Movie Guide: เพลิงพิโรธแห่งพระเจ้านันทบุเรงสั่งประหารทหารนับหมื่นชีวิต สังเวยศึกยุทธหัตถีอลังการงานสร้างฉากเปิด ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อวสานหงสา

23 Mar 2015
ตัวอย่างภ. “ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อวสานหงสา”http://youtu.be/XsqabGmSDVgสกู๊ปวีดีโอ : นันทบุเรง กษัตริย์องค์สุดท้ายบนบัลลังก์แห่งหงสาhttps://youtu.be/-q2wwleOVH0

สิ้นสุดยุทธหัตถี หาใช่สิ้นสุดวีรกรรมในความเป็นกษัตริย์ชาตินักรบ เพื่อปกป้องผืนแผ่นดินอโยธยา ให้อยู่เย็นเป็นสุขของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชไม่ แต่พระองค์ยังคงต้องทรงกรำศึก และกอบกู้บ้านเมืองให้ลูกหลานสืบต่อไปจนถึงวาระสุดท้ายของพระองค์ “ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อวสานหงสา” คือเรื่องราวที่ดำเนินต่อหลังมหาศึกคชยุทธ์ระหว่างสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และพระมหาอุปราชา ที่ ท่านมุ้ย หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล ตั้งใจถ่ายทอดให้ได้เห็นกัน ผู้ชมจะได้พบกับฉากใหญ่สำคัญเปิดเรื่องนั่นคือ “การสั่งเผาทหารนับหมื่นชีวิตของพระเจ้านันนทบุเรงให้โดนไฟคลอกตายเพื่อเป็นการสำเร็จโทษหลังจากสูญเสียพระมหาอุปราชาซึ่งเป็นพระราชโอรสที่พระองค์ทรงรักที่สุดไปในการแพ้ศึกยุทธหัตถี”

โดยงานนี้ระดมทีมงาน นักแสดงหลัก และนักแสดงสมทบนับพันชีวิต เฉพาะนักแสดงสมทบ ที่ต้องสำเร็จโทษอยู่ประจำตะแลงแกงเผาไฟก็มีไม่ต่ำกว่า500คนแล้ว ทีมงานฝ่ายฉากฝ่ายศิลป์ที่ต้องเตรียมจุดไฟประจำจุด ฝ่ายเมคอัพหน้าผมตลอดจนเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายต่างๆที่นักแสดงทุกคนต้องแต่งตัวย้อนยุคกลับไป 400 กว่าปี เหล่าบรรดาผู้ช่วยผู้กำกับที่ต้องตรวจเช็คการวางตัวตำแหน่งนักแสดงประจำจุด ยังไม่รวมกับทิศทางของการเคลื่อนกล้อง และตำแหน่งจุดต่างๆที่จะต้องถูกนำไปแมทซ์ภาพกับคอมพิวเตอร์กราฟฟิกเพื่อสร้างความสมบูรณ์ ให้อลังการด้านภาพของฉากเพลิงพิโรธของพระเจ้านันทบุเรงเผาไหม้ชีวิตไปทั่วทั้งหงสาคุกรุ่นไปด้วยความสูญเสียอันน่ารันทดออกมาอย่างสมจริง

“ สำหรับฉากเปิดตัวภาคนี้นะครับ คือพอหลังจากชนช้างเสร็จใช่ว่าฝั่งไทยชนะศึกครั้งนี้แล้ว พระนเรศวรจะดีใจนะ จริงๆมันตามมาด้วยความโกรธที่มโหฬารพอสมควร ต้องไปดูกันว่าพระองค์จะทำอย่างไรกับทหารที่ตามศึกกันไม่ทันปล่อยให้พระองค์ และน้องไปอยู่ในวงล้อมของหงสาวดี ซึ่งอาจจะสูญสิ้นทั้งพระนเรศวรและพระเอกาทศรถเลยนะครับ แล้วอยุธยาจะเป็นอย่างไรต่อไป ซึ่งเด็ดมาก แต่ไอ้การลุกเป็นไฟมันไม่ใช่ทางฝั่งอยุธยาอย่างเดียวนะ ฝั่งหงสาวดีเองแผ่นดินก็เช่นกัน เป็นเพราะพระเจ้านันทบุเรงสั่งเผาบรรดาทหาร ที่ตามศึกลูกชายตัวเองไปเผาทั้งเป็นครับ เป็นหมื่นคนครับ จับขึ้นตะแลงแกงแล้วเผา ซึ่งฉากนี้มันต้องใช้เทคนิคในการถ่ายทำพอสมควรเลยครับ คือมันยากตรงที่ว่าไฟนี่จุดจริง แล้วคนก็ร้อนจริง เพียงแต่ว่าการเตรียมการตะแลงแกงจำนวนเยอะขนาดนั้น มันค่อนข้างจะวุ่นวาย แล้วก็บรรยากาศของความชุลมุนวุ่นวายมันจะต้องเกิดขึ้นบนจอภาพยนตร์อย่างสมจริงด้วย รวมถึงความวุ่นวายที่เกิดขึ้นจริง ในการถ่ายทำในวันนั้นด้วย อันนี้ที่เราจะได้เห็นในภาค6ที่ว่าหงสาลุกเป็นไฟเป็นอย่างไร”

ซึ่งเบื้องหลังการถ่ายทำฉากนี้ถึงแม้ว่า ผู้พันเบิร์ด พันโทวันชนะ สวัสดี จะไม่ได้เข้าฉากเพื่อการถ่ายทำในภาพยนตร์ แต่ก็อยู่ร่วมในเหตุการณ์ระหว่างการถ่ายทำเองก็ยังอดรู้สึกตื่นเต้นไม่ได้ เฉพาะฉากนี้ฉากเดียว ท่านมุ้ย บรรจงถ่ายทำอยู่เป็นสัปดาห์ เพื่อถ่ายทอดให้เห็นว่าอาณาจักรหงสาวดีที่เคยรุ่งเรืองแห่งพุกามประเทศ นับจากนี้กำลังจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อได้สัมผัสถึงความยากลำบากกว่าจะเกิดเป็นภาพความอลังการออกมาเสร็จสมบูรณ์ที่จะปรากฏอยู่ในภาพยนตร์ภาคอวสานหงสานี้

“ สำหรับในการถ่ายทำฉากนี้ เรามีการถ่ายทำอยู่หลายวัน เพราะบางครั้งเวลาที่เราถ่ายทำไปแล้วมันไม่ได้ครับ คือไฟจุดแล้วมันไม่ลุกมาก หรือบางทีจุดแล้วมันลุกมากเกินมัน ทำให้ตัวแสดงที่ถูกมัดอยู่ร้อนจริง แล้วก็ใช้คนประมาณ500คน คือนอกเหนือจากคนที่ถูกเผาแล้ว มันต้องมีทหารพม่าที่ทำหน้าที่เผา คือมันจะมีความวุ่นวายเกิดขึ้นในท้องพระโรง การขอชีวิตอะไรอย่างนี้ แล้วก็ความวุ่นวายของคน500คนในการมาถ่ายทำ บางทีเล่นแล้วก็มีการเหลือบมองคนเหลือบมองดูกล้อง ไม่เข้ามาร์ก ไปบังตัวเมน คือชุลมุนวุ่นวายไปหมดครับ แล้วพอบางครั้งเวลาจุดไฟ ตอนซ้อมมันยังไม่มีไฟ พอเอาจริงพอไฟมันขึ้นมาปั๊บ คนที่ต้องไปจุดอีกทีเข้าไปก็ไม่กล้าเข้า พอไม่กล้าเข้า ทางด้านภาพก็ไม่ได้ อย่างนี้นะครับ จริงๆมันมีความยากอีกอย่างหนึ่งคือเราต้องมีคอมพิวเตอร์กราฟฟิกเข้ามาช่วย เพราะฉะนั้นท่านมุ้ยจะมองไปเลยว่าฉากตรงนี้รูตรงนี้ จะต้องเอากรีนสกรีนมาขึง เพราะว่าภายหลังจากตรงนี้ไปจะเห็นเป็นกำแพงนะ จะเห็นยอดเจดีย์ตรงนี้นะครับ ภาพทั้งหมดมันเป็นภาพที่เขียนมาแล้วครับว่าจะมีเจดีย์ขึ้นตรงไหน ทหารจะคุมจากตรงไหนบ้าง เวลาถ่ายลมแรง ก็จะพัดผ้ากรีนเกิดเป็นเงา ต้องไปขึงผ้ากรีนขึ้นใหม่ บางทีพอถ่ายเสร็จปั๊บเงาก็ไปติดที่อยู่ตามผ้ากรีนอีก ก็ต้องจัดแสงใหม่ คือถึงแม้ว่าเราจะมีเทคโนโลยีมาแล้ว มันก็มาพร้อมกับความยากลำบากพอสมควร การถ่ายทำสำหรับฉากนี้ฉากเดียวก็ถ่ายทำเป็นอาทิตย์ละครับ”

เตรียมพบกับอีกนหนึ่งฉากอลังการงานสร้างเมื่อเพลิงพิโรธของพระเจ้านันทบุเรงส่งผลต่อการนำไปสู่การอวสานหงสาในการปิดตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราชอย่างสมบูรณ์ 9เม.ย.นี้ทุกโรงภาพยนตร์