ทิพยประกันชีวิต เปิดเกมรุก ปี 58 ‘YEAR OF POWERFUL’ มั่นใจแผนเข้าตลาดหลักทรัพย์ และ กลยุทธ์สู่ยอด 5,500 ล้าน โชว์ผลประกอบการปี 57 โตก้าวกระโดด

10 Mar 2015
ทิพยประกันชีวิต เปิดเกมรุก ปี 58 “YEAR OF POWERFUL” เน้นเข้าตลาดหลักทรัพย์ เดินแผนการตลาด Three Doubles โชว์ผลงานปี 57 ผลกำไรสุทธิ 404 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเติบโตต่อเนื่องย้อนหลัง 3 ปีเฉลี่ย 390% คิดเป็นยอดเบี้ยประกันภัยรับรวม 4,290 ล้านบาท ตั้งเป้าปี 58 ยอดเบี้ยประกันภัยรับรวม 5,500 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้น 28% จากปี 57
ทิพยประกันชีวิต เปิดเกมรุก ปี 58 ‘YEAR OF POWERFUL’ มั่นใจแผนเข้าตลาดหลักทรัพย์ และ กลยุทธ์สู่ยอด 5,500 ล้าน โชว์ผลประกอบการปี 57 โตก้าวกระโดด

นายนพพร บุญลาโภ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิพยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เผยแผนการตลาด ปี 2558 ว่า บริษัทฯ ได้กำหนดให้เป็นปีแห่ง “YEAR OF POWERFUL” มุ่งสร้างรากฐานการเติบโตที่มั่นคง และยั่งยืนเพื่อสร้างความพึงพอใจให้แก่ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ลูกค้า คู่ค้า ผู้ถือหุ้น สังคม ตลอดจนบริษัท และพนักงาน โดยได้วางแผนกลยุทธ์เชิงรุก ประกอบด้วย การเข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อกระจายหุ้นให้แก่ประชาชนทั่วไป ซึ่งความคืบหน้าขณะนี้ได้แต่งตั้ง ที่ปรึกษาทางการเงิน ได้แก่ บริษัทหลักทรัพย์บัวหลวง จำกัด (มหาชน) และบริษัท กรุงไทยแอดไวซ์เซอร์รี่ จำกัด รวมทั้งแต่งตั้งผู้รับประกันการจำหน่าย ได้แก่ บริษัทหลักทรัพย์บัวหลวง จำกัด (มหาชน) และ บริษัทหลักทรัพย์ เคทีซีมีโก้ จำกัด โดยวางแผนยื่นจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (Filing) ภายในช่วงกลางปี 2558 และ คาดว่า จะนำบริษัทฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ภายในปลายปี 2558

วัตถุประสงค์ในการนำบริษัทฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เพื่อนำเงินที่ได้จากการระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มาเสริมความแข็งแกร่งให้เงินกองทุนของบริษัทฯ ตามแนวทาง Risk-Based Capital (RBC) สำหรับรองรับการขยายตัวของธุรกิจประกันชีวิต อีกทั้งเป็นการเพิ่มความมั่นคงในฐานะทางการเงินอันเป็นการสร้างความน่าเชื่อถือต่อลูกค้า คู่ค้า และพันธมิตรของบริษัทในการขยายตัวทางการตลาดในประเทศ ได้วางแผนการตลาดเข้มข้น 3 ด้าน หรือ Three Doubles ประกอบด้วย Double ที่ 1 คือ เพิ่มสำนักงานตัวแทนขายจาก 25 แห่งเป็น 50 แห่งทั่วประเทศ พร้อมเตรียมเปิดสำนักงานสาขา หรือ Hub ที่ จ.ชลบุรี Double ที่ 2 คือ เพิ่มจำนวนตัวแทนขายจาก 1,500 คนเป็น 3,000 คน และ Double ที่ 3 คือการยกระดับตัวแทน ด้วย Single License ติดอาวุธความรู้ทางการเงินเพิ่มขึ้น ให้ตัวแทนขายทุกคนคือ “ที่ปรึกษาทางการเงิน” ด้วยการอบรมเข้มจาก “ศูนย์อบรมทิพย” หรือ“TIPlife Academy” นอกจากนี้จะขยายศักยภาพของงานขายและการตลาด ให้ความสำคัญกับการเพิ่มช่องทางการขายหลากหลาย อาทิ เว๊บไซด์ โบรกเกอร์ และเวิร์คไซด์ และให้ความสำคัญกับการออกบูธงานนิทรรศการด้านการเงิน เตรียมขยายสู่ ห้างสรรพสินค้า และโรงพยาบาลทั่วประเทศ ตลอดจนการเดินสายโรดโชว์ให้ความรู้เรื่อง บำนาญ แก่หน่วยงานต่างๆ ส่วนการตลาดต่างประเทศเพื่อเตรียมรับ AEC นั้น นอกจากการตลาดในทิพยลาว แล้ว ขณะนี้ยังคงศึกษาความเป็นไปได้ สำหรับทิพยพม่า และทิพยเขมร

ด้านแผนงานการลงทุน ในปี 2558 จะเน้นหลักการลงทุนแบ่งสัดส่วนการลงทุน 3 ด้านประกอบด้วย การลงทุนที่ให้ผลตอบแทนแน่นอน อาทิ การซื้อพันธบัตร ภาครัฐ และเอกชน คิดเป็นสัดส่วน 80% ของการลงทุนทั้งหมด และการลงทุนในหลักทรัพย์ และสินทรัพย์อื่นๆ ที่มีความมั่นคง ประเภทหน่วยการลงทุน กองทุน Property Fund, Infrastructure Fund คิดเป็นสัดส่วน 5% และการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ซึ่งให้ผลตอบแทนดี ในปีนี้จะเพิ่มการลงทุน จาก 10% เป็น 15% คาดว่า ผลกำไรจากการลงทุน ในปี 2558 จะมีผลตอบแทนการลงทุนอยู่ในระดับใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา

นอกจากนี้ บริษัท ได้วางแผนการสร้างแบรนด์ “ทิพยประกันชีวิต” เพื่อสร้างภาพลักษณ์และการจดจำในกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้น โดยวางงบประมาณในการงบประมาณสำหรับการสื่อสาร ประมาณ 40 ล้านบาท และคาดว่า จะเปิดตัวแคมเปญโฆษณา ประชาสัมพันธ์ ในไตรมาสที่ 2 นี้

นายนพพร ได้กล่าวสรุปถึง ผลประกอบการปี 2557 ที่ผ่านมาว่า ผลประกอบการของบริษัท ฯ มีอัตราการเติบโตต่อเนื่อง ด้วยเบี้ยประกันภัยรับรวม 4,290 ล้านบาท โดยมีผลกำไรจากการลงทุน 398 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเติบโตก้าวกระโดด 136% จากปี 2556 และทำผลกำไรรวมสุทธิ 404 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2556 คิดเป็นอัตราเฉลี่ย 330% จากยอดกำไรสุทธิในปี 2556 ที่เคยทำได้ 94 ล้านบาท และคิดเป็นอัตราการเติบโตต่อเนื่องแบบก้าวกระโดดตลอดระยะ 3 ปีที่ผ่านมา มีอัตราเฉลี่ย 390% ด้วยแผนการตลาดเชิงรุกใน ปี 2558 บริษัทฯ ตั้งเป้าเบี้ยประกันรับรวม 5,500 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตประมาณ 28% จากปี 2557