โครงการ “เด็กปั้น : ปันความสุข ปลูกความรู้ สู่อนาคตยั่งยืน” นี้จัดขึ้นเป็นรุ่นแรก ซึ่งจะจัดอย่างต่อเนื่องทุกๆปี เพื่อปั้นเยาวชน ในระดับมัธยมต้น (ม.1-ม.3) จากทั่วประเทศ จากสถานศึกษาในพื้นที่กรุงเทพมหานคร สังกัด สพฐ. ใน 11 จังหวัดที่มี สาขาของ โตโยต้า ลีสซิ่ง กลุ่มละ 3 คน นักเรียนโรงเรียนละ 3 คน และครูที่ปรึกษา โรงเรียนละ 1 คน คัดเลือกโรงเรียนที่เสนอโครงการที่สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างยั่งยืน เหลือเพียง 30 โรงเรียน รวมทั้งสิ้นจำนวน 120 คน เข้าร่วมค่ายเด็กปั้น ในครั้งนี้ ร่วมสร้างสรรค์โครงการคิดดี ทำดี แก้ไขปัญหาภายในโรงเรียน มอบทุนการศึกษามูลค่ากว่า 600,000 บาท พร้อมจัดค่ายเยาวชนเรียนรู้ การคิดวิเคราะห์ตามหลักไคเซ็น (Kaizen) ซึ่งสร้างความสำเร็จในการทำงานภายในองค์กร ขยายผล ปั้นเด็กไทยให้รู้จัก คิด วิเคราะห์ พัฒนาได้อย่างยั่งยืนในอนาคต โดยมีโรงเรียนทั่วประเทศไทยร่วมสมัคร และผ่านการคัดเลือกแผนงาน ร่างโครงการที่จะช่วยแก้ปัญหาและเป็นประโยชน์ต่อโรงเรียน ภายใต้หัวข้อ “เด็กปั้น: รวมพลังความคิด พิชิตปัญหา พัฒนาโรงเรียนให้ยั่งยืน" จำนวน 30 โรงเรียน
โดยหลังจากจบค่ายแล้ว แต่ละโรงเรียนจะส่งแผนโครงการที่ถูกจัดทำขึ้นตามหลักไคเซ็นส่งเข้าประกวด เพื่อเฟ้นหา 3 สุดยอดโรงเรียนเด็กปั้น ชิงเงินรางวัล โรงเรียนละ 1 แสนบาท ให้สามารถนำไปจัดทำโครงการพัฒนาให้เกิดขึ้นจริงที่โรงเรียน โดยตลอดระยะเวลาในการทำแผนและดำเนินโครงการ จะมีพนักงานจิตอาสาของ บริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด ที่อยู่ตามสำนักงานสาขาจังหวัดต่างๆ ที่แต่ละโรงเรียนตั้งอยู่ ไปช่วยเป็นพี่เลี้ยงให้ในแต่ละ โรงเรียน ด้วย ซึ่งโครงการได้เริ่มดำเนินการรับสมัคร มาตั้งแต่เดือนมกราคม ที่ผ่านมา เพื่อผ่านเข้าสู่กระบวนการประกวดโครงการ เพื่อคัดเลือกผู้ชนะ ซึ่งจะเสร็จสิ้นราวเดือนกรกฎาคม
คุณอากิระ สึโบอิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “บริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด มีความเชื่อมั่นว่า การจะเป็นองค์กรธุรกิจที่ดี ประสบความสำเร็จ และเติบโตได้อย่างยั่งยืนในอนาคตนั้น การทำกำไรสูงสุดอย่างเดียวย่อมไม่เพียงพอ แต่จะต้องเรียนรู้ที่จะสร้างสรรค์สิ่งดีๆ เพื่อตอบแทนสังคมด้วย และปัจจัยหนึ่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืน คือ การพัฒนาความรู้ให้กับเยาวชน ซึ่งเป็นอนาคตของประเทศไทย โครงการ เด็กปั้น คือ ความตั้งใจของ โตโยต้า ลีสซิ่ง ที่จะปั้นเด็กดี มีความรู้ มีจิตสาธารณะ ในการช่วยพัฒนาสังคม โดยใช้มรดก 'ไคเซ็น' ของเรา เป็นเครื่องมือช่วย เด็กปั้น อีกทั้งยังมีนัยยะ ที่เด็กๆ ช่วยกันปั้นโครงการพัฒนาให้เกิดขึ้นจริงด้วยตนเองอีกด้วย”
“การสร้างความยั่งยืน ไม่เพียงแค่ให้ทุนการศึกษาหรืองบประมาณในการช่วยเหลือโรงเรียน แต่เรา “ปลูกความรู้” ให้เยาวชนไทย มีความสามารถ ในการคิดวิเคราะห์ มองปัญหาอย่างเข้าใจเหตุและผล ในการรู้จักคิดดี ทำดี และสามารถแก้ปัญหาด้วยหลักเหตุผล ด้วยตนเองและใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างคุ้มค่า ไม่สิ้นเปลือง เริ่มต้นที่สิ่งใกล้ตัวอย่างเช่นโรงเรียนของเด็กๆเอง อันเป็นการส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืน โดยจัดอบรมสอนองค์ความรู้เรื่องการคิด วิเคราะห์แบบ ไคเซ็น ให้กับนักเรียน และครู เพื่อนำไปใช้เป็นเครื่องมือในการพัฒนาและปรับปรุง ตนเอง รวมถึงสังคมที่ตนอยู่ เช่น โรงเรียน ชุมชน”
คุณสุชาติ พนมสมบูรณ์สิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทโตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด คุณครูใหญ่ของการอบรมในครั้งนี้ ให้ข้อคิดว่า “เสาหลักในการพัฒนาอย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเผชิญเรื่องราวอะไรก็ตามหัวใจของมันคือ ไคเซน รู้ เข้าใจ ประยุกต์ใช้ ทำซ้ำ เมื่อลงมือทำซ้ำคือได้ฝึกฝนและลงมือทำบ่อยๆจนเกิดความชำนาญ อย่าหยุดที่จะปรับเปลี่ยน และฝึกปฏิบัติให้เป็นนิสัย ถ้าทำได้ก็จะเหมือนกับ โตโยต้า ลิสซิ่ง ในวันนี้ที่เราทำของเราไปแบบนี้ไม่เคยหยุด วิถีของเราคือถ้าที่ใดไม่มีปัญหาแสดงว่าที่นั่นมีปัญหามากเพราะแสดงว่าคุณมองไม่เห็นว่าอะไรคือปัญหา นี่ถือเป็นหัวใจสำคัญ”
คุณสนิท แย้มเกษร ผู้อำนวยการสำนักเทคโนโลยีเพื่อการเรียนการสอน สำนักงานคณะกรรมการการศึกษา ขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กล่าวว่า “การพัฒนาการศึกษาขั้นพื้นฐานของประเทศไทย ให้มีคุณภาพ และได้มาตรฐานระดับสากล บนพื้นฐานของความเป็นไทย เป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล โดย สพฐ ได้เล็งเห็นความตั้งใจจริง ของ บริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด ที่มีความตั้งใจที่จะพัฒนาความรู้ให้กับเยาวชน ซึ่งเป็นอนาคตของประเทศ นับเป็นแนวทางการพัฒนาที่ถูกต้องและต้องดำเนินการต่อไปอย่างต่อเนื่อง เพื่อจะนำไปสู่การหาแนวทางยกระดับผลสัมฤทธิ์ต่อไป โครงการเด็กปั้น เป็นกิจกรรมทางเลือก ที่พัฒนาความคิด จริยธรรม ความเป็นผู้นำ มีเป้าหมายพัฒนาแกนนำเยาวชนให้เห็นคุณค่าของตนเอง และสังคม มี”จิตสาธารณะ”ถือเป็นโครงการต้นแบบเพื่อสร้างเยาวชนคุณภาพที่จะเติบโตเป็นนักพัฒนา ค่ายเด็กปั้น ในครั้งนี้ เป็นการส่งเสริม โอกาสทางการศึกษา ได้รับความรู้ ประสบการณ์ และ พัฒนาความคิดในการสร้างสรรค์ และ นักเรียนสามารถนำความรู้ที่ได้รับไปปรับใช้และสร้างประโยชน์อย่างยั่งยืน แก่โรงเรียน ชุมชน และสังคมได้ ถือเป็นการปลูกฝังจิตสำนึกอันดีงาม สร้างความเป็นมิตรและสัมพันธภาพของแกนนำระหว่างสถานศึกษาให้เป็นเพื่อนกัน ยึดมั่นในคุณธรรม จริยธรรม และเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีมีคุณภาพ”
จากการสัมภาษณ์ครูผู้สอนที่เข้าร่วมการอบรมในครั้งนี้ ครูวไลวรรณ ไพศาล โรงเรียน หาดใหญ่รัฐประชาสรรค์จังหวัดสงขลา กล่าวว่า “ความรู้เรื่องไคเซนที่ทางโตโยต้าลีสซิ่งได้นำมาถ่ายทอดนี้เป็นความรู้ที่ดีและมีประโยชน์มาก จนคุณครูเองคิดว่าน่าจะปลูกฝังเยาวชนและก็นำไปถ่ายทอดให้กว้างขวางกว่านี้ เยาวชนของเราจะได้รู้จักมองหาปัญหาแก้ปัญหาและเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆไปในทางที่ดียิ่งขึ้น ถ้าได้เยาวชนเหล่านี้เข้ามามากๆคิดว่าสังคมไทยคงจะมีเยาวชนที่รู้จักคิด รู้จักทำสิ่งต่างๆให้ดียิ่งขึ้น เพราะสิ่งเหล่านี้สามารถนำไปใช้พัฒนาได้ดีมาก แม้กระทั่งตัวครูเองก็คิดว่าสามารถนำหลักการนี้ไปใช้แก้ไขปัญหาต่างๆรวมทั้งนำไปพัฒนาต่อยอดผลงานให้ได้ดียิ่งขึ้น ขอขอบคุณทางโตโยต้าลีสซิ่งประเทศไทยที่ได้ให้โรงเรียนต่างๆมาร่วมกิจกรรมนี้และเด็กๆรวมถึงตัวครูเองทุกคนรู้สึกประทับใจและมีความสุขมากและอยากให้มีโครงการแบบนี้ต่อๆไป”
จาการสัมภาษณ์น้องๆนักเรียนที่ได้ร่วมกิจกรรมค่ายเด็กปั้นครั้งที่1กับเราในครั้งนี้ทุกคนต่างประทับใจบรรยากาศที่อบอุ่นและเป็นกันเอง ซึ่งไม่เพียงแต่ได้รับความสนุกสนานผ่านกิจกรรมมากมายที่สอดแทรกองค์ความรู้ต่างๆที่พี่ๆตั้งใจ มอบให้ ทำให้น้องๆไม่รู้สึกเบื่อแต่กลับเข้าใจหลัการต่างๆได้ดี กิจกรรมต่างๆที่ทุกคนได้ร่วมกันทำนอกจากจะทำให้น้องๆได้ความรู้มากมาย ยังได้เพื่อนใหม่ทั้งต่างโรงเรียนต่างจังหวัดได้รู้จักความสามัคคีในการทำงานร่วมกันกับผู้อื่น ความรู้ทั้งหมดที่ได้รับจากการเข้าค่ายนี้จะสามารถนำไปพัฒนาและต่อยอดโครงการให้กับเพื่อนๆในโรงเรียนรวมทั้งนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันอีกด้วย
นาย ธีรพงศ์ สุวรรณโชติ ตัวแทนนักเรียนจากโรงเรียนพรตพิทยพยัต จังหวัดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า “ความประทับใจของค่ายนี้ก็คือการที่พี่ๆเป็นกันเองและการสอนที่ไม่ทางการเกินไปซึ่งทำให้เข้าใจง่ายยิ่งขึ้น ผมคิดว่าจะสามารถเอาหลักของไคเซนที่ได้เรียนรู้จากค่ายนี้มาใช้ในชีวิตประจำวันได้ ทั้งในการวางแผนชีวิต หรือการวางแผนงานต่างๆร่วมกันกับเพื่อนแล้วก็สามารถพัฒนาต่อยอดโครงการของเราให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม”
เด็กชาย พลรัตน์ นเรนทราช โรงเรียนกาญนาภิเษกวิทยาลัย จังหวัด สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า “เป็นค่ายที่อบอุ่นเป็นกันเอง และก็มีความสุขที่ได้ร่วมงานกับพี่ๆชาวโตโยต้าลีสซิ่ง ได้หลักการใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย แบบไม่ประมาทหรือไม่เสียเวลาจนเกินไปและได้รู้จักความสามัคคีในการทำงานกลุ่มเป็นทีมเวิร์คที่ดีและจะใช้หลักเหล่านี้ไปใช้ชีวิตอย่างคุ้มค่า”
น้องๆ เยาวชนระดับมัธยมต้น (ม.1 - ม.3) ทั้ง30โรงเรียนจะนำเอาความรู้ที่ได้กลับไปคิดโครงการสร้างสรรค์โรงเรียนอย่างมีหลักการ และนำผลสำเร็จกลับมาประกวดกันอีกครั้งเพื่อค้นหา 3 โรงเรียนเด็กปั้นตัวจริง ชิงทุนการศึกษา 100,000 บาท นำกลับไปทำโครงการเด็กปั้นที่นำเสนอมาให้เป็นจริง เป็นอีกหนึ่งโครงการดีๆ ขององค์กรที่ต้องการทำประโยชน์ให้กับสังคมไทย ซึ่งจะสร้างคนไทยที่มีคุณภาพอย่างยั่งยืน โดยหวังผลขยายโครงการพัฒนาความคิด สร้างเด็กไทยที่รู้จัดคิดดี ทำดี ในรุ่นต่อๆไป
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit