การทดสอบของเชลล์ครั้งนี้จัดขึ้นที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย และได้เปิดโอกาสให้บุคคลทั่วไปได้สัมผัสประสบการณ์สุดเร้าใจด้วยการเป็นผู้โดยสารในรถเฟอร์รารี่ที่ขับโดยแชมป์โลกฟอร์มูล่า วัน 4 สมัยจากทีม สคูเดอเรีย เฟอร์รารี่ อย่าง เซบาสเตียน เวทเทล และนักแข่งลำดับสามของทีม เอสเตบัน กูเตียร์เรซ โดยให้ผู้โดยสารใส่เครื่องมือวัดอัตราการตอบสนองของร่างกายต่อความตื่นเต้นก่อนที่นักแข่งฟอร์มูล่าวันทั้งสองจะขับรถซึ่งเติมน้ำมันเชลล์ วี-เพาเวอร์ออกไป นอกจากนี้ ภายในงานยังได้ มาร์ค จีน (Marc Gené) นักขับรถทดสอบของทีม สคูเดอเรีย เฟอร์รารี่ มาร่วมแบ่งปันความรู้ด้านการขับรถในการทดสอบครั้งนี้ด้วย
เวทเทลกล่าวถึงความตื่นเต้นทั้งในและนอกสนามก่อนเข้าร่วมการทดสอบที่สนามแข่งรถนานาชาติเซปัง (Sepang International Circuit) ว่า “ช่วงที่ผมขับรถ เป็นช่วงที่ผมมีความสุข แน่นอนว่า ยิ่งรถดีเท่าไหร่ ประสบการณ์การขับขี่ก็ยิ่งดีขึ้นไปมากเท่านั้น ดังนั้นถ้าคุณขับเฟอร์รารี่ล่ะก็ คุณโชคดีแล้วล่ะ เพราะว่าเฟอร์รารี่สร้างแต่รถที่ดีที่สุด น้ำมันเชื้อเพลิงที่ใช้ก็สำคัญเช่นกัน น้ำมันเชลล์ วี-เพาเวอร์ ที่ใช้เติมในรถแข่งของผมนั้น แทบไม่ต่างจากน้ำมันเชลล์ วี-เพาเวอร์ ที่มีจำหน่ายทั่วไปบนท้องถนนที่ทั้งคุณและผมก็สามารถหาเติมได้ง่ายๆเลย” เขากล่าว
ในขณะที่เวทเทลเล่าถึงเรื่องราวบนท้องถนนของเขา กูเตียร์เรซนั้นกำลังเผชิญหน้ากับการทดสอบสุดท้าทายบนสนามแข่งที่ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษ ที่มีทั้งการเร่งที่ดุดัน การจำลองสภาพพายุมรสุม ไปจนถึงการขับฟรีสไตล์สลาลม และการเร่งความเร็วผ่านอุโมงค์ที่มีการจำลองแสงแบบพิเศษที่สร้างความตื่นเต้นในการขับขี่มากขึ้นไปอีก
โดยกูเตียร์เรซต้องใส่เครื่องมืออันล้ำสมัยที่ช่วยวัดอัตราการตอบสนองของร่างกาย เพื่อวัดความเปลี่ยนแปลงของอัตราการเต้นของหัวใจ การหายใจ และค่าแรงโน้มถ่วง ซึ่งจะเผยถึงระดับความตื่นเต้นเร้าใจที่ได้จากการขับรถในการทดลองครั้งนี้
ผลการทดสอบแสดงให้เห็นว่า ในช่วง 5 วินาทีก่อนที่จะออกตัวจากจุดเริ่มต้น อัตราการเต้นหัวใจของกูเตียร์เรซเพิ่มขึ้นจากอัตราการเต้นปกติของเขาร้อยละ 5 แสดงถึงความพร้อมในการขับขี่ในสนามทดสอบครั้งนี้
ช่วงที่หัวใจของนักแข่งชาวเม็กซิกันผู้นี้เต้นแรงที่สุดคือช่วงที่กำลังขับผ่านอุโมงค์จำลองแสง กูเตียร์เรซมีอัตราการเต้นเพิ่มขึ้นจากอัตราปกติถึงร้อยละ15
“ตอนที่ขับรถผ่านอุโมงค์นั้นน่าตื่นเต้นมาก เพราะมีทั้งแสงไฟ และควัน สนุกจริงๆ” กูเตียร์เรซกล่าว โดยอัตราการหายใจของกูเตียร์เรซตลอดการทดสอบนั้นเพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 20 เมื่อเทียบกับช่วงปกติของเขา
กูเตียร์เรซพูดถึงประสบการณ์ในวันนั้นว่า “การได้ขับรถที่ความเร็วสูงสุด และดึงเอาสมรรถนะขีดสุดของรถออกมารวมทั้งการที่ผมสามารถรู้สึกทุกการเคลื่อนไหวของรถนั้น เป็นความรู้สึกที่สุดยอดมาก” เขากล่าวเพิ่ม
ผลการทดสอบรูปแบบใหม่ที่ยังไม่เคยมีใครทำมาก่อนนี้ เป็นเครื่องยืนยันให้เห็นว่า ความตื่นเต้นเร้าใจในการขับขี่นั้นเป็นสิ่งที่สามารถสัมผัสได้เสมอ แม้ว่าจะเป็นคนที่เจนสนามแล้วก็ตาม
ส่วนเวทเทลนั้น เป็นผู้ที่จะมีความตื่นเต้นอยู่เสมอเมื่อได้นั่งหลังพวงมาลัย เขาเล่าว่า “ทุกครั้งที่แข่งเสร็จ อะดรีนาลีนจะ สูบฉีดมาก ผมรู้สึกได้เลยแม้ในตอนที่ขับรถกลับบ้าน คืนนั้นผมจะนอนไม่หลับเลย”
เวทเทลได้กล่าวถึงความรู้สึกในช่วงหลายเดือนแรก ที่ได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของทีมว่า “ความร่วมมือระหว่าง เชลล์ และ สคูเดอเรีย เฟอร์รารี่ นั้น มีความพิเศษมาก มีหลายอย่างที่คุณจะไม่มีทางได้เห็นเลยถ้าไม่ได้มาเป็นส่วนหนึ่งของทีม เช่นการได้เข้าใจถึงน้ำมันเชื้อเพลิงที่ทำให้เราออกวิ่งได้”
ตลอดวันที่มีการทดสอบนี้ รถเฟอร์รารี่ที่ใช้ ได้รับการเติมด้วยน้ำมันเชื้อเพลิง เชลล์ วี-เพาเวอร์ ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อเพิ่มสมรรถนะและการตอบสนองของเครื่องยนต์ โดยป้องกันและขจัดการสะสมของคราบตะกรันที่จะไปลดสมรรถนะของเครื่องยนต์
แม อัสคาน (Mae Ascan) นักวิทยาศาสตร์ของเชลล์จากประเทศมาเลเซีย กล่าวเสริมว่า “เชลล์เชื่อว่าประสบการณ์การขับขี่ที่ดีที่สุดนั้น มาจากน้ำมันเชื้อเพลิงที่ดีที่สุด และนั่นคือเหตุผลที่เราเป็นพันธมิตรทางเทคนิคกับ สคูเดอเรีย เฟอร์รารี่ ซึ่งความร่วมมือนี้เอง ที่จะช่วยให้เราสามารถพัฒนาต่อยอดเทคโนโลยี ในน้ำมันเชื้อเพลิง เชลล์ วี-เพาเวอร์ และน้ำมันหล่อลื่น เชลล์ เฮลิกซ์ อัลตร้า ที่พัฒนาด้วยเพียวพลัส เทคโนโลยี เพื่อมอบประสบการณ์ การขับขี่ที่ดีกว่าเดิมสำหรับทุกคน”
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit