พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ได้จัดทีมสหวิชาชีพ ประกอบด้วยพนักงานสอบสวนจากกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ นักสังคมสงเคราะห์จากกองต่อต้านการค้ามนุษย์ และสถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพ (ชาย) จังหวัดปทุมธานี เจ้าหน้าที่จากกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานร่วมกันสัมภาษณ์คัดแยกผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ หากพบว่าเป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ จะช่วยเหลือเยียวยาเงินจากกองทุนเพื่อการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ สำหรับผู้เสียหายที่ประสงค์จะอยู่ในความคุ้มครอง กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ จะจัดบริการตามมาตรา ๓๓ ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. ๒๕๕๑ และให้การช่วยเหลือตามขั้นตอนกระบวนการทางกฎหมาย และหากผู้เสียหายประสงค์จะกลับภูมิลำเนา กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ จะประสานครอบครัว และ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด ติดตามการให้ความช่วยเหลือที่เหมาะสมต่อไป แต่กรณีที่ไม่เป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ จะประสานครอบครัวและญาติ ให้มารับตัว พร้อมทั้ง ให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมบ้านและให้ความช่วยเหลือตามภารกิจของกระทรวงฯต่อไป
“การคัดแยกผู้ที่เป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ ครั้งนี้ ได้ดำเนินการคัดแยกผู้เสียหาย ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ ตามหลักมาตรฐาน เพื่อให้แรงงานประมงทุกคนได้รับความเป็นตามหลักสิทธิมนุษยชน ทั้งนี้ หากประชาชนต้องการขอความช่วยเหลือตามหาญาติ สามารถโทรมาสอบถามได้ที่ศูนย์ช่วยเหลือสังคม OSCC โทร. ๒๔ ชั่วโมง” พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวท้าย
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit