“พระสุพรรณกัลยาถ้าจะพูดถึงท่าน ท่านเป็นแค่ผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่ทำอะไรให้กับประเทศไทยมากมาย เพราะว่าท่านเสียสละชีวิตของท่าน ท่านเคยพูดว่าชีวิตข้าและลูกข้าถ้าแลกได้ด้วยชีวิตพระนเรศข้าก็ยินดี คือท่านไม่ได้ถือตัวท่านแค่องค์เดียว ท่านยอมเสียสละเพื่อให้น้องชายกลับมากู้อิสรภาพ และท่านก็มีความหวังอยู่ตลอดเวลา ท่านจะเห็นอโยธยาอีกครั้ง ท่านจะได้กลับอโยธยาอีกครั้ง ซึ่งเป็นเรื่องที่เศร้ามาก เราเป็นคนรุ่นหลังเราก็ทราบดีว่าเกิดอะไรขึ้น ท่านก็ไม่เคยกลับมา ท่านก็ไม่เคยได้เห็น ตัวท่านเองตอนที่ต้องจากอโยธยาไปก็ได้โกยดินแล้วนำไปที่หงสาวดี ท่านไม่เคยลืมว่าท่านมาจากไหน ท่านไม่เคยเปลี่ยนการแต่งกาย วิถีชีวิต ท่านยังใช้ชีวิตเหมือนเดิมทุกอย่างในการเป็นองค์ประกันอยู่ที่หงสาวดี ตอนแรกดูเหมือนพระนเรศจะไม่เข้าใจพระสุพรรณกัลยา วันที่พระนเรศวรชวนพระองค์หนีกลับอโยธยาศรีรามเทพนคร ถ้าไปกันทั้งคู่ก็จะถูกโดนปลงพระชนม์ทั้งคู่ ก็จะทำให้ไม่มีพระนเรศในวันนี้ แต่พระสุพรรณทรงเป็นผู้หญิงตัวน้อยๆ แต่ทราบดี ท่านเหมือนเป็นวีรสตรีที่กล้าหาญนะคะ เอาองค์เข้าแลกกับบุเรงนองบอกว่าท่านจะอยู่เป็นองค์ประกันให้ แต่ให้ปล่อยน้องชายก็เลยมีพระนเรศวรขึ้นมาจนถึงทุกวันนี้ พอครั้งที่สองก็มาชวนอีก ก็ไม่กลับอีก อันนั้นก็มีเคือง ก็บอกว่าพี่สาวเห็นสามีดีกว่าอยุธยาละ ตอนนั้นไม่เข้าใจว่าทำไมพี่สาวไม่กลับ แต่จริงๆพอเรื่องราวดำเนินเรื่องไปเรื่อยๆ พระนเรศจะเข้าใจว่าจริงๆ ทำไมจะไม่อยากกลับ อยากจะกลับเหมือนคนทุกคน อยากจะกลับบ้านเมืองเรา อยากจะกลับไปอยู่สุขสบายแต่ที่ต้องมาทนทรมานและอยู่เป็นองค์ประกันอยู่คนเดียวก็เพราะความเสียสละและวีรกรรมความกล้าของพระองค์เอง ตอนแรกคนอาจเข้าใจว่าคำว่าองค์ประกันหงสาคงหมายถึงพระนเรศ ซึ่งเป็นองค์ประกันแต่จริงๆ แล้วพอมาตอนอวสานหงสาจะทราบว่าองค์ประกันหงสาจริงๆ ก็คือพระสุพรรณกัลยา เพราะคนที่ติดอยู่ในหงสาวดีจนจบก็คือพระสุพรรณกัลยา”
9 เม.ย.นี้มาร่วมปิด “ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อวสานหงสา” ภาพยนตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาลของเมืองไทยพร้อมกันทุกโรงภาพยนตร์
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit