นายกรวิชญ์ มหาวงศ์ นักศึกษาชั้นปีที่ 4 โปรแกรมวิชาคณิตศาสตร์ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา (มรภ.สงขลา) เปิดเผยว่า รางวัลอันทรงเกียรตินี้มีเยาวชนที่ได้รับรางวัลเพียง 5 คน เท่านั้น จากการคัดสรรผู้สมัครเกือบ 200 คนทั่วประเทศ ครั้งแรกที่เห็นข่าวประชาสัมพันธ์รับสมัครเข้ารับการคัดเลือก ก็ไม่ได้คาดหวังว่าจะได้รับรางวัล แต่เห็นว่าน่าจะเป็นประสบการณ์ชีวิตที่ดี เพราะโอกาสไม่ได้มีเข้ามาบ่อยๆ และโอกาสจะเป็นของคนที่กล้าไขว่คว้าและพร้อมรับมันเสมอ จึงตัดสินใจเสนอชื่อตัวเองเข้ารับการพิจารณาคัดเลือก หลังจากที่เสนอชื่อไปก็มีตัวแทนคณะกรรมการคัดเลือก แจ้งมาว่าผ่านเข้ารอบคัดเลือกเหลือ 30 คน ซึ่งคณะกรรมการคัดเลือกเป็นผู้ทรงคุณวุฒิจากหน่วยงานต่างๆ รวมถึงองค์กรอิสระจากหลายภาคส่วน โดยการคัดเลือกรางวัลเยาวชนดีเด่น ด้านคุณธรรม จริยธรรม สภาพัฒนาการเมือง ประจำปี 2557 จะมีหลักเกณฑ์การพิจารณาแบ่งออกเป็น 3 รอบ คือ รอบแรก คัดเลือกจากผู้สมัครทั้งหมดให้เหลือ 30 คน โดยพิจารณาจากเอกสารที่นำเสนอไป รอบที่สอง คัดเลือกให้เหลือ 15 คนโดยการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ และรอบที่สาม จะคัดเลือกให้เหลือ 5 คนสุดท้าย ผ่านการลงพื้นที่ศึกษาข้อมูลเชิงประจักษ์ เพื่อตัดสินพิจารณารับโล่รางวัลเยาวชนดีเด่น
นายกรวิชญ์ กล่าวอีกว่า สำหรับประวัติการทำงานด้านส่งเสริมและพัฒนาการเมืองของตน อาทิ เป็นแกนนำจิตอาสาพัฒนาสังคม ปี 2555 เป็นประธานยุวทูต ป.ป.ช.ภาคใต้ ปี 2557 รองประธานสภานักศึกษาภาคปกติ มรภ.สงขลา ปี 2557 นายกสโมสรนักศึกษา คณะครุศาสตร์ มรภ.สงขลา ปี 2556 และได้จัดระดมความเห็นนักศึกษาในหัวข้อ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม (ฉบับสุดซอย) เพื่อให้นักศึกษาได้แสดงความคิดเห็นทางการเมืองตามระบอบประชาธิปไตย ซึ่งที่ผ่านมาเคยได้รับคัดเลือกเข้าร่วมโครงการยุวทูต ป.ป.ช. และได้รับคัดเลือกไปศึกษาดูงาน ณ ประเทศสิงคโปร์และมาเลเซีย เข้าร่วมค่ายเยาวชนสัมพันธ์ ป.ป.ช. รุ่นที่ 8 จัดโดยสำนักงาน ป.ป.ช. ตลอดจนข้าร่วมโครงการวันสันติภาพสากล เพื่อรำลึกและส่งแรงอธิษฐานให้เกิดสันติภาพขึ้นกับครอบครัว สังคม ประเทศชาติ และโลก รวมทั้งเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 87 พรรษา
“ปัจจุบันสังคมเราน่ากลัว เห็นได้จากข่าวในแต่ละวัน ดังนั้น ในฐานะเยาวชนผู้เป็นแรงกำลังของชาติในอนาคต เราต้องมีส่วนช่วยกันทำให้สังคมน่าอยู่ขึ้น โดยยึดหลักธรรมะ (ธรรมะ คือหน้าที่) เพียงแค่ทุกคนรู้หน้าที่ และทำหน้าที่ของตัวเอง รับผิดชอบต่อตนเอง และเผื่อแผ่ผู้อื่นบ้าง สังคมเราก็จะมีความสุขมากขึ้น การทำความดีก็เช่นเดียวกัน หลายคนอาจมองว่าเห็นผลช้า ไม่ได้ช่วยอะไรเลย ทำไปแล้วอาจเจอปัญหาหรือไม่มีใครเห็นและชื่นชมให้กำลังใจ อยากจะขอเป็นกำลังใจให้ทุกๆ คนทำต่อไป แม้ไม่มีใครเห็น อย่างน้อยใจเราก็รับรู้ได้ และตนยังเชื่อเสมอว่า สักวันหนึ่งสิ่งที่เราทำ จะส่งผลให้เราประสบผลสำเร็จอย่างแน่นอน” นายกรวิชญ์ กล่าว
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit