บริษัท วี-กัลลิเวอร์ จำกัด ซึ่งเป็นเครือข่ายธุรกิจรถมือสองอันดับ 1 จากประเทศญี่ปุ่น เตรียมเปิดสาขาที่ 4 กัลลิเวอร์ สมุทรปราการ เพื่อรองรับแผนการขยายเครือข่ายทั่วประเทศ โดยสาขาล่าสุดนี้เป็นส่วนการลงทุนจากบริษัท โนวิล จำกัด ซึ่งเป็นแฟรนไชส์เครือข่ายกัลลิเวอร์จากประเทศญี่ปุ่น
มร.คัทซึชิ โนมูระ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วี-กัลลิเวอร์ จำกัด เปิดเผยว่าสาขาที่ 4 นี้ ถือเป็นสาขาที่ใหญ่ที่สุดของกัลลิเวอร์ในประเทศไทย ซึ่งจะสามารถจอดรถสำหรับการขายได้มากถึง 100 คัน จึงถือเป็นสาขาที่สำคัญและเป็นสาขายุทธศาสตร์ที่สำคัญในการยกระดับตลาดรถมือสองในประเทศไทย
“โนวิลนี้ถือเป็นแฟรนไชส์แห่งที่ 2 ที่มาจากประเทศญี่ปุ่นโดยตรง ซึ่งสาขาแรกที่ดำเนินการโดยแฟรนไชส์จากประเทศญี่ปุ่นคือกัลลิเวอร์ นวมินทร์ ที่ดำเนินการโดยบริษัท อีพีเอ็ม จำกัด สาขาเหล่านี้จะเป็นส่วนสำคัญที่ กัลลิเวอร์กำลังขับเคลื่อนในการยกระดับตลาดรถมือสองในประเทศไทย” มร.โนมูระ กล่าว
กัลลิเวอร์ สมุทรปราการนี้ ลงทุนและบริหารงานโดยบริษัท โนวิล (ประเทศไทย) คอร์ปอเรชั่น จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือโนวิลแห่งประเทศญี่ปุ่น โดยมีทุนจดทะเบียน 6 ล้านบาท และใช้งบประมาณการลงทุนสร้างสาขาแห่งนี้ประมาณ 30 ล้านบาทพร้อมที่จอดรถ 150 คัน ซึ่งกัลลิเวอร์ สมุทรปราการ จะมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 6 มีนาคมนี้ โดยตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 50 คันต่อเดือน
มร.โนมูระ กล่าวว่าในช่วงการเปิดให้บริการ กัลลิเวอร์ สมุทรปราการ ได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดโดยนำเทศกาลท้องถิ่นของญี่ปุ่นที่เรียกว่า “มัตสึริ” ซึ่งเป็นเทศกาลรื่นเริงของชาวญี่ปุ่น มาจัดในโชว์รูมแห่งใหม่นี้เพื่อสร้างบรรยากาศของความรื่นเริงจากแดนซูชิ ซึ่งนอกเหนือจากอาหารจากแดนอาทิตย์อุทัยแล้ว ยังมีกิจกรรมที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมของชาวญี่ปุ่น ซึ่งลูกค้าที่ซื้อรถในช่วงเทศกาลนี้ระหว่างวันที่ 6 – 15 มีนาคม นี้ จะได้รับส่วนลดทันที 20,000 บาท รวมไปถึงบริการหลังการขายฟรีบางส่วน
ทางด้าน มร. ฮิโรกิ ฮิซาโอกะ กรรมการผู้จัดการบริษัท โนวิล จากประเทศญี่ปุ่น กล่าวว่านับจากกัลลิเวอร์ได้รุกเข้ามาทำธุรกิจในประเทศไทย โนวิล ให้ความสนใจที่จะเข้ามาขยายเครือข่ายร่วมกับกัลลิเวอร์ในประเทศไทยอย่างมาก และกัลลิเวอร์ สมุทรปราการ นี้ ถือเป็นสาขานอกระเทศญี่ปุ่นแห่งแรกของโนวิล
“เราเริ่มเปิดการเจรจากับกัลลิเวอร์ที่จะขอเข้ามาทำธุรกิจในประเทศไทย ซึ่งวันนี้ ผมอยากบอกว่าผมภูมิใจและดีใจที่สามารถเปิดสาขานอกประเทศญี่ปุ่นได้สำเร็จในประเทศไทย ซึ่งเป็นประเทศที่ผมเชื่อมั่นว่ามีศักยภาพในการเติบโตอย่างมาก แต่ที่สำคัญยิ่งกว่านั้นคือยี่ห้อของกัลลิเวอร์ที่ผมมั่นใจอย่างมากว่าจะได้รับการยอมรับจากสังคมไทยในเร็ว ๆ นี้” มร. ฮิซาโอกะ กล่าว
โนวิล ได้ร่วมธุรกิจกับกัลลิเวอร์ในฐานที่เป็นหนึ่งในแฟรนไชส์ของกัลลิเวอร์ที่ประเทศญี่ปุ่น มาเป็นเวลายาวนานถึง 16 ปี ปัจจุบันมี 6 สาขาในประเทศญี่ปุ่นภายใต้แบรนด์กัลลิเวอร์ โดยมียอดขายประมาณปีละมากกว่า 300 คัน และคาดว่าปีนี้จะสามารถทำยอดขายได้ประมาณ 400 คันในประเทศญี่ปุ่น
มร.โนมูระ กล่าวว่ากัลลิเวอร์จะยังคงเดินหน้าขยายเครือข่ายในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในเร็ว ๆ นี้จะเปิดสาขาใหม่ที่เชียงใหม่ เชียงราย ขอนแก่น สุพรรณบุรีและอีก 1 สาขาในกรุงเทพมหานคร
“ถ้าเราสามารถสร้างเครือข่ายโชว์รูมที่มากเพียงพอ การใช้สต็อครถร่วมกันระหว่างสาขาก็จะเกิดขึ้น ซึ่งหมายความว่าลูกค้าที่เชียงใหม่ จะสามารถสั่งซื้อรถจากเครือข่ายของกัลลิเวอร์ที่มีสาขากระจายอยู่ทั่วประเทศไทยได้โดยผ่านระบบซื้อขายออนไลน์ที่ออกแบบโดยกัลลิเวอร์ เช่นเดียวกันกับที่ขอนแก่นหรือแม้แต่ที่กรุงเทพฯ แน่นอนครับผู้ซื้อจากทุกจังหวัดจะได้รับสิ่งที่เหมือนกันหมดคือคุณภาพรถที่ดีมีการรับประกันและมีรถให้เลือกที่หลากหลาย” มร. โนมูระ กล่าว
แม้ว่าตลาดรถมือสองในประเทศไทยขณะนี้ ยังไม่สู้จะดีมากนัก มร.โนมูระ กล่าวว่า วี-กัลลิเวอร์ มีความมั่นใจว่าตลาดรถมือสองจะค่อย ๆ เติบโตขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ ซึ่งส่งผลให้กัลลิเวอร์ ได้รับการติดต่อจากผู้สนใจที่จะร่วมทำธุรกิจกับกัลลิเวอร์ ซึ่งรวมไปถึงเจ้าของเต็นท์รถอิสระทั่วไป บริษัทเช่าซื้อรถยนต์ หรือแม้แต่นักธุรกิจทั่วไป ก็ให้ความสนใจที่จะเจรจาร่วมธุรกิจแฟรนไชส์รถมือสองกับกัลลิเวอร์ และผู้สนใจทั่วไป สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่บริษัท วี-กัลลิเวอร์ จำกัด โทรศัพท์ 02 645 0530
วี-กัลลิเวอร์ มีความเชื่อมั่นตลาดประเทศไทยอย่างมากทั้งนี้เพราะจากการสำรวจของ JETRO พบว่าในประเทศไทยมีเพียง 13.8% ของครัวเรือนเป็นเจ้าของรถยนต์เมื่อปี 2553 เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศญี่ปุ่นที่มีตัวเลขสูงถึง 86.5% ซึ่งสะท้อนถึงศักยภาพการเติบโตของตลาดรถมือสองในประเทศไทย
นอกจากนี้ ภายใต้แผนการยกระดับตลาดรถมือสองในประเทศไทย กัลลิเวอร์ ได้แนะนำระบบธุรกิจรถมือสองที่ได้รับการยอมรับสู่สังคมไทย โดยเฉพาะข้อเสนอรับประกันความพึงพอใจของลูกค้าด้วยการรับซื้อคืนภายใน 30 วันหรือ 5,000 กิโลเมตร พร้อมทั้งการรับประกันมาตรฐาน 6 เดือนหรือ 10,000 กิโลเมตร ตลอดจนข้อเสนอเพิ่มเติมรับประกัน 1 – 3 ปีแล้วแต่อายุของรถยนต์
สำหรับกัลลิเวอร์ในประเทศญี่ปุ่นนั้น ก่อตั้งมานานกว่า 20 ปี โดยปัจจุบันได้ขึ้นเป็นอันดับหนึ่งของบริษัทค้ารถมือสองในประเทศญี่ปุ่น มีสาขาทั้งสิ้น 430 สาขาในปัจจุบัน และมีการซื้อรถมือสองปีละประมาณ 200,000 คัน และขายรถออกตรงสู่ผู้บริโภคประมาณปีละ 60,000 คันผ่านเครือข่าย 430 สาขาแฟรนไชส์ทั่วประเทศญี่ปุ่น
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit