“ในเรื่องก็จะมีแมวเด่นๆ อยู่โดยที่มีตัวเอกก็คือจอนนี่ ที่มีคาแรคเตอร์เป็นแมวคุณหนูที่ไม่เคยได้ออกไปไหน แต่แล้ววันหนึ่งเขาได้หลุดออกไปโลกภายนอก พร้อมกับแมวตัวเมียที่เขาชอบ เกิดการผจญภัย ส่วนแมวตัวที่สองก็คือ ชาลี คือในเรื่องจะมีแมวอยู่ตัวหนึ่งที่ต้องเล่นโฆษณา กับจอนนี่โดยต้องเล่นเป็นเกอิชาอยู่ในบ้านญี่ปุ่น ซึ่งชาลีเป็นแมวขาวที่มีบุคลิกเหมือนเกอิชา ขาวสะอาด น่ารัก ตาใสปิ๊ง แล้วก็นิ่งเวลาแต่งชุดเกอิชา แต่งแล้วเหมาะกับเขามากเลย จริงๆ แล้วคือแมวตัวผู้นะ ดูยังไงก็เป็นเกอิชา (หัวเราะ) อีกตัวหนึ่งคือ ทาโร่ คือซามูไรญี่ปุ่นตัวร้าย หน้าตาจะหลุกหลิกเจ้าเล่ห์ อย่างเช่นในบทมันคือถ้าสู้ไม่ได้มันจะกัดนะครับ เป็นคู่ต่อสู้ของจอนนี่ แล้วก็ ส้มจี๊ด ซึ่งเป็นแมวตัวเมียที่เจ้าของเลี้ยงแบบปล่อย มันก็มาอ่อยจอนนี่ให้มันเสียงาน อย่างจอนนี่เวลาทำงานก็มองแต่ส้มจี๊ด ตัวมันอยู่ในกรงก็มองส้มจี๊ดที่มันอยู่นอกกรง วันหนึ่งเขาเผลอมันก็หลุดไปกับส้มจี๊ด ก็คือแมวแฟนจอนนี่ที่มันจะต้องออกไปผจญภัยด้วยกัน เราก็เลือกมาจากแฟนจอนนี่จริงๆ เพราะว่าเขาถูกจริตกัน
“กำกับส้มจี๊ดยากสุด เพราะส้มจี๊ดเป็นแมวที่มีความเป็นธรรมชาติสูง คือบังคับอะไรไม่ได้เลย อย่างจอนนี่ยังมีความนิ่ง ชาลียังมีความนิ่ง เรายังพอแคนดิดหรือแอบถ่ายอะไรบางอย่างได้ แต่ส้มจี๊ดวางก็วิ่ง เป็นแมวว่องไว มีธรรมชาติของตัวเองสูง ตัวเล็กปราดปรียว เขาไม่อยู่กับที่ บางทีถ่ายไม่ทันด้วยซ้ำ”
แน่นนอนว่าแค่กำกับแมวตัวเดียวก็เป็นเรื่องที่ยากแล้วแต่งานนี้ต้องมีแมวถึง 3-4 ตัว นึกภาพในตอนถ่ายทำคงจะวุ่นเป็นพิเศษ แต่ถึงอย่างนั้นก็ตาม ผกก.เป้ นฤบดี เวชกรรม และ เท่ง เถิดเทิง รวมถึงทีมงาน นักแสดงที่ต้องทำงาน และเข้าฉากรวมกับแมว ก็บรรลุเป้าหมายเป็นผลสำเร็จ ต้องมีการวางแผน เพื่อรับมือกับการกำกับแมวโดยเฉพาะ ทั้งตารางการถ่ายทำ ให้สอดคล้องกับอารมณ์ของแมว พึ่งพาสารพัดอุปกรณ์ในการกำกับแมวเป็นต้น ทีมงานและนักแสดงต้องยอมเป็นทาสแมวโดยเฉพาะ เพื่อให้หนังสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit