นาวาอากาศตรี นายแพทย์บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดี
กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า เนื่องในวันที่ 20 มีนาคมของทุกปี
คณะรัฐมนตรีมีมติให้เป็น
วันอาสาสมัครสาธารณสุขแห่งชาติ เพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้แก่อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หรือ อสม. ที่ทำหน้าที่ในการดูแลสุขภาพของประชาชนในชุมชนด้วยจิตอาสาอย่างต่อเนื่องยาวนานกว่า 35 ปี และมีส่วนช่วยสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี การได้รับข้อมูลข่าวสาร การติดตามเยี่ยมเยียนอย่างใกล้ชิด เพราะ อสม. ก็คือคนในชุมชนที่ได้รับความไว้วางใจให้ช่วยดูแลสุขภาพเบื้องต้น กรมฯ ได้มีการจัดการคัดเลือก อสม. ที่มีผลงานเด่นใน ๑๐ สาขา ตั้งแต่ระดับตำบล อำเภอ จังหวัด เขตสุขภาพ ภาค และระดับชาติ พร้อมทั้งจัดงานเพื่อเฉลิมฉลองและมอบรางวัล เพื่อเป็นการยกย่อง เชิดชูเกียรติ และให้อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านจำนวนกว่า 1,0๔0,000 คนและเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทั่วประเทศ ร่วมกันจัดกิจกรรมรณรงค์อันเป็นประโยชน์และสอดคล้องกับปัญหาสุขภาพตามนโยบายกระทรวงสาธารณสุข และในปี 2558 กระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายและเป้าหมายในการดูแลสุขภาพประชาชนและครอบครัว โดยมี “ทีมหมอครอบครัว” ที่จะทำการดูแลสุขภาพทุกกลุ่มวัยอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะผู้ป่วยติดเตียง ผู้สูงวัย และผู้ด้อยโอกาส โดยกำหนดหัวข้อในการรณรงค์ปีนี้คือ “อสม.รู้ทันภัยเสี่ยงสุขภาพ (บุหรี่และยาเสพติด) ร่วมคิด ร่วมสร้าง
สานพลังทีมหมอครอบครัว”
สำหรับรายละเอียดการดำเนินงานคือ อาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) และทีมหมอครอบครัว จะต้องดำเนินงานอย่างใกล้ชิดในการจัดกิจกรรมรณรงค์ต่างๆ อาทิ ให้ความร่วมมือในการตั้งจุดตรวจ สกัด และคัดกรองในพื้นที่สอดส่องพฤติกรรมประชาชนกลุ่มเสี่ยงในชุมชน และสร้างเครือข่ายการดูแลป้องกันยาเสพติดในชุมชน นอกจากนี้จัดกิจกรรมสาธิตการปฏิบัติงานเน้นบทบาทของอสม.ในทีมหมอครอบครัว เช่น ให้สุขศึกษาสำหรับเพื่อนบ้านและชุมชนอย่างใกล้ชิดรับทราบปัญหาและมีส่วนร่วมในการวิเคราะห์ปัญหาด้าน สุขภาพของชุมชน เพื่อจัดทำแผนสุขภาพชุมชน/ตำบล และ โครงการเพื่อแก้ปัญหาชุมชนร่วมกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและท้องถิ่น เพื่อการปรึกษา ส่งต่อหรือการค้นหาโรคที่เร็วขึ้น
“การที่กระทรวงมีนโยบายและเป้าหมายในการดูแลสุขภาพประชาชนและครอบครัว โดยเน้น “ทีมหมอครอบครัว” เนื่องจากทีมหมอครอบครัว ซึ่งประกอบด้วยสหวิชาชีพด้านการแพทย์และการสาธารณสุข ทั้งในหน่วยงานบริการใกล้บ้านและในโรงพยาบาล รวมถึ งอสม. อปท. ชุมชน ภาคประชาชน สามารถที่จะดูแลปัญหาด้านกาย ป้องกันและดูแลด้านจิตใจ และพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย ได้อย่างใกล้ชิด เข้าถึง และเข้าใจคนในชุมชนได้ดี ซึ่งจะให้การจัดกิจกรรมรณรงค์เข้าถึงคนในชุมชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีการติดตามผลอย่างใกล้ชิด”