นายคมศร ประกอบผล หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ กล่าวว่า ในปีนี้ การลงทุนใน REIT จะให้ผลตอบแทนได้ดีอย่างต่อเนื่อง และแนะนำการลงทุนเพิ่มในกองทุนอสังหาริมทรัพย์ประเทศญี่ปุ่น” (J-REITs) ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียและอันดับ 2 ของโลก ซึ่งกำลังฟื้นตัวได้ดี เนื่องจากปัจจุบันราคาที่ดินในเมืองใหญ่ของญี่ปุ่นเริ่มปรับตัวขึ้น หลังจากปรับตัวลงต่อเนื่องมาตลอด 6 ปีก่อนหน้า ซึ่งจะทำให้รายได้จากค่าเช่าของ J-REITs ปรับตัวขึ้นตาม รวมถึงค่าเช่าอาคารสำนักงานซึ่งเป็น Sector หลักของ J-REITs มีแนวโน้มปรับตัวขึ้น เนื่องจากอัตราพื้นที่ว่างของสำนักงานให้เช่า (vacancy rate) ลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในเขตโตเกียว
สำหรับอัตราการสร้างบ้านใหม่ในญี่ปุ่นก็ยังทรงตัวอยู่ในระดับต่ำหลังจากเกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลกในปี 2551 ซึ่งทำให้อุปทานของที่อยู่อาศัยอยู่ในสภาพตึงตัว นอกจากนั้นชาวญี่ปุ่นรุ่นใหม่ยังมีแนวโน้มนิยมการเช่าแทนการซื้อบ้าน เนื่องจากภาษีมรดกที่สูงถึง 40% ทำให้คนญี่ปุ่นรุ่นใหม่นิยมเช่าบ้านอยู่อาศัย และด้านกลุ่มโรงแรม การท่องเที่ยวที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วจากการอ่อนค่าของเงินเยน ก็ช่วยเพิ่มความต้องการห้องพักของนักท่องเที่ยว โดยในปี 2557 มีนักท่องเที่ยวเข้าญี่ปุ่นราว 13 ล้านคน เพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าเมื่อเทียบกับปี 2554 อีกด้วย นอกจากนี้ เมื่อดู Valuation ส่วนต่างระหว่างเงินปันผลของ J-REITs กับดอกเบี้ยที่ได้จากการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลระยะยาว (Dividend Yield Spread) ยังพบว่าสูงสุดในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว ประกอบกับธนาคารกลางญี่ปุ่นยังเพิ่มเป้าหมายการเข้าซื้อ J-REITs ในปี 2015 ตามมาตรการ QQE2 จำนวน 9 หมื่นล้านเยน เพิ่มขึ้นจากปี 2014 ที่ซื้อ 3 หมื่นล้านเยน ซึ่งจากปัจจัยทั้งหมดที่กล่าวมา จึงทำให้ J-REITs เป็นทางเลือกการลงทุนที่น่าสนใจในปี 2558
นายสาห์รัช ชัฎสุวรรณ ผู้อำนวยการสายการตลาด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด (Mr. Saharat Chudsuwan, Head of Marketing and Wealth Advisory, Mutual & Private Fund Business, TISCO Asset Management Co.,Ltd.) กล่าวว่า จากมุมมองดังกล่าว เพื่อเป็นการตอกย้ำบทบาทในการเป็นผู้นำการลงทุนต่างประเทศในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ เพื่อตอบโจทย์นักลงทุนอย่างต่อเนื่อง บลจ.ทิสโก้ จึงเปิดเสนอขายกองทุน “กองทุนเปิด ทิสโก้ เจแปน รีท” (TISCO Japan REIT Fund) ที่มีนโยบายลงทุนในตลาดอสังหาริมทรัพย์ของญี่ปุ่นเป็นรายแรกของไทย ผ่านกองทุน NEXT FUNDS Tokyo Stock Exchange REIT Index Exchange Traded Fund (กองทุนหลัก) ซึ่งเป็นกองทุนรวมอีทีเอฟ ที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์โตเกียว
“เรามองว่าในปีนี้การกระจายความเสี่ยงการลงทุนไปต่างประเทศยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ สำหรับผู้มองหาทางเลือกนอกจากการลงทุนในหุ้นไทย โดยมองว่า J-REITs มีความน่าสนใจ เนื่องจากได้รับปัจจัยหนุนจากนโยบายอาเบะโนมิกส์ที่กระตุ้นให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นฟื้นตัว รวมถึงมาตรการ QQE ที่ต้องการฟื้นฟูภาคอสังหาฯ กองทุนเปิด ทิสโก้ เจแปน รีท จึงเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการเข้าไปลงทุนในตลาดอสังหาริมทรัพย์ญี่ปุ่น
โดยจุดเด่นของกองทุน J-REITs คือมีสภาพคล่องสูงเป็นอันดับต้นๆ ของเอเชีย มีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนอย่างต่ำ 90% ของรายได้ที่ต้องเสียภาษี และยังมีราคาถูกเมื่อเทียบกับการลงทุนในอสังหาฯประเทศพัฒนาแล้ว และบริหารงานโดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ นอกจากนี้ยังมีความคล่องตัวสูง สามารถซื้อขายได้ทุกวันทำการ ซึ่งเชื่อว่าจากประสบการณ์และความเป็นผู้นำในการลงทุนต่างประเทศของทิสโก้ เราจึงมั่นใจว่า กองทุนเปิด ทิสโก้ เจแปน รีท จะเป็นอีกกองที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี” นายสาห์รัชกล่าว
กองทุนเปิด ทิสโก้ เจแปน รีท มีมูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท ไม่กำหนดอายุโครงการ โดยเสนอขายครั้งแรก 19 – 30 ม.ค. 58 โดยผู้สนใจกองทุนดังกล่าว สามารถติดต่อได้ที่ บลจ.ทิสโก้ หรือ ธนาคารทิสโก้ทุกสาขา หรือที่ TISCO Contact Center 02-633-6000 กด 4
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit