พล.ต.อ. อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.พม.กล่าวว่า จากมติคณะรัฐมนตรีเมื่อปีพุทธศักราช ๒๕๓๓ กำหนดให้วันที่ ๑๔ เมษายน ของทุกปี เป็นวันแห่งครอบครัว โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนเห็นความสำคัญของสถาบันครอบครัว สร้างแนวคิดให้ครอบครัวได้เรียนรู้ทำกิจกรรมและใช้เวลาร่วมกัน เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งของครอบครัว ส่งเสริมให้ครอบครัวมีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชน สังคม ประเทศชาติ รวมถึงรณรงค์ให้ภาครัฐ ภาคธุรกิจ และภาคเอกชน มามีส่วนร่วมในการพัฒนาครอบครัวให้มากขึ้น พม.ในฐานะหน่วยงานที่มีหน้าที่ในการเสริมสร้างความเข้มแข็งของสถาบันครอบครัว ตระหนักดีว่าครอบครัวที่มีความสุขจะส่งผลให้สังคมร่มเย็นเป็นสุข ประเทศชาติเจริญก้าวหน้าตามไปด้วย พม. จึงได้จัดงานวันแห่งครอบครัวประจำปี๒๕๕๘ ขึ้น ภายใต้แนวคิด “ความปรองดอง...เริ่มต้นได้ที่ครอบครัว” ด้วยเชื่อว่าความขัดแย้งที่เกิดจากช่องว่างระหว่างวัย เพศ ความคิดและรสนิยมที่แตกต่างกัน หากใช้พื้นฐานของความรักความผูกพันและความเอื้ออาทรกันในครอบครัว จะช่วยลดความขัดแย้งมีการยอมรับความแตกต่างและเกิดความปรองดองขึ้นได้ภายในครอบครัว
นายสมชาย เจริญอำนวยสุข อธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว (สค.) กล่าวว่า ปัจจุบันสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไป ส่งผลกระทบต่อวิธีคิดและวิถีชีวิตของสมาชิกในครอบครัวการไม่ทำตามบทบาทหน้าที่ของสมาชิก พ่อแม่ทุ่มเทเวลาไปกับการหารายได้มาเลี้ยงครอบครัว ละเลยที่จะรักษาสัมพันธภาพระหว่างสมาชิกในครอบครัว ขาดการอบรมบ่มเพาะบุตรให้มีความมั่นคงทั้งร่างกายและจิตใจ ไม่มีการสื่อสารที่ดีในครอบครัว และอาจเกิดการใช้ความรุนแรงในการตัดสินปัญหาทั้งระหว่างสามีกับภรรยา หรือพ่อแม่กับบุตร ซึ่งปัญหาดังกล่าวล้วนบั่นทอนความมั่นคงของครอบครัวทั้งสิ้น
นายสมชาย กล่าวต่อไปว่า ครอบครัวที่อบอุ่นร่มเย็นจะส่งผลให้สมาชิกทุกคนในครอบครัวมีภูมิคุ้มกันที่ดี ความอบอุ่นของครอบครัวต้องเกิดจากการทำบทบาทหน้าที่ของตนเองอย่างเหมาะสม มีการสื่อสารในเชิงบวกและใช้เวลาร่วมกันอย่างสร้างสรรค์ มีระยะห่างในเรื่องต่าง ๆ อย่างเหมาะสม สมาชิกในครอบครัวมีความเป็นตัวของตัวเองมีอิสระทางความคิดแต่ยังคงความเป็นหนึ่งเดียวของครอบครัวได้ เมื่อเกิดความขัดแย้งก็จะสามารถแก้ไขได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ครอบครัวควรสร้างเครือข่ายทางสังคมที่ดีเพื่อเกื้อหนุนช่วยเหลือพึ่งพากันและกัน ความสำคัญของการมีครอบครัวที่อบอุ่นสามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพสังคมได้นั้น ควรมีการวางแผนอนาคตของครอบครัวไว้ล่วงหน้าทั้งการจัดสรรเวลา ด้านเศรษฐกิจ การประกอบอาชีพเพื่อให้ทุกคนทำหน้าที่ของตนได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ ถึงแม้ครอบครัวจะเป็นหน่วยเล็กที่สุดของสังคม แต่ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญของสังคมขนาดใหญ่ทุกภาคส่วนจึงไม่สามารถละเลย เพิกเฉย ต่อปัญหาต่าง ๆ ที่มีผลกระทบต่อครอบครัวได้ และขอเชิญชวนให้ทุกคน ทุกฝ่ายในสังคมได้มีส่วนร่วมในการสร้างความเข้มแข็งของครอบครัว อันจะส่งผลโดยตรงถึงความเจริญมั่นคงของสังคมและประเทศชาติ
กิจกรรมภายในงานประกอบด้วย การมอบโล่เกียรติคุณแก่ครอบครัวร่มเย็น หน่วยงานส่งเสริมสถาบันครอบครัวและสื่อส่งเสริมสถาบันครอบครัว รวม ๑๓๙ รางวัล กิจกรรมการสร้างสัมพันธภาพภายในครอบครัวและการจัดบูทนิทรรศการแลกเปลี่ยนเรียนรู้งานด้านครอบครัวของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้เข้าร่วมงาน ประกอบด้วย ผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนภาคประชาสังคม ผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้ปฏิบัติงานด้านครอบครัว ตัวแทนครอบครัวจากทุกจังหวัดและสื่อมวลชน รวม ๙๐๐ คน
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit