ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาท อยู่ที่ 482 คู่สัญญา แบบ 10 บาทอยู่ที่ 5,154 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท ลดลง 0.77% แบบ 10 บาท ลดลง 0.87% GFG15 ปิด 19,980 บาท และ GFJ14 ปิด 20,030 บาท GF10G14 ปิดที่ 19,970 บาท GF10J14 ปิดที่ 20,060 บาท
สัญญา Comex ลดลง 5.8 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,285.90 ดอลลาร์/ออนซ์ NYMEX ลดลง 1.78 ดอลลาร์ ปิดตลาดที่ระดับ 44.45 ดอลลาร์/บาร์เรล SPDR ถือครองทองคำอยู่ที่ระดับ 752.70 ตัน (คงทองคำเท่าเดิม)
ข่าวที่สำคัญ
-ทองคำปิดปรับตัวลดลง 0.45% ที่ระดับ 1,285.9 เหรียญ/ออนซ์ เพราะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของคาเงินดอลลาร์ หลังจากเฟดกล่าวว่ายังคงอดทนรอได้สำหรับช่วงเวลาการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ขณะที่ภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐฯอยู่ในแนวโน้มที่แข็งแกร่ง จึงส่งผลให้นักลงทุน ทำการเทขายทองคำ
-นักวิเคราะห์จาก Phillip Futures ระบุว่า ในระยะสั้นราคาทองคำไม่น่าปรับตัวลดลงไปมากกว่า 1,250 เหรียญ/ออนซ์ได้ เนื่องจากยังคงมีแรงซื้อจากจีนเข้ามาในช่วงเทศกาลตรุษจีนที่จะเริ่มต้นขึ้นในเดือนหน้า
-ค่าเงินดอลลาร์เช้านี้แข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.1286 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับ 1.1367 ยูโร/ดอลลาร์ ขณะที่ดัชนีดอลลาร์ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 94.62 จากระดับ 94.02 และค่าเงินเยนเช้านี้แข็งค่าสู่ระดับ 117.71 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 117.8 เยน/ดอลลาร์
-เมื่อคืนนี้ คณะกำหนดนโยบายการเงินของเฟดมีมติด้วยคะแนนเสียง 10-0 ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายใกล้ระดับ 0-0.25%จนถึงกลางปีนี้ ซึ่งการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะขึ้นอยู่กับข้อมูลเศรษฐกิจที่ได้รับ ขณะที่กิจกรรมด้านเศรษฐกิจสหรัฐฯมีการขยายตัวในอัตราที่แข็งแกร่ง และดีขึ้นกว่าเดิมในปีที่แล้ว สำหรับภาพรวมการจ้างงานยังคงมีการเพิ่มขึ้นต่อเนื่องและอัตราว่างงานยังคงมีการปรับตัวลง รวมถึงอัตราเงินเฟ้อยังคงต่ำกว่าเป้าหมายระยะยาวที่เฟดกำหนดไว้
-ทั้งนี้นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ แสดงความคิดเห็นว่า ถ้อยแถลงของเฟดส่งสัญญาณให้เห็นว่าเฟดจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวาระถัดไปในเดือนมีนาคมและเมษายน จึงมีความเป็นไปได้ว่าเฟดน่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลังจากช่วงกลางปีนี้
-นายยานิส วารูเฟกิส รัฐมนตรีกระทรวงการคลังคนใหม่ของกรีซ กล่าวว่า เขามีแผนจะหารือกับนายเจอโรน ดิเซลบลูม ประธานยูโรกรุ๊ปในสัปดาห์นี้ รวมถึงรัฐมนตรีกระทรวงการคลังของอิตาลีและฝรั่งเศส เพื่อขอสนับสนุนแผนในการทำข้อตกลงฉบับใหม่แทนมาตรการรัดเข็มขัด จึงส่งผลให้นักลงทุนในตลาดต่างๆวิตกกังวลว่าท่าทีการต่อต้านมาตรการรัดเข็มขัดดังกล่าว อาจทำให้ยุโรปยกเลิกเงินช่วยเหลือต่อกรีซ ซึ่งจะทำให้กรีซประสบภาวะผิดนัดชำระหนี้ และอาจต้องออกจากยูโรโซน
-ขณะที่รัฐมนตรีว่าการเศรษฐกิจของเยอรมนี คัดค้านการยกหนี้ให้กรีซ และเรียกร้องให้กรีซเปิดกว้างต่อการเจรจาที่เป็นธรรม ซึ่งทางเยอรมนีและประเทศในยูโรโซนจะยังคงให้การช่วยเหลือกรีซ แต่กรีซต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขของมาตรการช่วยเหลือทางการเงิน
-ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิด -3.85% ที่ระดับ 44.45 เหรียญ/บาร์เรล หลังจาก EIA เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบในสัปดาห์ที่แล้วของสหรัฐฯปรับตัวสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์แตะระดับ 8.9 ล้านบาร์เรล จึงทำให้นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับอุปทานน้ำมันดิบล้นตลาด
-เมื่อคืนนี้ตลาดหุ้นดาวโจนส์ปิด -1.13% ขณะที่เช้านี้ตลาดหุ้นนิกเกอิเปิด -0.72% เพราะได้รับแรงกดดันจากการที่เฟดส่งสัญญาณจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลังจากช่วงกลางปี ขณะที่ราคาน้ำมันดิบยังคงเป็นปัจจัยหลักที่กดดันให้หุ้นกลุ่มพลังงาน
-เมื่อวานนี้ กนง. มีมติ 5 ต่อ 2 เสียงให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2% ต่อปี ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ เนื่องจากกรรมการส่วนใหญ่ประเมินว่านโยบายการเงินปัจจุบันอยู่ในเกณฑ์ผ่อนปรน เพียงพอต่อการสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ อีกทั้งการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะไม่เพิ่มความเสี่ยงต่อเสถียรภาพการเงินในภาวะที่อัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ในระดับต่ำต่อเนื่องมานานและตลาดการเงินโลกมีแนวโน้มผันผวนมากขึ้น
ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญเมื่อคืน
ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญในคืนนี้
ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบหลังจากที่เฟดแถลงการณ์ประชุมซึ่งไม่มีอะไรแปลกใหม่ต่อตลาด โดยที่ยังคงอัตราดอกเบี้ยเท่าเดิม 0.25% จึงทำให้ราคาทองคำแทบไม่เคลื่อนไหวเลยบริเวณ 1,285 เหรียญ โดยที่ราคาทองคำคงต้องรอปัจจัยใหม่ๆเพื่อเข้ามาสนับสนุนการเคลื่อนไหวอีกครั้งหนึ่ง ทางด้านตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯอเมริกา ได้แก่ Jobless Claims คาดการณ์ว่าจะมีคนตกงานน้อยลง ขณะที่ Pending Home Sales คาดการณ์ว่าจะปรับตัวลดลงเล็กน้อย ขณะที่ SPDR เมื่อวานนี้คงทองคำเท่าเดิมที่ระดับ 752.7 ตัน โดยภาพรวมค่าเงินดอลลาร์ยังอยู่ในแนวโน้มแข็งค่า โดยเช้านี้เคลื่อนไหวที่ระดับ 1.1285 เยน/ดอลลาร์ ทางด้านค่าเงินเยน 117.82 เยน/ดอลลาร์ ขณะที่เงินบาทอ่อนค่าเล็กน้อยที่ระดับ 32.60 บาท/ดอลลาร์
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ราคาทองคำในเชิงเทคนิคเป็นช่วงเข้าสู่การสะสมพลัง หลังจากที่ราคาทองคำปรับตัวขึ้นกว่า 3 สัปดาห์ เรายังคาดว่าราคาทองคำจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,275-1,300 เหรียญ ขณะที่แนวรับสำคัญจะอยู่ที่ระดับ 1,260 เหรียญ โดยภาพรวมยังเป็นลักษณะ Sideway Up อยู่ ยังคงแนะนำให้นักลงทุนอยู่ในช่วงปรับเปลี่ยนพอร์ต รอความชัดเจนอีกครั้งหนึ่ง
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
เก็งกำไรลักษณะ Sideway Up ในกรอบ 1,275-1,300 เหรียญ
ทำกำไรระยะสั้นเป็นช่วงๆ เข้าออกไว บริหารพอร์ตสมดุล
บริหารพอร์ตสมดุล หาจังหวะปิดสถานะ
กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading
แนะนำให้นักลงทุนอยู่ในช่วงปรับเปลี่ยนพอร์ตให้สมดุล ไม่ Leverage มากเกินไป รอความชัดเจนอีกครั้งหนึ่ง
Gold Futures G15 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,880 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,080 บาท
Gold Futures J15 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,930 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,130 บาท
บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง
ประชาสัมพันธ์:
1. MTS Gold เชิญลูกค้าสมาชิกเข้าร่วมงานสัมมนา “ทำกำไรในทองคำโดยใช้กราฟทางเทคนิค 3 ระดับ” ร่วมบรรยายโดย นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ โดยระดับที่ 1 จัดขึ้นในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2558 ณ สาขาเซ็นทรัลลาดพร้าว ชั้น 12 เวลา 15.00-17.00น. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม 02-770-7777
2. MTS Gold ประกาศปรับ Rate อัตราดอกเบี้ยเงินวางค้ำประกันของ Gold Spot และ Gold Futuresจากระดับ 0.90% สู่ระดับ 1.00% ต่อปี โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2558 เป็นต้นไปสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม 02-770-7777
3. นักลงทุนสามารถติดตามการวิเคราะห์ตลาดทองคำและตลาดอนุพันธ์ (ช่วงเช้า) กับ MTS Gold ได้ในรายการ “Look Forward” ทางช่อง TNN24 ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 10.10-10.15น.
4. รายการ Gold Tonight by MTS Gold ปรับเปลี่ยนเวลาใหม่ให้เร็วขึ้น ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 21.00-21.05น. ทางช่อง Money Channel ตั้งแต่วันที่ 5 ม.ค.58
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม: 02 770 7777
MTS Research
MTS Gold Group
Phone: 02-770-7777
Fax: 02-623-9366
Email: [email protected]
Website: http://www.mtsgold.co.th
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit