Polyplex ในประเทศตุรกี จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งในตลาด PET ในภูมิภาคยุโรปตะวันออกเฉียงใต้และขยายปริมาณการผลิตในตลาดหลักของเรา”

“เรามุ่งเน้นด้านความยั่งยืนอย่างต่อเนื่องในอนาคต โดยมีปริมาณการผลิตผลิตภัณฑ์รีไซเคิลเพิ่มขึ้นและมีการขยายกำลังการผลิตไปยังประเทศเม็กซิโกและไทยในปี 2557”

กลุ่มธุรกิจ PET

ธุรกิจ PET คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 50% ของปริมาณการผลิตรวมของไอวีแอลและมีกำไรหลักก่อนหักดอกเบี้ย ภาษีเงินได้ ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (Core EBITDA) คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 48 ในปี 2557 ปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้นจาก 2.9 ล้านตันในปี 2556 เป็น 3.1 ล้านตันในปี 2557 หรือโตร้อยละ 7 และจากการเพิ่มขึ้นของปริมาณการผลิตส่งผลให้มี Core EBITDA อยู่ที่ 286 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2557 เทียบกับ 248 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2556 หรือเติบโตจากปีที่แล้วร้อยละ 15

ธุรกิจเส้นใยและเส้นด้าย

มีปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้นจาก 0.91 ล้านตันในปี 2556 เป็น 1.15 ล้านตันในปี 2557 หรือโตร้อยละ 26 การเสริมความแข็งแกร่งของกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่ม (HVA) ด้วยการเข้าซ้อกิจการ PHP Fibers ส่งผลให้กำไรมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว ในปี 2557 กลุ่มธุรกิจเส้นใยเส้นด้ายมีกำไรหลักก่อนหักดอกเบี้ย ภาษีเงินได้ ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (Core EBITDA) อยู่ที่ 126 ล้านเหรียญสหรัฐ เทียบกับ 95 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2556 หรือเติบโตร้อยละ 34

ธุรกิจวัตถุดิบ

ธุรกิจวัตถุดิบ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 32% ของปริมาณการผลิตของไอวีแอลและมีกำไรหลักก่อนหักดอกเบี้ย ภาษีเงินได้ ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (Core EBITDA) คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 32 ในปี 2557 จากกำไรของเอทิลีนออกไซด์บริสุทธิ์ (PEO) ที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งในปี 2557 เมื่อเทียบกับปี 2556 รวมทั้งการบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพของโรงงาน PTA ส่งผลให้ Core EBITDA ต่อตันเพิ่มขึ้นเป็น 97 เหรียญต่อตันในปี 2557 จาก 73 เหรียญต่อตันในปี 2556

รายจ่ายฝ่ายทุน

บริษัทฯ ตั้งงบในการลงทุนในปี 2558- 2561 ประมาณ 1.9 พันล้านเหรียญสหรัฐสำหรับค่าใช้จ่ายเพื่อการเติบโตและค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา 0.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ (รวม 2.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ) โดยมาจากกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน การกู้ยืมและการออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิ์ที่มีลักษณะคล้ายทุน จากเงินลงทุนรวม 2.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ บริษัทฯ คาดว่าจะใช้เงินลงทุนจำนวน 1.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2558 ซึ่งเป็นโครงการที่ได้ประกาศไปแล้วจำนวน 0.6 พันล้านเหรียญสหรัฐและที่เหลืออีกจำนวน 0.9 พันล้านเหรียญสหรัฐที่กำลังอยู่ระหว่างการเจรจา หากโครงการดังกล่าวมีการประกาศและเสร็จสิ้น บริษัทฯ คาดว่า จะเพิ่มกำลังการผลิตใหม่ร้อยละ 25 ในปี 2558 เทียบกับปี 2557 ไอวีแอลวางเป้าหมายในการรักษาอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นให้อยู่ประมาณ 1 เท่าในระยะยาว ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯ มีอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ที่ 0.83 เท่า ณ เดือนธันวาคม 2557 ไอวีแอลมีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง เนื่องจากมีรายได้หลักมาจากผลิตภัณฑ์ที่มีความจำเป็นในชีวิตประจำวัน