นายสาห์รัช ชัฎสุวรรณ ผู้อำนวยการสายการตลาด ธุรกิจกองทุนส่วนบุคคลและกองทุนรวม บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด (บลจ. ทิสโก้) (Mr. Saharat Chudsuwan, Head of Marketing and Wealth Advisory, Mutual & Private Fund Business, TISCO Asset Management Co.,Ltd.) กล่าวว่า หลังจากที่ บลจ. ทิสโก้ ได้เสนอขายกองทุนทริกเกอร์ฟันด์ลงทุนในหุ้นจีน “กองทุนเปิด ทิสโก้ ไชน่า อิควิตี้ ทริกเกอร์ 8% #18” ที่ตั้งเป้าหมายเลิกโครงการไว้ที่ 8% โดยเสนอขายไปเมื่อวันที่ 2-9 มี.ค. ที่ผ่านมานั้น ล่าสุด ณ 31 มี.ค. 58 ที่ผ่านมา กองทุนดังกล่าวมีมูลค่าหน่วยลงทุน (NAV) ที่ 10.8905 บาทต่อหน่วย จึงเข้าเงื่อนไขยกเลิกโครงการที่ 8% หลังจากใช้เวลาบริหารกองทุนเพียง 21 วัน (จดทะเบียนกองทุนเมื่อ 11 มี.ค. 58) ซึ่งสะท้อนถึงการจับจังหวะการลงทุนอย่างแม่นยำ และความเชี่ยวชาญในการบริหารกองทุนต่างประเทศของ บลจ. ทิสโก้ ได้เป็นอย่างดี
ทั้งนี้ บลจ. ทิสโก้ ยังคงมุมมองเชิงบวกต่อการลงทุนในตลาดหุ้นจีน และคาดว่าความคืบหน้าของการปฏิรูปเศรษฐกิจ และนโยบายผ่อนคลายทางการเงินจะเป็นปัจจัยขับเคลื่อนตลาดหุ้นจีนในปีนี้ โดย นายสุพงศ์วร เมี้ยนโภคา ผู้อำนวยการฝ่ายจัดการลงทุนต่างประเทศ บลจ. ทิสโก้ (Mr. Supongvorn Mianpoka, Head of Global Investment, TISCO Asset Management Co., Ltd.) กล่าวว่า ตลาดหุ้นจีนได้รับแรงส่งต่อเนื่อง หลังธนาคารกลางจีนได้เริ่มผ่อนคลายนโยบายการเงินโดยการลดดอกเบี้ยในเดือน พ.ย. 57 ที่ผ่านมา และลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ลง 50bps เป็น 19.5% ในเดือนม.ค. 58 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวลงของภาคอสังหาริมทรัพย์ การผ่อนคลายนโยบายการเงินดังกล่าวส่งผลให้สินเชื่อของธนาคารพาณิชย์จีนขยายตัวมากขึ้นในเดือน ม.ค. 58 ขณะที่ความเสี่ยงจากสินเชื่อในภาค Shadow Banking ยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ภายหลังตัวเลขเงินเฟ้อออกมาอยู่ในระดับต่ำเพียง 0.8% ส่งผลให้ธนาคารกลางจีน (PBOC) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกครั้ง ทั้งนี้ ตลาดคาดการณ์ว่ามีโอกาสที่ PBOC จะปรับลดดอกเบี้ยอีก 1 ครั้ง และปรับลด RRR ลงอีก 50bps ในไตรมาสที่ 2 ของปี เพื่อกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจ
“ทิสโก้เรามีมุมมองบวกต่อหุ้นจีนมาโดยตลอด และความสำเร็จของกองทริกเกอร์หุ้นจีนที่ผ่านมาก็พิสูจน์แล้วว่ามุมมองของเราถูกต้อง เรามองว่าความคืบหน้าของการปฏิรูปเศรษฐกิจ เช่น การเปิดเสรีทางการเงินการเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดสรรเงินทุนผ่านกลไกตลาด และกระตุ้นการบริโภคของภาคครัวเรือน จะเป็นปัจจัยหลักที่ช่วยเพิ่มเสถียรภาพให้เศรษฐกิจจีน นอกจากนี้ ตลาดหุ้นจีนปัจจุบันเทรดอยู่ในระดับต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต โดยมี P/E เพียง 8 เท่า ทำให้หุ้นจีนมีโอกาสถูก Re-rate ไปซื้อขายในระดับ P/E ที่สูงขึ้น หลังเศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้น นอกจากนี้ ความสำเร็จของโครงการ Shanghai – Hong Kong Stock Connect จะช่วยเพิ่มสภาพคล่อง (Liquidity) ของตลาดหุ้นจีนในอีกทางหนึ่งด้วย” นายสุพงศ์วรกล่าว
ทั้งนี้ กองทุนเปิด ทิสโก้ ไชน่า ทริกเกอร์ 8% #18 นับเป็นกองล่าสุดในกองซีรีย์ทริกเกอร์หุ้นจีนภายใต้การบริหารงานของ บลจ.ทิสโก้ ที่เข้าเป้าหมาย โดยปัจจุบัน บลจ.ทิสโก้ ออกกองทุนทริกเกอร์หุ้นจีนในซีรีย์ “ทิสโก้ ไชน่า ทริกเกอร์” มาแล้วทั้งสิ้น 17 กอง โดยมีผลงานเข้าเป้าหมายทั้งสิ้นกองทุน 12 กองทุน และอยู่ในช่วงของการลงทุน 2 กองทุน และนอกจากนี้ยังมี “กองทุนเปิด ทิสโก้ ไชน่า H-Share อิควิตี้” ที่ลงทุนในหุ้นจีน ซื้อขายได้ทุกวันทำการ
ผู้สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บลจ. ทิสโก้ หรือ ธนาคารทิสโก้ทุกสาขา หรือที่ TISCO Contact Center โทร. 02-633-6000 กด 4
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit