“เรื่องที่เลิกกับกระต่าย คือเมื่อ 2 วันก่อนที่เขาขึ้นอินสตราแกรมเป็นรูปหมีกับกระต่ายซึ่งเป็นตัวแทนของเราสองคน เก๋เป็นหมี ส่วนกระต่ายก็เป็นกระต่าย ซึ่งคืนก่อนหน้านี้ที่ประกาศเลิกกัน กระต่ายเขาก็มาตัดพ้อ ส่วนตัวเก๋ไม่รู้เรื่องเลย เพราะทุกอย่างเป็นปกติมาโดยตลอด เก๋เลยคิดว่าคงไม่เกี่ยวกับเรามั้ง แต่เป้าหมายมันเหมือนพุ่งตรงมาที่เราเพราะรูปการ์ตูนมันเป็นหมีกับกระต่าย แฟนคลับก็เริ่มไลน์มาหา มาถามว่าเกิดอะไรขึ้น เก๋ก็บอกเราเองก็ไม่รู้ไม่แน่ใจเหมือนกัน ถ้าเรารู้ก็จะรีบเคลียร์ทันทีแต่เราไม่รู้จริงๆ เราก็ตอบแฟนคลับไปว่าเราไม่รู้เลย เราก็เลยรีบครอปหน้าอินสตราแกรมแล้วไปถามว่ามันเกิดอะไรขึ้น เป็นอะไร โอเคดีนะ เทคแคร์นะ แต่เขก็ไม่ตอบอะไร คือเรายังไม่รู้ตัวเลยว่าเรามีปัญหาอะไรกับเขา พอรุ่งเช้ามาเก๋ก็อัพรูปหูกระต่ายชูสองนิ้วของเราเพื่อให้กำลังใจเขา เพราะเราก็ยังไม่คิดว่ามันเกี่ยวกับตัวเรา หลังจากนั้นอีกครึ่งชั่วโมงเขาก็ไลน์มาบอกว่าเราห่างกันไหม เลิกกันไหม บอกตรงๆคนอย่างเก๋ถ้ามั่นใจว่าตัวเองไม่ผิด เราก็จะไม่ถามหาเหตุผลอยู่แล้ว เราก็คิดเสมอว่าเขาก็มีทางที่จะไปเหมือนกัน ที่ผ่านมาเราก็คุยกันตรงๆ ทุกอย่าง เราก็ไม่มีอะไรติดใจกันอยู่แล้ว แต่ครั้งนี้มันทำให้ชามากกว่า เหมือนยืนเฉยๆแล้วสิบล้อพุ่งชนเป็นอาการแบบนั้นเลยค่ะ ตัวเก๋เองก็ไม่ถามอะไรเขาก็บอกเขาไปแค่ว่าเข้าใจทุกอย่าง แต่คำว่าเข้าใจของเก๋ คือไม่เข้าใจเลย ทำไมไม่เคลียร์กันให้ชัดเจน ?
“คือตัวเก๋เองก็อยากเคลียร์นะคะ แต่ความรู้สึก ณ ตอนนั้นคือคนมันกำลังชา เก๋ไม่เคยโดนบอกเลิกเลย เราก็ทำตัวปกติ ใช้ชีวิตปกติ แต่ตอนนั้นชาแล้ว เลยนั่งนิ่งๆอยู่ประมาณชั่วโมงหนึ่ง แล้วโทรหาพี่กระแต พี่สาวของกระต่ายว่าเก๋ไม่ได้ผิดอะไรใช่ไหมพี่ พี่กระแตก็ค่อยเริ่มพูดให้ฟังก็เลยเริ่มเข้าใจมาแล้ว 50 เปอร์เซ็นต์ เราก็โอเคไม่เป็นไร ซึ่งสาเหตุหลักๆมันก็ผิดที่เก๋ว่าที่ผ่านมาเก๋มีแฟนเป็นกระต่ายคนแรกในชีวิตและเป็นคนแรกที่บ้านของเก๋รับรู้ ไม่ต้องนับหญิงหรือชายแต่กระต่ายเขาเคยมีแฟนมาอยู่แล้ว เขาเคยคบคนเขาจะรู้ว่าการวางตัวในฐานะแฟนมันต้องอยู่ยังไง แต่เก๋ไม่รู้ อย่างมีแฮชแท็กชะนีอยากได้เก๋เป็นผัวขึ้นมาบนโลกโซเชียล เก๋ก็ครอปข้อความนั้นแล้วขึ้นว่ารู้สึกดีใจค่ะ ปรากฏว่าสิ่งเหล่านั้นมันทำร้ายจิตใจกระต่ายเขาไปแล้ว เขาไม่เคยพูดให้เราฟัง มันเหมือนว่าเรายินดีพร้อมที่จะเปิดรับคนอื่นเข้ามาเสมอ สองอาทิตย์หนึ่งเราจะเจอกันครั้งหนึ่ง หรือบางทีสองอาทิตย์ครั้ง หนึ่งวันที่เก๋เจอเขา เก๋เลือกที่จะไม่คุยกับลูกค้าเลยไม่ได้ถึงเราจะมีลูกน้องอยู่ เก๋ก็ยังเลือกคุยไม่ว่าจะตอนกินข้าว ประจวบเหมาะกับว่าลูกค้าบางคนก็เป็นคนที่เราเคยคุยด้วย แต่ไม่เคยคบหากัน มาจีบกัน เก๋ไม่เคยเข้าไปหาเขา แต่เขาเข้ามาหาเก๋ในฐานะของลูกค้าก็เลยได้คุยกัน แต่เก๋ก็จะเล่าให้กระต่ายฟังตลอด ทุกเหตุการณ์มันมาบวกให้กระต่ายเขาคิด ที่กระต่ายเขาหวงก็คงไม่แปลกพอเก๋ได้รู้และมองย้อนกลับไปเลยรู้สึกถึงใจเขาว่าเราควรใส่ใจเขามากกว่านี้ เวลามีอะไรเก๋ก็จะเป็นคนตรงๆเล่าให้เขาฟังตลอดว่าวันนี้มีคนนี้มาจีบ ส่งของมาให้ พอเขารับฟังบ่อยๆเข้า คนเป็นแฟนกันมันก็คิด มีรูปกระต่ายกับผู้ชาย ?
“อันนั้นเก๋ไม่รู้จักจริงๆแล้วกระต่ายกับเก๋มีอะไรเราจะคุยกันตลอด แต่เรื่องวีเจแก๊ปเปอร์เก๋ไม่รู้เรื่องเลย เขาเป็นใครก็ไม่รู้ ซึ่งเขาไม่ใช่มือที่สามแน่นอน เพราะถ้าเขามีดีพอที่จะแย่งกระต่ายไปจากเก๋ได้ เราก็ให้ แต่นี่เก๋มั่นพอตัว ซึ่งเก๋คิดว่าเขาน่าจะเป็นเกย์เพราะคงไม่มีผู้ชายคนไหนทำผมสีชมพู แต่เก๋ก็ไม่อยากโจมตีเขา” ยังไม่ได้ง้อกระต่าย ?
“ซึ่งที่ผ่านมาก็ยังไม่ได้ง้อเลย ทุกวันนี้เราก็ยังคุยกันปกติ แต่ความหวานมันหายไป เขาก็ยังเรียกเก๋ว่าบี๋เหมือนเดิม ก็จะมารายงานตลอดว่าบี๋ตอนนี้กลับถึงบ้านแล้วนะนั่นนี้ แต่จากวันละสองร้อยประโยคจะเหลือวันละสองประโยค จริงๆเก๋กับกระต่ายเราคุยกันมาถ้านับถึง มี.ค.นี้เราก็คบกันมา 2 ปีเต็มๆ ส่วนวันนี้ที่เขาไปออกอีกรายการหนึ่งเหมือนกัน เขาก็ไม่ได้บอกแต่เก๋ต้องโฟนอินเข้าไปในรายการ แต่รายการเขาไม่ได้บอกว่าจะมีกระต่ายนั่งอยู่ในรายการด้วย ส่วนจะเคลียร์ไหม เราเคลียร์กันแล้วค่ะ ตอนนี้เก๋เสียใจมากค่ะ เพิ่งรู้ว่าอาการอกหักโดยบอกเลิกมันเหมือนโดยตบหน้า เอาจริงๆมันก็ไม่เจ็บเท่าการโดนบอกเลิก ตอนนี้ยังทำใจไม่ได้เลยไปไหนมาไหนคนเดียวไม่ได้ ต้องไปกับแม่ ยังรู้สึกอยากจะมีใครอยู่ด้วย ก็ยืนยันอีกทีค่ะว่าเราไม่ได้ทะเลาะกัน เราจบกันแบบสวยๆแฟร์ๆทางกระต่ายเองเขาก็ทำใจแต่ทางเก๋ทำใจหนักกว่า เพราะเก๋เป็นฝ่ายโดนบอกเลิก คิดว่าก็คงเคลียร์กันได้ เพียงแต่ตอนนี้ยังไม่ได้เจอกัน เดี๋ยวเราก็ต้องมีงานที่ต้องถ่ายแบบด้วยกัน ก็ไม่รู้จะเจอหน้ากันได้ไหม แต่เหมือนจะเจอกันไม่ได้เพราะยังทำใจไม่ได้ เหมือนตอนนี้เรายังไม่พร้อม”แต่ก็ยังคุยกันเหมือนเดิม ?
“มันอยู่ในช่วงระยะทำใจ ก็ยังคุยกันได้ทุกอย่างเหมือนเดิม แต่มันเหมือนมีเกราะบางๆกั้นอยู่ แต่เดี๋ยวเวลาคงทำให้เรากลับไปเป็นเหมือนเดิม เก๋เคยบอกไว้ว่าถ้าเราไม่ได้คบกัน เราก็ยังจะเป็นเพื่อนกันไปตลอดชีวิต ทางเก๋และครอบครัวกระต่าย คนรอบข้างเราแฮปปี้กันหมดไม่เคยมีปัญหา เหมือนครั้งนี้เขารู้สึก แล้วเราก็รู้ตัวว่าเราทำผิดจริงๆในรายละเอียดปลีกย่อยของการเป็นแฟนกัน” เข็ดไหมกับความรักหญิง-หญิง ?
“มันไม่มีอะไรให้เข็ดเพราะมันไม่มีเรื่องเสียหายอะไรเลยใช้คำนี้ไม่ได้ ส่วนแฟนคนต่อไปของเก๋จะเป็นยังไงเก๋ก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่เก๋ประกาศตัวไว้ตรงนี้เลยนะว่าเก๋ไม่เคยพูดว่าเป็นเลส เบี้ยน เก๋คบได้หมด ขึ้นอยู่กับช่วงเวลานั้นจะถูกใจเพศไปไหน ถ้าทุกอย่างเป็นใจเก๋ก็คบได้ กระต่ายก็เช่นกันเพราะเขาก็เคยมีแฟนทั้งผู้ชายมาก่อนด้วย ส่วนเรื่องที่บอกว่าเราสร้างกระแส เก๋ว่าคำนี้มันเป็นกำไรของคู่เรามากกว่า เราคบกันแล้วขอบคุณที่ทุกคนให้ความสนใจ รู้สึกดีใจมากมันคือผลกำไรที่เหนือการควบคุม เราคบกันมา เราไม่คิดว่าวันหนึ่งเราจะดังได้ จากการที่เราคบกันขนาดนี้ แล้วกระต่ายจะโดนต่อว่าในโลกโซเชียลตลอดว่าเราจับมือสร้างกระแสเพื่อขายของ เก๋บอกเลยว่ากระต่ายไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับธุรกิจของเก๋สักบาทเดียว เก๋เคยบอกกระต่ายว่ากระต่ายทำงานในวงการมายังไม่เคยมีธุรกิจส่วนตัวเลย ตัวเก๋เองเป็นกรรมการผู้จัดการบริษัทของเก๋คนเดียวในบริษัท เก๋แต่งตั้งให้กระต่ายมาเป็นเหมือนเก๋ไหม กระต่ายสามารถมีสิทธิ์มีเสียงในบริษัทเก๋ทุกอย่าง กระต่ายเขายังไม่เอาเลย ฉะนั้นแล้วเรื่องผลประโยชน์ทางธุรกิจหรือมาเกาะกระแสทำธุรกิจขายของขอให้เลิกคิดไปได้เลย กระต่ายเองมีศักดิ์ศรีพอที่จะรับของไม่รับของจากใคร ที่ผ่านมาคนจะเข้าใจว่าเก๋ซื้อรถซื้อนั่นนี่ให้กระต่าย บอกเลยว่ามันไม่มีแบบนั้น เราคบกันด้วยใจจริงๆ ให้ก็ให้กันแค่เล็กๆน้อยๆ เป็นคุณค่าทางจิตใจเท่านั้น การคบกันที่สำคัญมันคือใจที่มีให้กันตลอดค่ะ”
ติดตามบทสัมภาษณ์แบบเต็มๆ ได้ในรายการ “คนดังนั่งเคลียร์” ได้ทางช่อง 2 ทุกวันจันทร์-ศุกร์เวลา 11.30 / 15.00 / 20.00 น. เสาร์-อาทิตย์11.00/15.00/20.00 และติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่ www.facebook.com/thaich2
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit