นายประยุทธ ศิริสวัสดิ์พิพัฒน์ รักษาการเลขาธิการ ก.ส.ล. ชี้แจงว่า ประธาน ก.ส.ล. ได้เน้นย้ำเป็นพิเศษในเรื่องการควบรวมในครั้งนี้ว่า จะต้องรักษาเจตนารมณ์ของกระทรวงพาณิชย์ในการใช้การซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า เป็นเครื่องมือเพื่อทำให้กลไกราคาทำงาน สามารถสะท้อนราคาสินค้าเกษตรไทยให้สามารถใช้อ้างอิงในตลาดโลกในฐานะที่เราเป็นผู้ส่งออกสินค้าเกษตรรายใหญ่ รวมไปถึงเป็นเครื่องมือในการประกันความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาสินค้าเกษตรของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งท้ายที่สุดคนที่จะได้รับประโยชน์คือพี่น้องเกษตรกร ที่สามารถใช้ราคาจากการซื้อขายล่วงหน้ามาวางแผนการผลิตได้
นอกจากนี้นายประยุทธยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ในระหว่างการดำเนินการด้านกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการการควบรวมนั้น AFET ยังคงเปิดให้มีการซื้อขายการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้าตามปกติ ขอให้ผู้ซื้อขายไม่ต้องกังวล เนื่องจากสำนักงาน ก.ส.ล. ได้ทำงานร่วมกับ AFET TFEX และ ก.ล.ต. เพื่อเชื่อมต่อธุรกิจให้ดำเนินไปได้อย่างต่อเนื่อง โดยหากมีความคืบหน้าใดๆ สำนักงาน ก.ส.ล. จะเร่งประชาสัมพันธ์ให้ทราบ หรือหากมีข้อสงสัยประการใด สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ สำนักงาน ก.ส.ล. โทรศัพท์ 0-2685-3250“ส่วนด้านการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่สำนักงาน ก.ส.ล. และ AFET นั้น รมว. พาณิชย์ ได้เน้นย้ำให้พนักงาน ก.ส.ล. ทุกคนได้โยกย้ายไปทำงาน ณ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ (กลต.) และ พนักงาน AFET ไปทำงานที่ ตลาดหลักทัรพย์แห่งประเทศไทย โดยได้รับสิทธิประโยชน์และค่าตอบแทนไม่น้อยกว่าที่ได้รับอยู่ในปัจจุบัน” นายประยุทธกล่าวทิ้งท้าย