ในโอกาสนี้ นายสุทัศน์ เตชะวิบูลย์ ในฐานะกรรมการเลขาธิการและประธานอนุกรรมการอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้กล่าวถึงแนวทางการดำเนินงานด้านการกู้ชีพกู้ภัยของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งในปี 2558 ว่า “มูลนิธิฯ จะเร่งพัฒนาทั้งในด้านศักยภาพของบุคลากรและพัฒนาอุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือให้มีความทันสมัยมากยิ่งขึ้น เพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ เออีซี อย่างสมบูรณ์ของไทยปลายปีนี้ เพื่อที่หน่วยกู้ภัยของมูลนิธิฯ สามารถให้ความช่วยเหลือชาวต่างชาติในประเทศไทยที่จะมีจำนวนเพิ่มขึ้นได้อย่างมีมาตรฐานสากล”“มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งเรามีแผน Modernisation คือพัฒนาศักยภาพของอาสาสมัครฯ ให้มีความรู้ความเชี่ยวชาญในการกู้ชีพกู้ภัยมากยิ่งขึ้น รวมถึงจะพัฒนาอุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือในการออกหน่วยให้ทันสมัยขึ้น ทั้งรถพยาบาล เครื่องมือทางการแพทย์ หรืออื่น ๆ ทั้งนี้เพื่อรองรับความเปลี่ยนแปลงในสังคม อาสาสมัครต้องรู้ว่าเมื่อเจอเคสผู้บาดเจ็บที่เป็นต่างชาติเราจะทำอย่างไร โดยเบื้องต้นทางทีมงานอาสาสมัครป่อเต็กตึ๊ง พร้อมด้วยหัวหน้าหน่วยอาสาฯ ประจำจุดต่าง ๆ และ ดร.นพ. ไพโรจน์ บุญศิริคำชัย รองเลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ หรือ สพฉ. จะนัดพบปะหารือร่วมกันเพื่อวางแนวทางในการพัฒนาการกู้ชีพกู้ภัยของเหล่าอาสาฯ” นายสุทัศน์กล่าวพร้อมเผยต่อว่า “มูลนิธิฯ ยังจะมีการจัดสร้างศูนย์ฝึกอบรมอาสาสมัครฯ ในอนาคตอันใกล้เพื่อที่จะสามารถพัฒนาศักยภาพของอาสาสมัครฯ ได้อย่างเต็มที่ ขอขอบคุณอาสาสมัครป่อเต็กตึ๊งทุกท่านที่เสียสละทั้งเวลาและแรงกายเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ประสบความเดือดร้อนทั้งจากอุบัติเหตุและอุบัติภัยต่าง ๆ การเสียสละ ตรงนี้จะเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนให้ประเทศไทยพัฒนาไปสู่ทิศทางที่ดีต่อไปในอนาคต”
ปัจจุบันมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งมีอาสาสมัครทั้งสิ้นประมาณ 4,000 คน โดยมีทั้งอาสาสมัครที่เป็นบุคคลทั่วไป และอาสาศิลปิน ซึ่งเป็นบุคคลในวงการบันเทิง ซึ่งแม้อาสาสมัครแต่ละคนจะมีที่มาแตกต่างกัน แต่สิ่งหนึ่งที่เหมือนกันคือความเสียสละและความตั้งใจที่จะช่วยเหลือสังคมน.ส. ปวีณา ศรีสวัสดิ์ อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ประจำจุดตลาดพลู ซึ่งเข้าร่วมเป็นอาสาสมัครกู้ภัยของมูลนิธิฯ มากว่า 3 ปีแล้ว กล่าวถึงแรงบันดาลใจในการเข้ามาเป็นอาสาสมัคร ว่า เนื่องจากเป็นงานที่ชอบและต้องการทำความดีเพื่อสังคม โดยหน้าที่ส่วนใหญ่จะเป็นการปฐมพยาบาลผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ
“ตรงนี้เป็นงานที่เราตั้งใจทำ ก็จะใช้เวลาหลังเลิกงานคือตั้งแต่หนึ่งทุ่มถึงตีหนึ่งมาออกจุด ถึงเราจะเป็นผู้หญิงก็ไม่ได้รู้สึกว่างานอาสากู้ชีพกู้ภัยเป็นงานที่น่ากลัวนะ แต่คิดว่าเราได้ทำความดี ความดีไม่มีขาย ทำไปเลยไม่ต้องอายใคร”
ด้าน จิ้ม ชวนชื่น หรือ นายนพดล ทรงแสง อาสาศิลปินของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง กล่าวถึงเหตุผลที่ตัดสินใจมาเป็นอาสาสมัครของมูลนิธิแห่งนี้ว่า “คือผมว่าเรื่องของสังคมมันไม่ใช่เรื่องของใครคนใดคนหนึ่ง อะไรที่เราพอจะช่วยเหลือสังคมได้เราก็น่าจะทำ แล้วผมเป็นเบอร์แรกของการเปิดรหัสศิลปินของป่อเต็กตึ๊งนะ เขาให้ผมเลือกเลยว่าจะใช้รหัสอะไร ด้วยความที่ผมผูกพันกับเลข 7 ผมเกิดวันที่ 7 ปี 2507 เลยเลือกรหัสศิลปิน 7 สำหรับผมสิ่งสำคัญที่ผมได้จากการเป็นอาสาสมัครของป่อเต็กตึ๊งก็คือมิตรภาพจากเพื่อน ๆ อาสาสมัครซึ่งมีอยู่ทั่วประเทศ เราไม่ได้เป็นผู้ให้จากการช่วยเหลือคนอื่นอย่างเดียวนะ แต่เรายังได้รับด้วย คือทุกครั้งที่ตัวผมหรือญาติมิตรเพื่อนฝูงไปประสบเหตุที่ไหนแค่โทรศัพท์ไปบอกเพื่อน ๆ ที่เป็นอาสาป่อเต็กตึ๊งก็จะได้รับความช่วยเหลือทันที” จิ้ม ชวนชื่น กล่าวด้วยความตื้นตันใจ
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit