คณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ เห็นชอบนำเข้าน้ำมันปาล์ม 50,000 ตัน แก้ไขปัญหาน้ำมันปาล์มขาดแคลนระยะสั้นให้แล้วเสร็จกลางเดือนกุมภาพันธ์ 2558 ยันเป็นปริมาณเหมาะสมไม่กระทบต่อเกษตรกรผู้ปลูก

20 Jan 2015
พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังเป็นประธานคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) พร้อมด้วย นายอำนวย ปะติเส รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ณ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาการแก้ไขปัญหาปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มด้านปริมาณและราคา เนื่องจากขณะนี้ผลผลิตปาล์มน้ำมันออกสู่ตลาดน้อยกว่าปกติ ไม่เพียงพอกับความต้องการใช้ทั้งด้านการบริโภคและพลังงาน จึงมีมติเห็นชอบในหลักการให้มีการนำเข้าน้ำมันปาล์มในปริมาณที่จำกัด เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำมันปาล์มขาดแคลน โดยให้ดำเนินการในระยะเวลาที่สั้นและเร็วที่สุด เพื่อมิให้ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมัน โดยให้องค์การคลังสินค้า (อคส.) นำเข้าในปริมาณ 50,000 ตัน ให้แล้วเสร็จภายในกลางเดือนกุมภาพันธ์ 2558 และกำหนดราคาน้ำมันพืชปาล์มบรรจุขวดลิตรละ 42 บาท เมื่อถึงเดือนมีนาคม 2558 ผลผลิตปาล์มน้ำมันของเกษตรกรจะเพิ่มขึ้น ทำให้สถานการณ์คลี่คลายลงได้ ซึ่งทั้งสมาคมผู้ปลูกปาล์มน้ำมัน และผู้ผลิตก็เห็นชอบตามมตินี้ด้วย

ทั้งนี้ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ได้รายงานสถานการณ์ปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์ม ซึ่งมีปริมาณผลผลิตออกสู่ตลาดลดลง เนื่องจากเกิดภาวะภัยแล้งในแหล่งปลูกตั้งแต่กลางปี 2556 ส่งผลให้ผลผลิตลดลง ตั้งแต่ช่วงเดือนตุลาคม 2557 จนถึงต้นเดือน 2558 ขณะที่ราคาผลปาล์มและน้ำมันปาล์มดิบ ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน 2557 เป็นต้นมา ปรับตัวสูงขึ้นมาก และยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากปริมาณผลผลิตออกสู่ตลาดน้อย และปริมาณสต๊อกคงเหลือน้ำมันปาล์มดิบในประเทศลดต่ำลงมาก ด้านแนวโน้มสถานการณ์ คาดว่าราคาปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มดิบที่เพิ่มสูงขึ้นมากในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2558 เนื่องจากปริมาณผลปาล์มที่ออกสู่ตลาด จะเหลือเพียงเดือนละ 500,000-600,000 ตัน ผลิตเป็นน้ำมันปาล์มดิบได้ 102,515 -110,000 ตัน ซึ่งต่ำกว่าความต้องการใช้ที่ประมาณเดือนละ 150,000 ตัน ส่งผลให้สต๊อกลดลงต่ำกว่าปกติ ดังนั้น การนำเข้าน้ำมันปาล์มในปริมาณที่จำกัดในระยะสั้นจะช่วยแก้ไขปัญหาในช่วงผลผลิตปาล์มน้ำมันลดลงได้

นอกจากนี้ ที่ประชุมได้เห็นชอบในหลักการให้เปิดตลาดนำเข้าน้ำมันปาล์มและน้ำมันเมล็ดปาล์มปี 2558 ตามข้อผูกพันของทุกกรอบการค้า และเห็นควรให้มีการบริหารการนำเข้าตามความตกลงทุกกรอบการค้า เช่นเดียวกับกรอบ WTO คือ ให้องค์การคลังสินค้าเป็นผู้นำเข้าและกระจายให้ผู้ผลิตภายในประเทศตามที่สมาคมโรงกลั่นน้ำมันปาล์มเป็นผู้จัดสรร โดยจะแจ้งให้กระทรวงพาณิชย์และกระทรวงการคลังเพื่อทราบและดำเนินการต่อไป