นายกมลธัญ พรไพศาลวิจิต ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำในเดือนมีนาคม 2558 ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำกลับมาสะท้อนมุมมองเชิงลบครั้งแรกในรอบ 4 เดือน ค่าดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำอยู่ที่ระดับ 45.56 จุด ลดลง 7.13 จุด หรือลดลง 13.53% เมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมาที่ดัชนีอยู่ที่ 52.69 จุด โดยดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำกลับมาเคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 50 จุด สะท้อนทัศนคติในเชิงลบต่อราคาทองคำในประเทศหลังจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ จากความวิตกกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดกันไว้ก่อนหน้า ส่งผลให้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ปรับตัวแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องและลดความน่าสนใจของทองคำ ประกอบกับปัจจัยหนุนเดิมอย่างประเด็นความเสี่ยงของกรีซสามารถคลี่คลายไปได้ระยะสั้น ด้านปัจจัยในประเทศมองเงินบาทอ่อนค่าซึ่งสามารถช่วยลดการอ่อนตัวของราคาทองคำในประเทศ โดยมุมมองดังกล่าวยังสอดคล้องกันทั้งกลุ่มผู้ลงทุนทองคำและกลุ่มผู้ค้าทองคำสะท้อนผ่านค่าดัชนีแบบแยกกลุ่มตัวอย่างที่ปรับตัวลดลงต่ำกว่าระดับ 50 จุดเช่นกัน
ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำในระยะสามเดือนข้างหน้ามีการปรับลดลงต่ำกว่าระดับ 50 จุดเช่นกัน สะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนและผู้ค้าทองคำมีความอ่อนไหวต่อข่าวการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ อย่างไรก็ดีเราประเมินว่าการปรับดอกเบี้ยน่าจะยังอยู่ในช่วงปลายไตรมาส 2 ถึงช่วงต้นไตรมาส 3 เนื่องจากยังมีผลกระทบจากการแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่กระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอยู่พอสมควร
ดร.ทรรศนะ บุญขวัญ ประธานคณะทำงานศูนย์วิจัยทองคำ ด้านบทสรุปความคิดเห็นผู้ค้าทองคำ (Gold Trader Consensus) จากผู้ประกอบกิจการค้าทองคำรายใหญ่ ผู้ค้าส่งทองคำ และผู้ประกอบกิจการนายหน้าซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับราคาทองคำ จำนวน 9 ตัวอย่าง พบว่าผู้ค้าส่วนใหญ่มีมุมมองต่อราคาทองคำในช่วงเดือนมีนาคม 2558 ในเชิงลบ โดยมีผู้ค้า 2 รายมองทองคำเฉลี่ยจะปรับตัวเพิ่มขึ้น 3 รายมองราคาทองเฉลี่ยจะใกล้เคียงกับเดือนกุมภาพันธ์ ขณะที่อีก 4 รายเชื่อว่าราคาทองคำเฉลี่ยจะปรับตัวลดลงระหว่างเดือน
โดยผู้ค้ามองว่าราคาทองคำในตลาดโลกน่าจะมีกรอบราคาสูงสุดอยู่ระหว่าง 1,240-1,260 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ ส่วนกรอบการเคลื่อนไหวของราคาต่ำสุดอยู่ที่ 1,140-1,160 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ สำหรับราคาทองคำแท่งในประเทศ (ความบริสุทธิ์ 95.5%) กลุ่มตัวอย่างให้น้ำหนักราคาสูงสุดที่ 19,000-19,500 บาทต่อหนึ่งบาททองคำ และกรอบการเคลื่อนไหวต่ำสุดอยู่ที่ 17,500-18,000 บาทต่อหนึ่งบาททองคำ
“เชื่อว่าค่าเงินบาทมีโอกาสอ่อนค่าหลังจากแข็งค่าเกินพื้นฐานในช่วงต้นปี ปัจจัยหลักมาจากความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะปรับขึ้นดอกเบี้ยซึ่งจะส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์ปรับตัวแข็งค่าขึ้น การอ่อนค่าของเงินบาทจะช่วยทำให้ราคาทองคำในประเทศปรับตัวลดลงไม่สูงเท่าทองคำในตลาดโลกเมื่อเปรียบเทียบเป็นเปอร์เซ็น โดยผู้ค้ากังวลราคาทองคำโลกจะปรับตัวลดลงใกล้จุดต่ำสุดเดิม 1,130 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์”ดร.ทรรศนะ กล่าว
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit