สรุปราคาซื้อขายทองคำ และ Gold Futures ภายในประเทศ ณ วันศุกร์ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2558 เวลา 9.00 น.

16 Jan 2015
ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,230 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,255 เหรียญ/ออนซ์ (22.30น.) ค่าเงินบาทปิด 32.74 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 19,000 บาท กับ 19,100 บาท และกลับมาปิดที่ 19,100 บาท กับ 19,200 บาท

ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาท อยู่ที่ 1024 คู่สัญญา แบบ 10 บาทอยู่ที่ 6910 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 5.7 % แบบ 10 บาท เพิ่มขึ้น 14.4 % GFG14 ปิด 19,620 บาท และ GFJ14 ปิด 19,720บาท GF10G14 ปิดที่ 19,610 บาท GF10J14 ปิดที่ 19,710 บาท

สัญญา Comex เพิ่มขึ้น 30.3 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,264.80 ดอลลาร์/ออนซ์ NYMEX ลดลง 2.23 เซนต์ ปิดตลาดที่ระดับ 46.25 ดอลลาร์/บาร์เรล SPDR ถือครองทองคำอยู่ที่ระดับ 717.15 ตัน (ซื้อเข้า 9.56 ตัน)

ข่าวที่สำคัญ

ทองคำปรับตัวขึ้นหลังจาก ธนาคารกลางสวิสฯ (SNB) ประกาศยกเลิกเพดานการกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินฟรังก์สวิสเมื่อเทียบกับค่าเงินยูโรที่ระดับ 1.20 พร้อมปรับลดดอกเบี้ยลงสู่ระดับ -0.75% จากระดับ -0.25% เพื่อควบคุมไม่ให้สกุลเงินสวิสฯแข็งค่ามากเกินไป และป้องกันไม่ให้เศรษฐกิจสวิสฯเข้าสู่ภาวะถดถอย

อย่างไรก็ดี ราคาทองคำยังขึ้นไปทดสอบจุดสูงใหม่บริเวณ 1,266 เหรียญ/ออนซ์ โดยปรับขึ้นกว่า 2.45% เพราะได้รับแรงหนุนเพิ่มจากตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวลงกว่า 100 จุด หลังจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯออกมาค่อนข้างน่าผิดหวัง ซึ่งหลังจากที่ทองคำทะลุบริเวณเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน บริเวณ 1,253 เหรียญ/ออนซ์ แนวต้านสำคัญระยะสั้นถัดไปของทองคำจะอยู่ที่ระดับ 1,280 เหรียญ

นักวิเคราะห์จาก AG BANK กล่าวว่า ธนาคารกลางสวิสฯไม่เห็นหนทางใดที่ดีในอนาคต เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์ยังคงอยู่ในทิศทางที่แข็งค่า ขณะที่เศรษฐกิจรัสเซียอยู่ในแนวโน้มที่ไม่สดใส และอีซีบีมีแนวโน้มจะประกาศใช้ QE รวมถึงผลกระทบจากภาคส่งออกและภาคธนาคารขนาดใหญ่ในประเทศที่เริ่มประสบภาวะชะลอตัว จึงส่งผลให้ธนาคารกลางสวิสฯ ประเมินว่า ปัจจัยเหล่านี้อาจสร้างแรงกดดันต่อเศรษฐกิจสวิสฯ

อย่างไรก็ดี การประกาศดำเนินการดังกล่าวของ SNB ส่งผลให้ตลาดหุ้นยุโรปและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวลดลง จึงทำให้นักลงทุนเข้าถือครองทองคำในฐานสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยง ขณะที่ค่าเงินฟรังค์สวิสเมื่อเทียบกับยูโรปรับตัวลดลงกว่า 41% จากระดับ 1.20 ยูโร/ฟรังก์สวิส สู่ระดับ 0.8400 ยูโร/ฟรังก์สวิส และปรับตัวสูงขึ้นกว่า 33% เมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์ที่ระดับ 0.8052 ดอลลาร์/ฟรังก์สวิส ขณะที่ค่าเงินยูโรเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ตอบรับในทันทีโดยปรับตัวลง 1.8% สู่ระดับ 1.1574 ยูโร/ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในเดือนพฤศจิกายน 2003

นักวิเคราะห์ ระบุว่า นโยบายของ SNB สะท้อนให้เห็นถึงความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจยูโรโซน จึงทำให้อีซีบีต้องประกาศเข้าซื้อพันธบัตรเพิ่มเติมครั้งในเพื่อสกัดกั้นภาวะเงินฝืดในการประชุมสัปดาห์หน้า และการดำเนินการดังกล่าวจะส่งผลต่อเศรษฐกิจของประเทศทั้งหมด เพราะจะสร้างแรงกดดันต่อภาคอุตสาหกรรมการส่งออก ภาคการท่องเที่ยว และการจ้างงานภายในประเทศ

ค่าเงินดอลลาร์กลับมาแข็งค่าลงสู่ระดับ 1.1612 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับ 1.1778 ยูโร/ดอลลาร์ และเช้านี้แข็งค่าต่อที่ระดับ 1.1607 ขณะที่ดัชนีดอลลาร์ปรับตัวลดลงมาสู่ระดับ 92.19 จาก 92.35 หลังจากดัชนี PPI แสดงให้เห็นว่าแรงกดดันเงินเฟ้อในระดับผู้ผลิตยังอ่อนแรง จึงอาจส่งผลให้เฟดไม่เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วๆนี้

ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ที่ออกมาไม่สดใสวานนี้ ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้น 19,000 ราย สู่ระดับ 316,000 ราย โดยมีคนว่างงานเพิ่มสูงขึ้นในรอบกว่า 6 สัปดาห์ ขณะที่ดัชนีภาคการผลิตประจำฟิลาเดเฟียออกมาแย่ลงสู่ระดับ 6.3 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2013

นอกจากนี้ ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ในเดือนธันวาคมของสหรัฐฯ ยังคงทรงตัวที่ระดับต่ำมากที่สุดในรอบ 3 ปี (ตุลาคม ปี 2011) ที่ระดับ -0.3% จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลง

แหล่งข่าวภายใน เผยว่า บีโอเจจะดำเนินการปรับทบทวนคาดการณ์เงินเฟ้อ (CPI) ฟื้นฐานของปีงบประมาณ 2015 สู่ระดับ 0-0.5% จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัว 1.7% ในการประชุมสัปดาห์หน้า หลังจากน้ำมันดิบในตลาดโลกร่วงลงกว่า 44%

ธนาคารกลางอินเดียประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% สู่ระดับ 7.75% โดยเป็นการปรับลดดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 2 ปี เพื่อกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศ ขณะที่อัตราเงินเฟ้อในประเทศเริ่มชะลอตัวลง

ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิด -2.23 เหรียญ ที่ระดับ 46.25 เหรียญ/บาร์เรล เพราะได้รับแรงกดดันหลังจากโอเปค กล่าวว่า อุปทานน้ำมันที่มีมากเกินไปในขณะนี้อย่างน้อย 1 ล้านบาร์เรล/วัน เป็นปัจจัยที่กดดันต่อราคาน้ำมันปีนี้ ขณะที่ภาวการณ์ซื้อขายในตลาดโลกยังเป็นไปอย่างซบเซา

ตลาดหุ้นทั่วโลกเกิดความผันผวนจากการประกาศนโยบาย SNB โดยข่าวดังกล่าวส่งผลให้ตลาดหุ้นยุโรปปิด +2.58% แต่กดดันให้ตลาดดาวโจนส์ปิด -0.61% หรือร่วงลงกว่า 106.38 จุด และทำให้ตลาดดาวโจนส์ยังคงปิดในแดนลบ 5 วันทำการ ( 5 วันตลาดหุ้นดาวโจนส์ร่วงลง 587.16 จุด)

นอกจากนี้ ตลาดหุ้นดาวโจนส์ยังได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐฯ รวมถึงผลประกอบการที่ย่ำแย่ของกลุ่มแบงก์ในสหรัฐฯ

เช้านี้ ดัชนีนิกเกอิเปิด -1.73% เพราะได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของตลาดหุ้นนิวยอร์ก ขณะที่การแข็งค่าของเงินเยนยังฉุดรั้งหุ้นกลุ่มส่งออกให้ปรับตัวลดลงด้วย

ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญเมื่อคืน

PPI m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -0.2 % ตัวเลขที่ออกมาอยู่ที่ระดับ -0.3%

Unemployment Claims ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 297 K ตัวเลขที่ออกมาอยู่ที่ระดับ 316K

Core PPI m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.0 % ตัวเลขที่ออกมาอยู่ที่ระดับ 0.3%

Empire State Manufacturing Index ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -3.6 ตัวเลขที่ออกมาอยู่ที่ระดับ 10.0

Philly Fed Manufacturing Index ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 24.5 ตัวเลขที่ออกมาอยู่ที่ระดับ 6.3

ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญในคืนนี้

CPI m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -0.3 % ตัวเลขที่คาดการณ์อยู่ที่ระดับ -0.3%

Core CPI m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.1% ตัวเลขที่คาดการณ์อยู่ที่ระดับ 0.1%

Prelim UoM Consumer Sentiment ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 93.6 ตัวเลขที่คาดการณ์อยู่ที่ระดับ 94.2

TIC Long-Term Purchases ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -1.4B ตัวเลขที่คาดการณ์อยู่ที่ระดับ 27.3 B

ทิศทางราคาทองคำ

ราคาทองคำมีการปรับตัวขึ้นอย่างรุนแรงหลังจากที่ธนาคารกลางสวิสฯ (SNB) ประกาศที่จะไม่ผูกติดค่าเงินฟรังก์สวิสกับยูโรที่ระดับ 1.2 ทำให้ค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวตามสภาพความเป็นจริง ขณะเดียวกันประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับ -0.75% ทำให้ค่าเงินฟรังก์สวิสแข็งค่าอย่างรวดเร็วเมื่อเทียบกับยูโร/ดอลลาร์ และดอลลาร์/ฟรังก์สวิส กว่า 10%จึงมีผลทันทีและทำให้ราคาทองคำช่วงต้นแกว่งและดีดตัวสูงขึ้นทันทีในช่วงต้นทันทีกว่า 20 เหรียญจากระดับ 1,232 เหรียญ มาสู่ระดับ 1,253 เหรียญในทันที และเคลื่อนไหวทันทีในตลาด COMEX ในระดับ 1,260 เหรียญและยืนอยู่ไดตลาดการซื้อขายเมื่อคืนนี้ การที่สวิสไม่ผูกติดกับค่าเงินยูโร เนื่องจากมีความกังวลว่าอีซีบีจะใช้มาตรการ QE อีก 5 แสนล้านดอลลาร์ในสัปดาห์ข้างหน้า ซึ่งสวิสฯเป็นผู้ซื้อรายใหญ่ของโลก นักวิเคราะห์หลายฝ่ายมองว่ายูโรมีโอกาสร่วงลงหรือต่ำกว่า 1.0 ยูโร/ดอลลาร์ ขณะที่ค่าเงินบาทปรับตัวแข็งค่าขึ้นเช่นกัน หลังจากหลุดแนวรับสำคัญ 32.80 บาท/ดอลลาร์ โดยเช้านี้ร่วงลงมา 32.70 บาท/ดอลลาร์แล้ว จึงมองว่าค่าเงินบาทเองมีทิศทางจะแข็งค่าขึ้น ขณะที่ทองคำได้รับอานิสงค์ในเชิงบวกจากการเกิดวิกฤตการณ์ความเชื่อมั่นทางด้านค่าเงินสกุลต่างๆในโลกขณะนี้

วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค

ราคาทองคำทะลุแนวต้านสำคัญที่ระดับ 1,257 เหรียญ ซึ่งเป็นระดับเส้นค่าเฉลี่ยสำคัญของรายวันและรายสัปดาห์ รวมถึง 1 เดือนทำให้ราคาทองคำทั้งในระยะสั้น กลาง และยาว เริ่มกลับมาเป็นขาขึ้นอย่างชัดเจน ซึ่งเดิมทีตามที่ได้วิเคราะห์แล้วว่าทองคำเป็นขาขึ้นแต่ระยะยาวเป็นขาลงนั้น ถ้าราคายืนเหนือ 1,260 เหรียญได้ในอีก 2 วันทำการ ในระยะยาวในกราฟรายสัปดาห์จะเป็นการยืนยันการขึ้นของทองคำแบบถาวร ซึ่งคาดว่าจะขึ้นได้อีกสักระยะหนึ่ง อย่างน้อย 2-3 สัปดาห์ วันนี้คาดว่าจะเคลื่อนตัวในกรอบ 1,250-1,280 เหรียญ โดยที่วิเคราะห์ว่ายังเป็นแนวโน้มทิศทางขาขึ้น แต่ราคาน่าจะมีการแกว่งตัวค่อนข้างมาก แนวรับสำคัญอยู่ที่ระดับ 1,250 และ 1,235 เหรียญตามลำดับ แนวต้านสำคัญ 1,280 และ 1,310 เหรียญตามลำดับ

กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้

กลยุทธ์แนวโน้มขาขึ้น

  • นักลงทุนที่ถือ Long Position

ปิดขายทำกำไรเป็นช่วงๆ

  • นักลงทุนที่ถือ Short Position

แนะนำให้ปิดสถานะ Short หรือทำ Stop Loss เพื่อควบคุมความเสี่ยงหรือขาดทุน

กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading

บริหารพอร์ทสมดุล หากราคายืนเหนือ 1,260 เหรียญได้ในอีก 2 วันทำการ ในระยะยาวในกราฟรายสัปดาห์จะเป็นการยืนยันการขึ้นของทองคำแบบถาวร

Gold Futures G15 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,600 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,800 บาท

Gold Futures J15 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,700 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,900 บาท

บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

ประชาสัมพันธ์:

1. เนื่องในวันจันทร์ที่ 19 มกราคม 2558 เป็นวันหยุดต่างประเทศในวัน Martin Luther King Jr.Day ระบบ Gold Online และ Gold Phone จะเปิดทำการตั้งแต่เวลา 08.30-00.00น. โดย P/O Real Time จะมีผลในช่วงที่ตลาดเปิดทำการเท่านั้น และตลาดจะกลับมาเปิดให้บริการตามปกติอีกครั้งในเช้าวันอังคารที่ 20 มกราคม 2558

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม 02-770-7777

1. MTS Gold เชิญลูกค้าสมาชิกเข้าร่วมงานสัมมนา “ทำกำไรในทองคำโดยใช้กราฟทางเทคนิค 3 ระดับ” ร่วมบรรยายโดย นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ

โดยระดับที่ 1 จัดขึ้นในวันที่ 19 มกราคม 2558 ณ สาขาเซ็นทรัลปิ่นเกล้า ชั้น 17 และ 2 กุมภาพันธ์ 2558 ณ สาขาเซ็นทรัลลาดพร้าว ชั้น 12 เวลา 15.00-17.00น. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม 02-770-7777

2. MTS Gold ประกาศปรับ Rate อัตราดอกเบี้ยเงินวางค้ำประกันของ Gold Spot และ Gold Futures จากระดับ 0.90% สู่ระดับ 1.00% ต่อปี โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2558 เป็นต้นไป สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม 02-770-7777

3. นักลงทุนสามารถติดตามการวิเคราะห์ตลาดทองคำและตลาดอนุพันธ์ (ช่วงเช้า) กับ MTS Gold ได้ในรายการ “รู้ทองรวยเงิน” ทางช่อง TNN24 ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 10.10-10.15น.

4. รายการ Gold Tonight by MTS Gold ปรับเปลี่ยนเวลาใหม่ให้เร็วขึ้น ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 21.00-21.05น. ทางช่อง Money Channel ตั้งแต่วันที่ 5 ม.ค.58

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม: 02 770 7777

บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

MTS Research

MTS Gold Group

Phone: 02-770-7777

Fax: 02-623-9366

Email: [email protected]

Website: http://www.mtsgold.co.th