อุบัติเหตุบนท้องถนนนับเป็นหนึ่งในปัญหาที่สำคัญของประเทศ และยังคงมีจำนวนที่สูงในช่วงเทศกาลแต่ละปี โดยมีสาเหตุส่วนใหญ่มาจากความประมาทของผู้ขับขี่ที่ไม่ปฏิบัติตามกฎจราจรและการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกินกว่าปริมาณที่กฎหมายกำหนดแล้วขับขี่ การแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างยั่งยืนและเป็นรูปธรรมจึงต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่ายในสังคม ทั้งภาครัฐ ภาคประชาสังคม และเอกชน ในการรณรงค์สร้างจิตสำนึกเคารพกฎจราจรและการดื่มอย่างรับผิดชอบทั้งผู้ที่ดื่มและผู้ที่ไม่ดื่ม เพื่อปรับทัศนคติเกี่ยวกับการดื่มแล้วขับ ควบคู่ไปกับการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด
พันตำรวจเอก ยุทธพงษ์ อินทรพงษ์ ผู้กำกับการ 4 กองบังคับการตำรวจจราจร กล่าวว่า “ในการแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุบนท้องถนน การบังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวดแต่เพียงอย่างเดียวนั้นไม่เพียงพอ เพราะไม่ได้เปลี่ยนทัศนคติของประชาชนเกี่ยวกับการดื่มแล้วขับ จึงต้องทำควบคู่ไปกับการรณรงค์สร้างจิตสำนึกเคารพกฎจราจร และการดื่มอย่างรับผิดชอบ อย่างต่อเนื่อง ด้วยเหตุนี้ บก. จร. จึงร่วมกับบริษัท ดิอาจิโอ โมเอ็ท เฮนเนสซี่ (ประเทศไทย) ดำเนินโครงการ‘เมาไม่ขับ กลับปลอดภัย’ มาตั้งแต่ปี 2553 เพื่อรณรงค์ลดปัญหาอุบัติเหตุบนท้องถนนที่เกิดจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ผ่านกิจกรรมให้ความรู้และสร้างจิตสำนึกของประชาชนเกี่ยวกับการดื่มอย่างรับผิดชอบและเคารพกฎจราจร นับเป็นการแก้ไขปัญหาดื่มแล้วขับที่ต้นเหตุ เพราะเมื่อประชาชนมีทัศนคติและความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง พวกเขาจะเปลี่ยนพฤติกรรม เช่น ไม่ฝ่าฝืนกฎจราจร ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หากจะขับรถ นำไปสู่การลดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้อย่างยั่งยืน”
สำหรับปี 2558 ซึ่งเป็นปีที่ 5 ของโครงการ “เมาไม่ขับ กลับปลอดภัย” ได้รับเกียรติจากกองบังคับการตำรวจรถไฟ บริษัท ขนส่ง จำกัด การรถไฟแห่งประเทศไทย และบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ร่วมเป็นพันธมิตรเพื่อผนึกกำลังรณรงค์ส่งเสริมการใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัยและการเฉลิมฉลองอย่างมีสติครอบคลุมผู้ใช้รถใช้ถนน ตลอดจนผู้ขับขี่และผู้สัญจรทางรถไฟและรถทัวร์ทั่วประเทศ พร้อมขยายการรณรงค์ผ่านเฟซบุ้คแฟนเพจที่ได้รับความนิยมจากประชาชน เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นคุณธนากร คุปตจิตต์ ผู้อำนวยการฝ่ายองค์กรสัมพันธ์ บริษัท ดิอาจิโอ โมเอ็ท เฮนเนสซี่ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ DMHT กล่าวว่า“เรามีความมุ่งมั่นในการลดผลกระทบที่เกิดจากการดื่มอย่างไม่เหมาะสม ซึ่งรวมถึงอุบัติเหตุที่เกิดจากการดื่มแล้วขับ สืบเนื่องจากการลงนามร่วมกันระหว่างซีอีโอของบริษัทในอุตสาหกรรม 13 รายทั่วโลกเพื่อจัดการกับปัญหาการดื่มแอลกอฮอล์อย่างขาดความรับผิดชอบ รวมถึงวิสัยทัศน์ของ DMHT ในด้านแอลกอฮอล์กับสังคม (Alcohol in Society) ซึ่งเราเชื่อว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กับสังคมสามารถอยู่ร่วมกันได้ นอกจากนั้น DMHT ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ เข้าร่วมโครงการ ในปีที่ 5 นี้ สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของอุตสาหกรรมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในการดำเนินธุรกิจอย่างรับผิดชอบต่อสังคม และลดผลกระทบที่เกิดจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างไม่เหมาะสม”
นอกจากนี้ พันธมิตรของโครงการ ประกอบด้วย การรถไฟแห่งประเทศไทย กองบังคับการตำรวจรถไฟ และ บริษัท ขนส่ง จำกัด ยังได้ร่วมกันวางมาตรการความปลอดภัยเพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่เกิดจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างเข้มงวดตลอดทั้งปี ไม่เฉพาะแต่ในช่วงเทศกาลเท่านั้น โดยคุณวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) กล่าวว่า “เราได้ร่วมกับกองบังคับการตำรวจรถไฟดำเนินมาตรการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ของพนักงานขับรถไฟที่จะนำรถออกจากสถานี และเจ้าหน้าที่การรถไฟที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในสถานีอย่างเข้มงวด และสำหรับในปีนี้ จะเพิ่มการกวดขันเรื่องห้ามขายหรือห้ามบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บริเวณสถานีรถไฟ และบนขบวนรถ เพื่อให้เป็นไปตามประกาศของ รฟท. และกฎหมายใหม่ แต่ในขณะเดียวกัน ประชาชนก็จะต้องมีจิตสำนึกเคารพกฎหมายและดื่มอย่างรับผิดชอบต่อตนเอง ผู้อื่น และสังคม อุบัติเหตุบนท้องถนนจึงจะลดลงได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นรูปธรรม”
ด้านพลตำรวจตรี จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผู้บังคับการตำรวจรถไฟ (บก. รฟ.) กล่าวว่า “นอกจากการร่วมมือกับ ร.ฟ.ท. ในการเข้มงวดกวดขันเพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่เกี่ยวกับการดื่มแอลกอฮอล์ และดูแลความปลอดภัยแก่ผู้โดยสารแล้ว บก. รฟ.ยังร่วมกับ DMHT จัดทำแผ่นพับและวิดีทัศน์เพื่อให้คำแนะนำและข้อปฏิบัติต่างๆ ในการเดินทางโดยรถไฟอย่างปลอดภัย รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับการดื่มอย่างรับผิดชอบ เผยแพร่บนขบวนรถ บริเวณสถานีรถไฟ 15 แห่งทั่วประเทศ รวมทั้งที่หัวลำโพง และแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ เพื่อส่งเสริมการกระตุ้นเตือนให้ทุกคนเดินทางและเฉลิมฉลองอย่างมีสติ ปลอดภัย รู้ทันแอลกอฮอล์ ตลอดทั้งปี ไม่เฉพาะแต่ในช่วงเทศกาลเท่านั้น”
ด้านคุณอมรศักดิ์ พานิชกิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สำนักซ่อมบำรุงและตรวจสภาพรถ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เปิดเผยถึงมาตรการความปลอดภัยของ บขส. ว่า “รถโดยสารของ บขส. ทุกคันได้รับการติดตั้งระบบติดตามรถผ่านดาวเทียมจีพีเอสเพื่อควบคุมการใช้ความเร็วของพนักงานขับรถ นอกจากนั้น เรายังร่วมกับ บก. จร. ตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ของพนักงานขับรถโดยสารก่อนที่จะขับรถทุกครั้ง ตลอดจนตรวจตราไม่ให้มีการดื่มบนรถ เพื่อให้ผู้โดยสารทุกคนถึงที่หมายอย่างปลอดภัย ทั้งนี้ สำหรับผู้โดยสารที่เดินทางต่อด้วยรถส่วนตัวหรือรถสาธารณะ ก็จะต้องปฏิบัติตามกฎจราจร และเมาไม่ขับโดยเด็ดขาด”
“เชื่อมั่นว่าความร่วมมือของพันธมิตรทั้ง 6 องค์กรภาครัฐและเอกชนในโครงการ ‘เมาไม่ขับ กลับปลอดภัย’ ปีที่ 5 จะช่วยป้องกันและลดปัญหาอุบัติเหตุบนท้องถนนได้ เพราะการแก้ไขปัญหาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่ายทั้งจากภาครัฐ ภาคประชาสังคม และภาคเอกชน ซึ่งรวมถึงผู้ประกอบการ ที่จะมาทำงานร่วมกันเพื่อสร้างสังคมไทยให้เป็นสังคมแห่งการเคารพกฎจราจร และดื่มอย่างรับผิดชอบ” พันตำรวจเอก ยุทธพงษ์ กล่าวทิ้งท้าย