ประเดิมเช็คอินกันที่ร้านแรก Maybe Flower & Cafe ร้านเบอเกอรี่เก๋ๆ ที่ข้างหน้าเป็นร้านดอกไม้และด้านในเป็นร้านเบเกอรี่เหมือนเมืองนอก จานแรกที่ต้องชิมเป็น Berries Cream Cheese Crunchy Cup เมนูที่นำเอาโอริโอ้มาบดเป็นถ้วยโดยข้างในจะใส่ครีมชีสและราดด้วยเบอรี่ซอส ต่อด้วยเมนู Candy Cloud เป็นคอนเฟลกรสผลไม้ชุบกับมัชเมโล่ทานกับไอศกรีมวานิลลา และเมนูไทยอย่าง กล้วยเชื่อม มันเชื่อม ก็มี เครื่องดื่มต้องลอง Maybe Ice Cube Tea ชามะม่วงผสมกับชาลิ้นจี่ที่ความพิเศษอยู่ที่น้ำแข็งที่ทางร้านนำเอาดอกไม้มาใส่ในตัวก้อนน้ำแข็งด้วยเลย อีกเมนู Cotton Candy Frappe การผสมกันระหว่าง ไวท์ช็อค วนิลลา ราสพ์เบอร์รีและสตอเบอรี่มาปั่นรวมกัน ชอบกาแฟต้องลอง Maybe On The Rock กาแฟอริกาโน่ราดบนไอศกรีมวานิลลาและก้อนน้ำแข็งนมสด รสเลิศทุกเมนู
ร้านที่สอง La Creperie ร้านเครปฝรั่งเศสแบบต้นตำหรับแท้ๆ ความพิเศษอยู่ที่แป้งเครปเป็นไตล์ Brittany แคว้นทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องเครปมากที่สุดแห่งหนึ่งในฝรั่งเศส มีทั้งเมนูคาวและหวาน เริ่มที่จานแรกเลย La Complete เครปฝรั่งเศสแบบต้นตำหรับที่จะใส่แฮมชีสและก็ไข่ไก่ไปในตัวเครป เมนูที่สอง เครปฟัวกราส์ เป็นเครปฝรั่งเศสที่มีการเสิร์ฟพร้อมตับห่าน ราดแยมหัวหอมและซอสเบอรี่ ต่อด้วยเมนู พาสต้าแป้งเครป สไปซี่ซีฟู้ด ที่ตัวเส้นทางร้านเขาทำมาจากแป้งเครป แล้วก็เพิ่มความอร่อยด้วยซีฟู้ดสดๆ
สุดท้ายกับ ร้านคราม ร้านสวยกลางสวนใจกลางเมืองกับอาหารไทยต้นตำหรับ ที่รับรองว่าได้ทานแล้วจะรู้สึกเหมือนทานอยู่ที่บ้านเลย หมูสามชั้นผัดพริกขิง , แกงไก่หน่อไม้จีน , กุ้งสามพี่น้อง , แกงคั่วเนื้อปูใบชะพลู ,ไข่เจียวหม้อเนื้อปู , ใบเหลียงผัดไข่ รับประกันความแซ่บทุกเมนู
ชิมอาหารแล้วก็ต้องมานั่งคุยอัพเดทชีวิตกันนิดนุง โดยเฉพาะจากบุคลิคของ “ซานิ” ที่ออกจะห้าวๆทอมๆ เเต่ตอนนี้เปลี่ยนไปมาก ทั้งสวยขึ้น รักสวย รักงาม ดูจาก IG ก็จะโพสภาพเเนวมุ้งมิ้งเป็นสาวหวานชอบเเฟชั่นมาก เลยต้องถามหาคำตอบกันนิดนึงว่าเป็นมายังไง
“จอย : ทราบมาว่าซานิชอบถ่ายรูป เห็นจากรูปที่ลงใน IG อีกอย่างที่เห็นคือ ซานิ แต่งตัวจัดมาก และแต่งได้ทุกแนวเป็นเจ้าแม่แฟชั่นอีกคนไปแล้ว..??? ซานิ : เป็นคนชอบเสื้อผ้าสไตล์ฮิปฮอปค่ะ แล้วก็พวกรองเท้า ล่าสุดต้องเปลี่ยนห้องมาเป็นที่เก็บรองเท้าผ้าใบ เพราะหนูชอบรองเท้าผ้าใบมากมันเข้ากับคาแร็คเตอร์เราที่เป็นคนคล่องแคล่วเวลาทำงานก็สะดวกดี ตอนนี้มีอยู่เป็นพันๆคู่เลยค่ะ จอย : โหหห...ถามจริงๆเป็นพันคู่นี่ใส่หมดเหรอ??? ซานิ : ใส่ไม่หมดหรอกค่ะ บางคู่ซื้อมาก็ไม่กล้าใส่เพราะมันแพงไป บางคู่ก็ไปซื้อต่างประเทศคือถ้ามันสวยจริงๆให้บินไปซื้อก็ยอมนะคะ เต๋อ : แล้วมีคู่ที่รักที่สุดไหม???ซานิ : มีครั้งหนึ่งไปต่างประเทศแล้วเจอรองเท้าคู่หนึ่งที่เหมือนกับคู่ที่เรารักและใส่มาตั้งแต่ประกวดจนคู่นั้นมันพังไปหมดแล้ว พอไปเจอคู่นี้เลยตัดสินใจซื้อเลยแต่ก็ไม่กล้าใส่นะคะเพราะมันแพงตั้ง 3 หมื่นกว่าบาทแหน่ะ เต๋อ : มาคุยเรื่องงานเพลงกันบ้างดีกว่าอัลบั้ม รัก Never Die มันเป็นสไตล์อะไรครับ ??? ซานิ : ปกติหลายคนจะชินกับการทำงานเพลงร็อคของซานิมาตลอด แต่ไม่มีใครรู้ว่าแนวที่ซานิชอบตั้งแต่เด็กคือฮิปฮอป แต่ตอนที่มาประกวดซึ่งเพลงที่อยู่บนพื้นฐานที่คนไทยฟังมันคือป็อปร็อค เลยได้ทำงานป็อปร็อคมาสักระยะ แต่พอถึงวันหนึ่งที่เราอยากทำอะไรที่เราชอบก็เลยเปลี่ยนมาเป็นแนวฮิปฮอป แต่พอเราเปลี่ยนทางมาก็ไม่ได้เป็นฮิปฮอปมากก็ยังสามารถร้องตามได้ เลยเกิดเป็นเพลง รัก Never Die ค่ะ จอย : เห็นว่าซิงเกิ้ลนี้ซานิ มีส่วนในการสร้างสรรค์หลายอย่างด้วย??? ซานิ : เขียนท่อนแร็พเองด้วยค่ะเป็นท่อนเล็กๆหนึ่งท่อน แล้วก็ร่วมทำงานกับน้องแต๊บ AF แล้วก็พี่แม็ค ศรัณย์ แล้วก็บอกความต้องการว่าเราอยากได้ฟิวล์ของเพลงว่าต่อให้เราสูญเสียความรัก เสียตัวตนไปความรักมันก็ never die รักมันก็ never lie อยู่ดี...คือมุมมองของซานิคือว่ามีรักมันก็ต้องมีเลิก อยากให้เป็นมุมมองดีๆของคนที่อกหักให้คิดบวก เต๋อ : วันนี้ก็ต้องขอบคุณซานิมากๆที่มาสร้างสีสันให้กับเราในวันนี้ด้วยครับ นอกจากงานเพลงแล้วยังมีงานอื่นอีก (ฝากผลงาน) ซานิ : ก็มี The Voice Kids ทางช่อง3 นะคะ แล้วก็มีละครกับทางช่อง 3 สองเรื่องด้วยกันคือ สายลับสบัดช่อ และ 4 หล่อขอสืบ แล้วก็ฝากซิงเกิ้ลด้วยค่ะ รัก Never Die และเร็วๆนี้จะมีคอนเสิร์ต AF reunion รวมตั้งแต่รุ่น 1-11 วันที่ 6 มิถุนายน คะ”
ติดตามชมรายการ "เปรี้ยวปากเช็คอิน" พากินพาเที่ยวกับแขกรับเชิญสาวสวย “ ซานิ AF6” เทปนี้ได้ เวลา 8.35 น.วันอาทิตย์ที่ 22 มีนาคมนี้ ทางช่อง 3
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit