Big Data หรือเทคโนโลยีการเก็บข้อมูลจำนวนมหาศาลหลายรูปแบบที่เกิดขึ้นจากการใช้งานระบบดิจิตอลของผู้บริโภคนั้นเป็นเทรนด์แรงที่องค์กรทั่วโลกกำลังปรับใช้งานแพร่หลายในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา สาเหตุที่ทำให้ Big Data ได้รับความสนใจเช่นนี้คือการช่วยให้องค์กรธุรกิจสามารถเข้าใจความต้องการของลูกค้าได้มากกว่าในอดีต ซึ่งหากองค์กรไม่สามารถนำข้อมูลเหล่านี้มาวิเคราะห์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ข้อมูลที่เก็บมาได้ก็จะไร้ประโยชน์
ดร.ธนชาติ นุ่มนนท์ ผู้อำนวยการสถาบัน IMC กล่าวว่าหลายประเทศในเอเชียด้วยกันเริ่มปรับตัวเพื่อรับกับเทรนด์ Big Data ที่กำลังจะเกิดขึ้น กลุ่มอุตสาหกรรมที่ตื่นตัวมากอย่างเห็นได้ชัดคือธนาคาร ธุรกิจค้าปลีก รวมถึงธุรกิจโทรคมนาคม ซึ่งล้วนนำข้อมูล Big Data มาวิเคราะห์เพื่อคาดการณ์ความต้องการของลูกค้า รวมถึงการคาดการณ์และวิเคราะห์ยอดขายให้องค์กร
“มูลค่า Big Data ไม่ได้อยู่ที่การเก็บข้อมูล แต่อยู่ที่การคาดการณ์อนาคต ร้านค้าอีคอมเมิร์ซจะรู้ได้ทันทีจากBig Data ว่าลูกค้าอยากซื้ออะไร ทำให้สามารถเสนอสินค้าได้ตรงความต้องการ ขณะที่บริษัทโทรคมนาคมจะสามารถวิเคราะห์ Big Data เพื่อประเมินว่าลูกค้ารายใดมีโอกาสย้ายค่าย ก่อนจะเสนอส่วนลดหรือดำเนินงานเพื่อดึงลูกค้ารายนั้นไว้ให้ทัน แม้แต่ภาครัฐก็ต้องทำ เพราะสามารถประเมินภัยแล้งหรือโรคระบาดได้จาก Big Data ทั้งหมดนี้องค์กรในเอเชียเริ่มปรับตัวแล้ว หากองค์กรไทยยังไม่ขยับ เราจะเริ่มเสียเปรียบด้านการแข่งขันกับธุรกิจต่างชาติเมื่อมีการเปิดเสรี AEC”
ดร.ธนชาติมองว่าความท้าทายเรื่อง Big Data คือการขาดแคลนบุคลากรเพื่อสร้างประโยชน์จาก Big Dataที่มีประสิทธิภาพ เนื่องจากเทคโนโลยีและระบบเก็บข้อมูลจำนวนมหาศาลไม่ได้มีราคาแพงเกินเอื้อมในขณะนี้ แต่สิ่งที่ยังขาดแคลนคือบุคลากรด้าน Big Data ที่ต้องเข้าใจเทคโนโลยี มีความรู้เฉพาะทางของธุรกิจนั้นๆ รวมถึงความสามารถเชิงคณิตศาสตร์ ซึ่งจะทำให้องค์กรได้รับประโยชน์ที่แท้จริงจากการวิเคราะห์ข้อมูล Big Data
“หลายองค์กรมีข้อมูลประเภท Dark Data ที่ไม่เกิดประโยชน์สูงมาก การจะสร้างคนที่เข้าใจเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ ที่ผ่านมา มีการประเมินว่า Big Data จะสร้างงานใหม่มากกว่า 4 ล้านตำแหน่งทั่วโลก ตัวเลขนี้สะท้อนปัญหาว่าวงการ Big Data กำลังต้องการบุคลากร ประเทศไทยเองถือว่ามีบุคลากรด้านนี้น้อย จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องรีบสร้างบุคลากร Big Data เพื่อประโยชน์กับประเทศ”เร่งมือสร้างคน Big Data ในประเทศไทย
เมื่อหลายองค์กรทั่วโลกพยายามนำ Big Data มาช่วยให้การตัดสินใจทางธุรกิจดีขึ้น การหาบุคลากรที่มีทักษะบริหารจัดการและวิเคราะห์ข้อมูลก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้นการฝึกอบรมเพื่อสร้างมืออาชีพขึ้นมาเพื่อวิเคราะห์ข้อมูลมหาศาลอย่างมีประสิทธิภาพจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ประเทศไทยต้องเร่งมือ ก่อนที่หลายประเทศใน AEC จะแซงหน้าไป
“IMC เองก็จัดฝึกอบรมไปแล้วมากกว่า 400-500 คนในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ส่วนใหญ่เป็นหลักสูตรระยะสั้น วันนี้เรามองว่าต้องสอนยาวจึงพัฒนาใหม่เป็นหลักสูตร 120 ชั่วโมง เพราะนอกจากเทคโนโลยี บุคลากร Big Data ต้องเข้าใจเรื่องวิเคราะห์ข้อมูลธุรกิจด้วย เชื่อว่าหลักสูตรนี้จะเป็นประโยชน์กับประเทศ และสามารถสร้างบุคลากร Big Data ได้มากขึ้น”
หลักสูตรอบรม Big Data ระยะเวลา 120 ชั่วโมงของสถาบัน IMC มีชื่อว่า Big Data Certification เป็นหลักสูตร 4 เดือนที่ต้องการพัฒนาให้ผู้เรียนสามารถใช้เครื่องมือต่างๆของ Big Data ได้อย่างดี รวมถึงมีความเข้าใจเรื่อง Business Intelligence และ Data Science ตลอดจนสามารถวางกลยุทธ์และการทำ Predictive Analyticsการสอนในหลักสูตรนี้ประกอบไปด้วยการบรรยาย การทำ Workshop การทำ Assignment และศึกษาดูงาน โดยจะมีการติดตั้งใช้เครื่องมือ Big Data จริงๆที่สามารถทำงานได้ รวมถึงการใช้งานบนระบบ Cloud กำหนดการเริ่มอบรมคือเดือนมีนาคม 2558
นอกจากสร้างคนในประเทศไทย ดร.ธนชาติระบุว่าจะนำองค์ความรู้จากต่างประเทศเข้ามาให้คนไทยสามารถเข้าใจ Big Data ได้เร็วขึ้น จึงร่วมมือกับบริษัทต่างชาติให้คำปรึกษาและพัฒนาโซลูชั่นด้าน Big Data ให้กับองค์กรในประเทศไทย โดยเฉพาะเรื่องของการทำ Analytics ที่ต้องการผู้เชี่ยวชาญด้าน Data Scientist
“Big Data ประกอบด้วยเทคโนโลยีและบุคลากร หลายหน่วยงานในไทยเริ่มซื้อเทคโนโลยีแล้ว IMC จะไปเติมเต็ม 2 ส่วนนี้ คือสร้างบุคลากรและดึงต่างประเทศเข้ามาเพื่อสร้างความเชี่ยวชาญให้บ้านเรา ปูทางให้ธุรกิจไทยสามารถแข่งขันในดิจิตอลอิโคโนมีได้แท้จริง
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit