นายอานนท์ จิตรมีศิลป์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท น้อมจิตต์ แมนนูแฟกเจอริ่ง จำกัด ให้สัมภาษณ์ “ตลาดชุดนักเรียน มีการสำรวจจริงจังในปี 2554 (อ้างอิงจาก สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์) ถึงตัวเลขรวมกว่า 5,000 ล้านบาท และมีแนวโน้มสูงขึ้นทุกปี ปีละ 10% โดย “น้อมจิตต์” อยู่ในกลุ่มแบรนด์ชุดนักเรียนระดับคุณภาพมาตรฐาน ซึ่งในตลาดมีผู้เล่นในกลุ่มเดียวกันราว 10 แบรนด์ สนนราคาประมาณ 200-400 บาท โดยจุดเด่นของน้อมจิตต์อยู่ที่สั่งสมชื่อเสียงมาช้านาน ตั้งแต่ปี 2516 จัดเป็นเจ้าแรกๆ ซึ่งในยุคนั้นชุดนักเรียนสำเร็จรูปที่มีคุณภาพ ใช้วัตถุดิบดี และตัดเย็บได้มาตรฐานยังมีไม่มากนัก ทางแบรนด์น้อมจิตต์ เชื่อว่า วัตถุดิบและกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐานถือเป็นหัวใจสำคัญประการแรก ซึ่งเราใส่ใจแม้กระทั่งรายละเอียดเล็กน้อย ไม่นานแบรนด์น้อมจิตต์ก็เป็นที่ยอมรับและขยายธุรกิจอย่างรวดเร็ว ตั้งโรงงานผลิตและตัดเย็บครบวงจร เป็นครั้งแรกในปี 2531 ปัจจุบันดำเนินธุรกิจครบ 50 ปี”
สำหรับฤดูกาลขาย ซีซั่นรับเปิดเทอมเดือน พ.ค. นี้ ทางแบรนด์น้อมจิตต์ ยึดสโลแกน ใส่เลย ไม่ต้องคิด ชุดน้อมจิตต์ ฮิตได้เลย จุดเด่น ไม่แขวก!! ไม่ขาด!! และ ได้เริ่มทำการตลาดผ่านช่องทางโซเชี่ยลเน็ตเวิร์ค รวมถึงสื่อสารผ่านสมาชิกที่เป็นลูกค้าเก่า ซึ่งกลุ่มนี้มีความเชื่อถือและยึดมั่นในคุณภาพของแบรนด์รวมถึงระบบปากต่อปากที่ช่วยเพิ่มฐานลูกค้าได้เป็นอย่างดี โดยปัจจุบันทางแบรนด์มีหน้าร้านจำหน่ายสินค้าทั้งสิ้น 4 สาขา สาขาบางกะปิ สาขาบางลำพู สาขาบางกระบือ และสาขาแฟชั่นไอส์แลนด์ กลุ่มสินค้าชุดนักเรียนครอบคลุมความต้องการของตลาด ประกอบด้วย ชุดอนุบาล, ชุดประถม, ชุดมัธยมต้น, ชุดมัธยมปลาย, ชุดกิจกรรม, ชุดอาชีวะ, ชุดนักเรียนสั่งผลิต, ชุดนักเรียนนานาชาติ, ชุดนักเรียนพละ ฯลฯ คาดว่าปีนี้จะสร้างยอดขายได้เป็นที่น่าพอใจ กล่าวคือเติบโต 10 เปอร์เซ็นต์ ด้วยปัจจัยบวกต่างๆ อาทิ สถานะการณ์ทางการเมืองที่คลี่คลายลง ความมั่นใจของผู้บริโภคเริ่มกลับมา บวกกับแรงอั้นจากความประหยัดในปีที่แล้ว ซึ่งเด็กนักเรียนโดยส่วนใหญ่จะเติบโตทุกปี และมีเกณฑ์ต้องเปลี่ยนชุดนักเรียนใหม่ 1-2 ปี/ครั้ง ฯลฯ ทั้งนี้เป็นที่
น่าสนใจว่า ที่ผ่านมาตลาดชุดนักเรียนนั้นเติบโตตามสภาพเศรษฐกิจ เพราะรายได้ภาคครัวเรือนของผู้ปกครองมีผลต่อการตัดสินใจซื้อสูง ซึ่งปีที่แล้วมีแรงอั้น ทำให้ปีนี้น่าจะมียอดขายสูงขึ้น ทั้งนี้บริษัทฯ ได้ ตรึงราคาขายเพื่อลดภาระและความคืนสุขสู่ผู้ปกครองอีกทางหนึ่งด้วย
นอกจากนี้ บริษัทฯ เชื่อว่า การดำเนินธุรกิจที่ดีนั้นต้องควบคู่ไปกับการคืนกำไรเพื่อสังคม ในฐานะที่เป็นแบรนด์ที่อยู่คู่วงการการศึกษามานานกว่า 50 ปี กลางปีนี้ “น้อมจิตต์” จึงได้จัดทำโครงการพิเศษที่ขึ้น โดยได้เล็งเห็นถึงปัญหาการขาดแคลนชุดนักเรียน และอุปกรณ์การเรียนในเด็กด้อยโอกาสที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ แบรนด์จึงขอเป็นสื่อกลางการบริจาคชุดนักเรียนใหม่ให้กับเด็กยากไร้ ซึ่งจากการสำรวจในปัจจุบัน เด็กที่ผู้ปกครองขาดแคลนทุนทรัพย์ ในชีวิตนี้แทบไม่มีโอกาสได้สวมชุดนักเรียนใหม่ ไม่ได้มีแต่ในถิ่นทุรกันดาร ห่างไกล กระทั่งในกรุงเทพฯและจังหวัดพื้นที่ใกล้เคียงก็มีมากด้วย เป็นที่มาของการจัดทำโครงการ “ชุดใหม่ เพื่อนใหม่ ปันน้ำใจกับน้อมจิตต์” หวังเป็นสื่อกลางในการรวบรวมนำเงินสบทบทุนบริจาคที่ได้นำไปซื้อชุดนักเรียนใหม่ อุปกรณ์การเรียน อุปกรณ์กีฬา ตลอดจนสิ่งของที่มีประโยชน์จำเป็นสำหรับการเรียนการสอน ไปบริจาค ซึ่งรูปแบบและช่องทางการมีส่วนร่วมสำหรับคนที่สนใจ สามารถทำได้ดังนี้
1. บริจาคผ่าน www.nomjittwegive.com และ www.nomjittwegive.org
2. บริจาคผ่านการโอนเงินสมทบทุนได้ที่ธนาคารกรุงไทย และธนาคารไทยพาณิชย์ ชื่อบัญชี บจ.น้อมจิตต์ อินคอร์เปอเรชั่น เพื่อโครงการ ชุดใหม่ เพื่อนใหม่ ปันน้ำใจกับน้อมจิตต์
3. บริจาคสนับสนุนผ่านกล่องรับบริจาคที่ร้านน้อมจิตต์ทั้ง 4 สาขา สาขาบางกะปิ สาขาบางลำพู สาขาบางกระบือ และสาขาแฟชั่นไอส์แลนด์
สิ่งของที่รับบริจาค หรือรับการสนับสนุน 1. เงินสมทบทุนเพื่อซื้อชุดนักเรียนใหม่ 2. อุปกรณ์การเรียน การศึกษา อุปกรณ์กีฬา 3. ของใช้เบ็ดเตล็ดของใช้ประจำวันอื่นๆ พร้อมของใช้เบ็ดเตล็ดของใช้ประจำวันอื่นๆ
เป้าหมายของโครงการที่วางไว้ว่า คือ สามารถกระจายชุดนักเรียน และสิ่งของต่างๆ ให้กับเด็กๆ ที่ด้อยโอกาสขาดแคลนทุนทรัพย์ได้มากกว่า 100 โรงเรียน ระยะเวลาดำเนินโครงการฯ ตั้งแต่เดือน มี.ค. – พ.ค. 2558 รวม 3 เดือน”
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit