พล.ร.9 ร่วมกับ กอ.รมน. ภาค 1 จัด “มหกรรมเอกลักษณ์ไทยหัวใจ 4 ภาค”

05 Mar 2015
พลตรี ณัฐ อินทรเจริญ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 9 (พล.ร.9) ร่วมกับ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ภาค 1 และหน่วยงานภาครัฐและเอกชน จัดงาน “มหกรรมเอกลักษณ์ไทยหัวใจ 4 ภาค” ในบรรยากาศตลาดน้ำโบราณ ณ สถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ “ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช” และละคร “บางระจัน” ในบริเวณค่ายสุรสีห์ กาญจนบุรี ระหว่างวันที่ 4 – 8 มีนาคม ศกนี้ ระหว่างเวลา11.00 – 21.00 น. โดยได้รับเกียรติจาก พลเอก อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และผู้บัญชาการกองทัพบก เป็นประธานในพิธีเปิดงานฯ ในวันพุธที่ 4 มีนาคมนี้ เวลา 17.30 น.

ผบ.พล.ร.9 ให้รายละเอียดว่า “มหกรรมเอกลักษณ์ไทยหัวใจ 4 ภาค” จัดขึ้นตามนโยบายของรัฐบาล และศูนย์ปรองดองแห่งชาติ เพื่อให้ประชาชนคนไทยมีความรักสามัคคีเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน โดยใช้เอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมไทยเป็นสื่อ ตลอดจนเพื่อปลูกฝังค่านิยมและจิตสำนึกให้คนไทยตระหนักถึงคุณค่าและร่วมช่วยกันอนุรักษ์สืบสานศิลปวัฒนธรรมของไทยให้ยั่งยืนต่อไป โดยในงานจะมีกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย ทั้งการนำศิลป วัฒนธรรมประเพณีของแต่ละภาคมาจัดแสดง การแสดงแสง เสียง และสื่อผสม ชุด “สยามวานิช วิจิตรจินตภาพ” ที่จัดอย่างยิ่งใหญ่ เขียนบทและกำกับการแสดงโดย อ.นิมิตร พิพิธกุล ศิลปินศิลปาธร มีอาหารท้องถิ่นให้ลิ้มลอง รวมถึงการจัดนิทรรศการที่นำเสนอเอกลักษณ์หรือจุดเด่นต่างๆ ของทั้ง 4 ภาคให้ประชาชนในพื้นที่ได้ชื่นชม การออกร้านและเรือจำหน่ายสินค้า-อาหารที่คัดคุณภาพ รวมถึงสินค้าโอทอปของทั้ง 4 จังหวัดของพื้นที่ กอ.รมน. ภาค 1 กลุ่มภาคกลางตอนล่าง คือ นครปฐม สุพรรณบุรี ราชบุรี และกาญจนบุรี ให้จับจ่าย ช้อป ชม ชิม ในบรรยากาศย้อนยุคตลาดน้ำโบราณ ที่สะท้อนวิถีชีวิตและวัฒนธรรมแบบไทยๆ เปิดโอกาสให้ครอบครัวของกำลังพลมาออกร้านเพื่อเสริมรายได้ เป็นการสร้างงาน สร้างอาชีพเสริมด้วย นอกจากนี้ยังเปิดเวทีแสดงความคิดเห็นเพื่อรับทราบทัศนคติและความพึงพอใจของผู้มาร่วมงาน ในช่วงเย็นของทุกวัน โดยตั้งเป้าหมายว่าจะมีผู้มาร่วมงานอย่างน้อยวันละ 5,000 คน

“เหตุที่เลือกสถานที่ที่กองถ่ายทำภาพยนตร์ “ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช” ในค่ายสุรสีห์ ในการจัดงานมหกรรมเอกลักษณ์ไทยหัวใจ 4 ภาค ครั้งนี้ เพราะเป็นที่รู้จักของคนทั่วไป และเคยเป็นฉากถ่ายทำภาพยนตร์ที่บ่งบอกถึงวิถีชีวิตของคนไทยในสมัยก่อนเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว โดยกองทัพบกรับสนองพระราชเสาวนีย์ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในการสร้างภาพยนตร์เฉลิมพระเกียรติ ซึ่งกองทัพบกต้องการดำเนินการให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวและใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดย ทบ.มีพื้นที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ของทหารอยู่หลายแห่ง เช่น เพชรบูรณ์ เชียงใหม่ ฯลฯ จึงเห็นว่าควรจัดกิจกรรมพิเศษที่นี่เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวและประชาชนให้อยากกลับมาเยี่ยมเยียนเที่ยวชมอีก ประกอบกับการเตรียมฉายภาพยนตร์ ‘ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อวสานหงสา’ ช่วงต้นเดือนเมษายนนี้ด้วย จึงอยากให้สถานที่นี้กลับมามีชีวิตชีวา คึกคักขึ้นอีก

นอกจากนี้ ในด้านการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ช่วงปลายปี 2558 กาญจนบุรีจัดว่าเป็นประตูของทางตะวันตก และมีเส้นทางที่เชื่อมจากทวายของพม่า ผ่านพุน้ำร้อน ไปสู่เมืองดานังของเวียดนาม ซึ่งเป็นเส้นทางเศรษฐกิจและ Logistic ที่สำคัญ ทำให้กาญจนบุรีมีความโดดเด่น และที่ตั้งของค่ายสุรสีห์ก็อยู่ไม่ห่างจากตัวเมืองมากนัก เป็นองค์ประกอบที่เอื้ออำนวยให้มีผู้มาเยี่ยมเยียนเที่ยวชมจุดนี้ได้มาก” พล.ต. ณัฐ ผบ.พล.ร.9 กล่าว

จากนั้นจะเปิดตลาดน้ำโบราณให้เที่ยวชมตามปกติ และในวันที่ 10 มีนาคม จะจัดคอนเสิร์ตการกุศล Jazz for Arts@Kanchanaburi โดย “The Biggles Big Band” ที่มีชื่อเสียงระดับโลกจากประเทศเนเธอร์แลนด์ และมีนักร้องนักดนตรีไทยร่วมด้วย เช่น พืช ภาคิน เดอะวอยซ์, อ้น ทีโบน เป็นต้น ณ เวทีกลางน้ำ ที่มีเรือสำเภาขนาดใหญ่เป็นฉากหลังอันตระการตา เวลา 18.00 น. ซึ่งทาง พล.ร.9 ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนสนับสนุนให้สมาพันธ์เครือข่ายก่อกาญจน์ดี จัดขึ้นเพื่อระดมทุนก่อสร้างแหล่งเรียนรู้และพื้นที่จัดแสดงศิลปะของกาญจนบุรี และจะเปิดให้ผู้สนใจเข้าชมฟรี โดยสามารถร่วมบริจาคได้ นอกเหนือจากการจำหน่ายบัตรการกุศล 1,000.- บาท ซึ่งรวมอาหาร-เครื่องดื่ม

“The Biggles Big Band” ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2528 เป็นวงดนตรีแจ๊สออร์เคสตร้าที่เก่าแก่และเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในยุโรป ประสบความสำเร็จอย่างมากในการเปิดการแสดงที่ฝรั่งเศส เยอรมนี เบลเยี่ยม ฯลฯ และเคยมาจัดเวิร์คช็อปกับนักเรียน-นักศึกษาที่เชียงราย, พัทยา และเปิดการแสดงที่ประเทศไทยในคอนเสิร์ต Jazz de Chang, Jazz for Kids เป็นต้น ที่หัวหิน, กาญจนบุรี, อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยและอยุธยา ตลอดจนการแสดงพิเศษที่สถานทูตเนเธอร์แลนด์ ซึ่งสร้างความประทับใจให้ทั้งผู้ชมและนักดนตรีเป็นอย่างมาก และในโอกาสที่ “The Biggles Big Band” ก่อตั้งมาครบ 30 ปีในปีนี้ จึงได้มาจัดคอนเสิร์ตเฉลิมฉลองในประเทศไทยอีกครั้ง