ปตท. นำส่ง ข้อกำหนดการเปิดให้ใช้ระบบส่งก๊าซฯ แก่บุคคลที่สาม ให้ กกพ. แล้ว พร้อมยืนยันนโยบายสนับสนุนการดำเนินธุรกิจเสรีและโปร่งใส

03 Mar 2015
นายชาครีย์ บูรณกานนท์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ก๊าซธรรมชาติ บริษัท ปตท . จำกัด (มหาชน)เปิดเผยว่า ขณะนี้ ปตท. ได้จัดทำ “ข้อกำหนดเกี่ยวกับการเปิดให้ใช้หรือเชื่อมต่อระบบส่งก๊าซธรรมชาติบนบกแก่บุคคลที่สามของ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน)” (Onshore Natural Gas Transmission Pipeline Third Party Access Code of PTT: TPA Code) เพื่อเปิดให้บุคคลที่สาม ร่วมใช้หรือเชื่อมต่อระบบส่งก๊าซธรรมชาติ โดยได้นำส่งข้อกำหนดฯ ให้ คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบและประกาศใช้ต่อไป

การจัดทำ “ข้อกำหนดเกี่ยวกับการเปิดให้ใช้หรือเชื่อมต่อระบบส่งก๊าซธรรมชาติบนบกแก่บุคคลที่สามฯ” ในฉบับร่างนี้ มุ่งเน้นให้เกิดความโปร่งใส เป็นธรรม และความเท่าเทียมในการใช้บริการ ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ใน “ข้อบังคับว่าด้วยการจัดทำข้อกำหนดเกี่ยวกับการเปิดให้ใช้หรือเชื่อมต่อระบบส่งก๊าซธรรมชาติและสถานี แอลเอ็นจีแก่บุคคลที่สาม พ.ศ.2557” โดย กกพ. ได้ออกประกาศไว้ในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2557 ตามวัตถุประสงค์ในพระราชบัญญัติการประกอบกิจการพลังงาน พ.ศ.2550 ที่มุ่งส่งเสริมให้มีการแข่งขันในกิจการและโครงข่ายพลังงานอย่างเป็นธรรม ภายใต้การกำกับดูแลของ กกพ. ซึ่ง ปตท . ได้ให้ความร่วมมือและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดเสมอมา

ทั้งนี้ ผู้รับใบอนุญาตขนส่งก๊าซธรรมชาติทางท่อผ่านระบบส่งก๊าซธรรมชาติ จะต้องยินยอมให้บุคคลที่สาม ที่ได้รับใบอนุญาตจัดหาและค้าส่งก๊าซธรรมชาติ จาก กกพ. หรือผู้ประกอบกิจการพลังงานรายอื่น สามารถใช้หรือเชื่อมต่อระบบส่งก๊าซธรรมชาติได้ ปตท. จึงได้จัดทำข้อกำหนดฯ ดังกล่าวขึ้น เพื่อเป็นกรอบและแนวทางปฏิบัติร่วมกัน โดยยึดถือแนวทางการสร้างความมั่นคงทางพลังงาน มีความปลอดภัยตามมาตรฐานสากลหรือตามข้อปฏิบัติของบริษัทชั้นนำในต่างประเทศ และไม่เป็นภาระกับผู้ใช้ระบบในปัจจุบัน

“ปตท. ดำเนินธุรกิจพลังงานซึ่งเป็นธุรกิจเสรีด้วยความโปร่งใสและเป็นธรรม พร้อมปฏิบัติตามนโยบายและข้อกำหนดของภาครัฐมาโดยตลอด โดยเมื่อวันที่ 21 มกราคม 2558 ที่ผ่านมา ปตท. ได้จัดงานรับฟังความคิดเห็นร่างข้อกำหนดฯ สำหรับกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในการเปิดให้ใช้หรือเชื่อมต่อระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติ นำมาสู่การจัดทำข้อกำหนดฯ ฉบับสมบูรณ์ ซึ่ง ปตท.เชื่อว่าข้อกำหนดฯ ฉบับนี้ จะเป็นการยืนยันถึงพันธกิจของ ปตท. ต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียถึงการบริหารธุรกิจอย่างมีธรรมาภิบาลได้อย่างชัดเจนที่สุด” นายชาครีย์ กล่าวย้ำในตอนท้าย