ดร.สมชัย สัจจพงษ์ อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวว่า การจัดขายทอดตลาดรถยนต์ของกลางในครั้งนี้เป็นการจัดครั้งแรกในรอบปีงบประมาณ 2558 กรมศุลกากรได้มอบหมายให้ บริษัท สหการประมูล จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ดำเนินการขายทอดตลาดตามสภาพที่เป็นอยู่ และเป็นการประมูลด้วยวาจา เหมือนเช่นที่ผ่านมา โดยได้เปิดให้ผู้สนใจที่จะร่วมประมูลสามารถเข้าชมสภาพภายนอกรถยนต์ของกลางฯตั้งแต่วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2558 สำหรับรถยนต์ที่เปิดประมูลเป็นคันแรกและมีราคาการเปิดประมูลสูงสุดในวันนี้ ได้แก่ ลำดับที่ 1 ยี่ห้อBENTLEY รุ่น CONTINENTAL GT ปี 2012 เปิดประมูลด้วยราคา 9.99 ล้านบาท และรถยนต์ที่มีราคา การเปิดประมูลลำดับถัดมา ได้แก่ ลำดับที่ 5 ยี่ห้อFERRARI รุ่น Scuderia Spider 16 M ปี 2009 เปิดประมูลด้วยราคา 6 ล้านบาท ส่วนรถยนต์ที่มีการเปิดประมูลด้วยราคาต่ำสุด ได้แก่ ลำดับที่ 226 ยี่ห้อTOYOTA รุ่น HIACE และลำดับที่ 229 ยี่ห้อ TOYOTA รุ่น KE 70 เปิดประมูลด้วยราคา 2 หมื่นบาท
อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่า เนื่องจากได้รับความสนใจจากประชาชนกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการซื้อรถยนต์หรูในราคาถูกกว่าท้องตลาดเป็นจำนวนมาก ทำให้ราคารถยนต์แต่ละคันมีการแข่งขันและปรับขึ้นจนสามารถขายได้ตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ โดยในปีที่ผ่านมากรมศุลกากรได้จัดการประมูลรถยนต์ของกลางไปทั้งสิ้น 2 ครั้ง สามารถจัดเก็บรายได้เข้ารัฐเป็นมูลค่า 907.395 ล้านบาท อย่างไรก็ตามการประมูลในครั้งนี้น่าจะได้รับความสนใจจากประชาชนที่สนใจเช่นเดียวกับปีที่ผ่านมา เนื่องจากจะมีการรวบรวมรถยนต์จำนวนกว่า 200 คัน ไว้ให้เลือกประมูลฯ ในจำนวนนี้มีรถยนต์หรูที่อยู่ในความสนใจของตลาด เช่น PORSCHE, AUDI, BENZ, FERRARI, BMW, LEXUS รวมทั้งรถญี่ปุ่นและยุโรปสภาพเกรด A อีกจำนวนมาก
สำหรับการลงทะเบียนเข้าร่วมประมูล และวางเงินค้ำประกันการประมูลนั้น ผู้ที่ประสงค์จะเข้าร่วมประมูลจะต้องลงทะเบียนและวางเงินค้ำประกันการประมูลเป็นแคชเชียร์เช็คของธนาคารในกรุงเทพฯ และปริมณฑล สั่งจ่ายกรมศุลกากร (พักรายได้) ที่ เจ้าหน้าที่รับลงทะเบียน ส่วนของกลาง สำนักสืบสวนและปราบปราม กรมศุลกากร โดยกรมศุลกากรได้เปิดรับลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2558 เป็นต้นไปจนกว่าจะเสร็จสิ้นการประมูล ทั้งนี้ ในการวางเงินค้ำประกันรถยนต์ที่จะประมูลจะมีอัตราที่แตกต่างกัน โดยรถยนต์ที่ราคาเปิดประมูลต่ำกว่า 1.5 ล้านบาท จะต้องวางเงินค้ำประกันคันละ 1 แสนบาท ส่วนรถยนต์ที่ราคาเปิดประมูลตั้งแต่ 1.5 ล้านบาทขึ้นไป จะต้องวางเงินค้ำประกันคันละ 2 แสนบาท