ดร. พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวในงานแถลงข่าวการจัดงานถนนสายวิทยาศาสตร์ รับวันเด็กแห่งชาติ ปี 2558 ว่า นายกรัฐมนตรี ได้ย้ำในการแถลงผลงาน 3 เดือนของรัฐบาลว่า กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ต้องเป็นหลักในการนำวิทยาศาสตร์มาพัฒนาประเทศ โดยการเพิ่มนักวิทยาศาสตร์ให้มากขึ้น กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ในฐานะเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรง จึงให้ความสำคัญในการพัฒนาศักยภาพเด็กและเยาวชน ในการฝึกฝนวิธีการคิดแบบวิทยาศาสตร์ โดยการนำองค์ความรู้มาถ่ายทอดให้เยาวชนได้เรียนรู้และเกิดแรงบันดาลใจใฝ่เรียนใฝ่รู้ยิ่งขึ้น เนื่องจากศาสตร์ทางด้านวิทยาศาสตร์มีความจำเป็นอย่างยิ่งในการสร้างชาติไทยให้เข้มแข็ง เป็นรากฐานที่สำคัญต่อการพัฒนาประเทศ และเป็นศาสตร์พื้นฐานในการสร้างสังคมแห่งความรู้ และสังคมที่มีเหตุมีผล การฝึกฝนวิธีการคิดแบบวิทยาศาสตร์จึงจะช่วยให้เด็กและเยาวชนในวันนี้เติบโตไปเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพ โดยใช้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์เป็นฐานในการตัดสินใจ ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาชาติต่อไปในอนาคต สอดคล้องกับคำขวัญวันเด็กที่นายกรัฐมนตรีมอบให้ในปีนี้ว่า “ความรู้ คู่คุณธรรม นำสู่อนาคต”
“งานถนนสายวิทยาศาสตร์” จึงเป็นกิจกรรมสำคัญที่จัดขึ้นเพื่อมุ่งหวังกระตุ้นและจุดประกายให้เยาวชนไทยหันมาสนใจเรียนรู้เรื่องวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยถือเอาวันเด็กแห่งชาติของทุกปีเป็นวาระสำคัญในการจัดงาน กิจกรรมนี้กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ จัดต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 9 แล้ว ร่วมกับ 3 หน่วยงานพันธมิตรทางด้านวิทยาศาสตร์บนถนนโยธีและพระรามที่ 6 ได้แก่ สำนักงานมาตรฐานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม กรมทรัพยากรธรณี กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล และ กระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งต่างตั้งใจเปิดบ้านให้เยาวชนได้เข้ามาสัมผัสและเรียนรู้ ตลอดจนได้สนุกสนานเพลิดเพลินกับกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้อีกมากมาย ที่จะช่วยฝึกสมอง ต่อยอดความคิดจินตนาการ และฝึกฝนทักษะผ่านการทดลองจริง เพื่อมอบเป็นของขวัญให้เด็กไทยทุกคน
รศ.ดร.วีระพงษ์ แพสุวรรณ ปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวเพิ่มเติมว่า เนื่องด้วยในปีนี้ องค์การสหประชาชาติประกาศให้เป็นปีแสงและเทคโนโลยีด้านแสงสากล (International Year of Light and Light-based Technologies)และปีดินสากล (International Year of Soils) เพื่อเป็นการร่วมฉลองทั้งสองปีสากลนี้ จึงจัดสถานีทดลองต่างๆ ให้มีความสอดคล้องกับเรื่องของแสงและดินอย่างหลากหลาย อาทิ มหัศจรรย์แสงแห่งไอที เรียนรู้โลกสารสนเทศไปกับกิจกรรมทางไอทีที่หลากหลายโดยองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) นิวเคลียร์เพื่ออนาคต พบกับความรู้ด้านนิวเคลียร์และแสงกับรังสี มาตรวิทยากับโลกแห่งแสงสี พบห้องปฏิบัติการแสง สี การกระจายคลื่นแสง และใยแก้วนำแสง ครอบครัวอะตอม พบเครื่องบินเล็กสำรวจปริมาณรังสีในสิ่งแวดล้อมและชุดหุ่นเก็บวัสดุกัมมันตรังสี ขุดคุ้ยลุยดิน ให้เยาวชนทดลองขุดคุ้นดินประเภทต่างๆ เพื่อค้นหาสิ่งมีชีวิตน้อยๆ ที่ซ่อนอยู่ใต้ผืนดิน ปลูก-ปั้น-แต่ง ที่จะฝึกใช้ประโยชน์จากดินร่วน ดินเหนียว ดินทราย รวมทั้งสถานีที่น้องๆ จะเที่ยวตะลุยไปในอวกาศ ได้แก่ ไขความลับ... หลุมดำ และ ระฟ้าท้าอวกาศ อีกทั้งสามารถ download mobile application คลังข้อมูลน้ำและภูมิอากาศแห่งชาติ ที่สถานีมา ตาม น้ำ และร่วมสนุกกับ The Xvolution game เรียนรู้วิวัฒนาการสิ่งมีชีวิตผ่าน Application ที่สถานีพลังวิทย์ กับ สวทช. สำหรับน้องๆ ที่ชอบการทดลอง พลาดไม่ได้กับการมาร่วมปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ได้ที่ 10 สถานีของ สวนสนุก วศ. ที่สำคัญในปีนี้ยังมีกิจกรรมพิเศษสำหรับน้องๆ กลุ่มเด็กพิเศษที่สามารถมาร่วมสนุกได้ที่สถานี ถอดรหัสพันธุกรรม พร้อมตื่นตาตื่นใจกับการเปิดตัวครั้งแรกกับนิทรรศการวิทยาศาสตร์ใน ของเล่นภูมิปัญญาไทย โดย อพวช. ขณะเดียวกัน ยังมีสถานีการทดลอง การเรียนรู้ทางวิทยาศาสตร์ ที่รวมมิตรเรื่องวิทย์ฯ ทั้งชีววิทยา เคมี ฟิสิกส์ คณิตศาสตร์ และความรู้พื้นฐานด้านต่าง ๆ อีกด้วย
สำหรับสถานีของพันธมิตร กรมทรัพยากรธรณี ได้จัดแสดงพิพิธภัณฑ์ขนาดเล็กจิ๋วแต่แจ๋วด้วยตัวอย่างแร่ – หินที่สวยงามหายากในประเทศไทย สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม เปิดสวนสนุกสร้างความสุขหรรษาให้กับเด็กๆ และที่คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดสถานีเฉพาะในวันเสาร์ที่ 10 มกราคม เพื่อให้เด็ก ๆ ได้พบกับบรรยากาศของความเป็นนักวิทยาศาสตร์ ทั้งในรูปแบบของนักสืบแนววิทยาศาสตร์ นักวิจัยตัวน้อย นักอนุรักษ์ธรรมชาติ โดยนอกจากจะได้รับความรู้และความบันเทิงแล้ว ยังได้รับของรางวัลมากมาย พร้อมรับสิทธิ์ชิงรางวัลใหญ่ ภายในงาน
นายสาคร ชนะไพฑูรย์ รองผู้อำนวยการ รักษาการผู้อำนวยการ อพวช. กล่าวเพิ่มเติมว่า อพวช. เป็นหน่วยงานหลักจัดงานในครั้งนี้ ได้เตรียม Passport เป็นหนังสือเดินทางบนถนนสายวิทยาศาสตร์ ที่ท้าทายความสามารถของน้องๆ ในการเดินทางและเรียนรู้กิจกรรมต่างๆ ให้ครบทุกสถานี เพื่อรับรางวัลต่างๆ ที่ซุ้มรับรางวัลของ อพวช. ซึ่งจัดเตรียมไว้อย่างมากมาย พร้อมขอเชิญชวนน้องๆ เยาวชน และโรงเรียนที่สนใจสามารถมาเที่ยวชมงานถนนสายวิทยาศาสตร์ รับวันเด็กแห่งชาติ 2558 ได้ตั้งแต่วันที่ 8 - 10 มกราคม 2558 ซึ่งเปิดให้เที่ยวชมฟรี โดยสามารถเดินทางได้ทั้งรถโดยสารประจำทาง ตลอดจนรถไฟฟ้าบีทีเอส ทั้งนี้ ในวันที่ 10 มกราคม กระทรวงวิทย์ฯ ได้เตรียมรถ Shuttle Bus ไว้รับ-ส่ง ณ สถานีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้มาเที่ยวชมงานตลอดทั้งวันอีกด้วย
ดร.พิเชฐ กล่าวทิ้งท้ายว่า ขอเชิญชวนผู้ปกครองพาลูกๆ หลานๆ มาเที่ยวงานที่ได้จัดเตรียมไว้อย่างยิ่งใหญ่ในครั้งนี้ เพื่อให้เยาวชนไทยได้เปิดโลกทัศน์ มาเรียนรู้วิทยาศาสตร์อย่างสนุกสนาน สัมผัสกับประสบการณ์จริงที่ไม่มีในตำรา พร้อมรับของแจก ของรางวัล และร่วมสนุกกับเกม การละเล่นมากมาย ที่ทุกหน่วยงานในกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ และพันธมิตรร่วมสร้างสรรค์ผ่านกิจกรรมและเครื่องเล่นทางปัญญา มากกว่า 100 กิจกรรม จาก 47 สถานีการทดลอง บนถนนสายวิทยาศาสตร์แห่งนี้
นอกจากนี้ ในวันที่ 10 มกราคม 2558 นั้น อพวช. ยังเปิดบ้านจัดกิจกรรมการเรียนรู้ฉลองวันเด็กแห่งชาติอีก 2 แห่ง คือที่ อพวช. คลองห้า ปทุมธานี และจัตุรัสวิทยาศาสตร์ อพวช. ชั้น 4 จามจุรีสแควร์ สามย่าน ใกล้ที่ไหนไปที่นั่น สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0 2577 9999 ต่อ 2122
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit