เคยสงสัยไหม? ว่าเราข้อความที่เราโพสบนโซเชียลมีเดียนั้น เผยแพร่ไปถึงใคร หรือมี ใครเห็นบ้าง.. อาจจะเป็นเพื่อน เป็นคนรู้จัก เป็นโจร เป็นแฮคเกอร์ หรืออาจจะเป็นใครก็ไม่รู้ที่ไม่เคยมีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับชีวิตเราเลย ซึ่งทั้งหมดนั้นมันจะขึ้นอยู่กับประเด็นสำคัญสองประเด็น คือการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวและเนื้อหาในการโพสข้อมูลนั่นเอง..
บนโซเชียลมีเดีย ทุกเวปไซค์จะมีให้เราเลือกได้ ในส่วนการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวว่าจะให้ timeline ของเราเป็น Private หรือ Public ถ้าตั้งค่าความเป็นส่วนตัวเป็น Private ก็คือ เราอนุญาตแค่คนที่เป็น friend หรือ follower เท่านั้นที่จะสามารถเห็นโพสของเรา แต่ถ้าเป็น Public ก็เหมือนเราอยู่ในบ้านที่ไม่มีรั้วทำให้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาเดินเข้ามาในบริเวณบ้านเราได้ง่ายๆ โดยที่เราไม่รู้ด้วยซ้ำ ว่าเค้าเข้ามาและออกไปเมื่อไหร่หรือเอาอะไรออกไปบ้าง เพราะว่าเราได้ให้สิทธิ์ทุกคนบนโลกโซเชียลฯ.. ทุกคนที่ไม่ว่าเราจะรู้จักหรือไม่ก็ตามเข้ามาดูหน้า timeline และข้อมูลทุกอย่างในนั้นได้ ซึ่งปัญหามันอยู่ตรงนี้ล่ะ เพราะเราไม่รู้ว่าข้อมูลของเราจะเผยแพร่ไปไกลแค่ไหน ไปถึงใครบ้าง หากไปถึงคนไม่ดีเค้าก็อาจเอาข้อมูลของเราไปแอบอ้างใช้ต่อในทางเสียหายก็ได้ อย่างเช่น ก็อปรูปเราไปสร้าง account ใหม่หลอกลวงขายของให้คนอื่น เอาภาพไปตัดต่อทำให้เราเสื่อมเสีย ซึ่งจะว่าไปก็เพราะเราเป็นคนเปิดโอกาสให้เค้าเองนี่ครับ เราปล่อยให้คนแปลกหน้าเดินเข้ามาได้อย่างสบายๆแล้วเขาก็อาจหยิบข้าวของในบ้านติดไม้ติดมือออกไปด้วย เราเปิดช่องโหว่ในการเล่นโซเชียลฯเพราะตั้งค่าความเป็นส่วนตัวเป็น Public
เหมือนกับข้อมูลจากรายงานผลการสำรวจพฤติกรรมผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศไทยปี 2557 ของสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) (สพธอ.) ที่พบว่า พฤติกรรมการใช้อินเทอร์เน็ต 3 อันดับแรกที่มีความสุ่มเสี่ยงมากที่สุดของคนไทยในปัจจุบัน คือ Check-in ผ่านเฟซบุ๊ก ร้อยละ 71.5 แชร์ภาพส่วนตัวในที่สาธารณะ ร้อยละ 70.7 และตั้งสเตตัสแบบสาธารณในโซเชียลฯ ร้อยละ 62.3 ซึ่งข้อมูลจากผลสำรวจนี้สามารถชี้ให้เราเห็นได้ว่า พวกเรายังไม่ได้ตระหนักถึงเรื่องความเป็นส่วนตัวในการเล่นโซเชียลฯกันเท่าที่ควร เพราะจากตัวเลขของผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ ยังไม่มีการค่าความเป็นส่วนตัว ยังแชร์ภาพ ยังตั้งสเตตัสแบบสาธารณะและยังต้องเสี่ยงกับภัยคุกคามซึ่งเป็นผลมาจากการใช้งานที่ประมาทของเราเองต่อไป
บ้านยังต้องมีรั้วเพื่อกันคนภายนอกเข้ามาในพื้นที่ที่เราคิดว่าเป็นพื้นที่ส่วนตัว โซเชียลมีเดียก็เป็นพื้นที่ของเราแม้ไม่อาจเรียกได้ว่า “เป็นส่วนตัว” แต่มันก็มีข้อมูล มีเรื่องราวเกี่ยวกับตัวเราอยู่มากมาย แล้วเราจะปล่อยให้คนนอกเข้ามาในพื้นที่และหยิบของๆเราออกไปได้ง่ายๆอย่างนั้นเลยเหรอ?โซเชียลมีเดียกับความเป็นส่วนตัวhttps://www.mindterra.com/infosec-blog/security-awareness/privacy-and-social-media/ข้อมูลเพิ่มเติม By มายด์เทอร่าสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.mindterra.comโทร. 0-2530-2062-4
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit