“จากเป้ารายได้ปี 2558 กว่าหมื่นล้านบาทในกลุ่มพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกอบด้วย ธุรกิจวงจรสื่อสารข้อมูลและอินเทอร์เน็ต, คลาวด์คอมพิวติ้ง, ไอทีซีเคียวริตี้, อีบิสซิเนส และโทรศัพท์ระหว่างประเทศ ส่วนหนึ่งเรามุ่งเน้นการขยายในกลุ่มตลาดใหม่ ได้แก่ กลุ่มธุรกิจใน 5 เขตเศรษฐกิจพิเศษและตามแนวเขตชายแดนรวมถึงกลุ่มบริษัทข้ามชาติ ซึ่งจะมีการติดต่อสื่อสารทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศ โดยจะมีกลุ่มลูกค้าตั้งแต่เซกเมนต์เอสเอ็มอี ไปจนถึงกลุ่มองค์กรขนาดกลางและขนาดใหญ่” ดร.ดนันท์ กล่าวทั้งนี้ จากการที่รัฐบาลมีมติเห็นชอบให้มีการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ หรือ Special Economic Zone (SEZ) ระยะแรกใน 5 พื้นที่ชายแดน ได้แก่ (1) แม่สอด/ตาก (2) อรัญประเทศ/สระแก้ว (3) ตราด (4) มุกดาหาร และ (5) สะเดา/สงขลา (ด่านสะเดาและปาดังเบซาร์) โดยการสนับสนุนด้านภาษีในระยะยาว ซึ่งคาดว่าจะเกิดการลงทุนใน อุตสาหกรรมสิ่งทอ, สินค้าเกษตรแปรรูป, เฟอร์นิเจอร์, การท่องเที่ยว และอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการค้าชายแดน เช่น คลังสินค้า โลจิสติกส์ นิคมอุตสาหกรรม ซึ่งจะมีความต้องการในโครงสร้างพื้นฐานด้านการสื่อสารโทรคมนาคม ทั้งการสื่อสารขั้นพื้นฐานและการสื่อสารข้อมูลผ่านแอพพลิเคชั่นบนเครือข่ายสำหรับธุรกิจอีกจำนวนมาก ซึ่ง CAT เราได้เตรียมความพร้อมทั้งโครงข่ายหลักในประเทศครอบคลุมทั้ง 5 เขตเศรษฐกิจพิเศษ และโครงข่ายระหว่างประเทศไม่ว่าจะเป็นโครงข่ายภาคพื้นดินที่เชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่ ลาว, พม่า, กัมพูชา และมาเลเซีย ได้อย่างสะดวก รวมถึงระบบเคเบิลใต้น้ำระหว่างประเทศเชื่อมสู่ทั่วโลก ซึ่งสามารถเลือกใช้งานได้ตามความเหมาะสมทั้งด้านการใช้งานและด้านงบประมาณของลูกค้า โดยเราได้เตรียมความพร้อมทั้งการให้บริการวงจรส่วนบุคคลความเร็วสูง, อินเทอร์เน็ต, บริการคลาวด์คอมพิวติ้ง, บริการโทรศัพท์ระหว่างประเทศ เสริมด้วยบริการ Voice และ Data ผ่านเครือข่าย 3G my และบริการโซลูชั่นไอทีตามความต้องการของลูกค้า ร่วมกับพันธมิตรรายใหญ่อีกมากมาย โดยคาดว่าจากฐานรายได้เดิม รวมกับรายได้ในกลุ่มตลาดใหม่จะทำให้มีรายได้เป็นไปตามเป้าหมายของปีนี้
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit