ปอร์เช่ 911 จีที3 อาร์เอส (Porsche 911 GT3 RS): รถแข่งสำหรับสนามแข่งและการใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน

23 Mar 2015
ปอร์เช่ผสมผสานระหว่างรถสปอร์ตกับรถแข่งอีกครั้งด้วย 911 จีที3 อาร์เอส (Porsche 911GT3 RS) ใหม่ล่าสุด โดยรถคันนี้ได้ติดตั้งเทคโนโลยีชั้นนำจากโลกของมอเตอร์สปอร์ตที่สามารถนำมาใช้บนท้องถนน และเหมาะสมกับการใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยการปรับเปลี่ยนระบบขับเคลื่อน , ระบบอากาศพลศาสตร์ และการออกแบบโดยใช้วัสดุน้ำหนักเบา ที่ช่วยให้ 911 จีที3 อาร์เอส (Porsche 911GT3 RS) มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น 911 จีที3 อาร์เอส (Porsche 911GT3 RS) ใหม่ล่าสุดคันนี้ ทำเวลารอบสนามแข่ง North Loop Nürburgring ได้ในเวลาเพียงแค่ 7 นาที 20 วินาที ซึ่งน้อยกว่ารถซูเปอร์สปอร์ตอย่าง รุ่นคาร์เรร่า จีที (Carrera GT) ที่เคยทำได้ที่ 7 นาที 29 วินาที เป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่านี่คือรถสปอร์ตที่เปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพซึ่งจะสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการรถสปอร์ตได้อย่างแน่นอน และได้มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วที่งานมหกรรมยานยนต์ Geneva International Motor Show 2015

การใช้ความพิเศษจากมอเตอร์สปอร์ตคือเหตุผลที่ทำให้รถมีประสิทธิภาพเหนือกว่าใคร 911 จีที3 อาร์เอส (Porsche 911GT3 RS) ใหม่ล่าสุดคันนี้มาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 4 ลิตร 6 สูบ พละกำลังเครื่องยนต์สูงสุดที่ 500 แรงม้า (368 กิโลวัตต์) แรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 460 นิวตันเมตร ซึ่งถือได้ว่าเป็นพละกำลังแรงบิดที่มหาศาลและยังทำงานร่วมกับระบบส่งกำลัง PDK ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาเป็นพิเศษอีกด้วย เครื่องยนต์มีความจุขนาดใหญ่และทรงพละกำลังเครื่องยนต์มากที่สุด มาพร้อมกับระบบฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงโดยตรงหรือ direct fuel injection ที่ใช้อยู่ในตระกูล 911 อีกด้วย อัตราเร่งของรถสปอร์ตประสิทธิภาพสูงคันนี้เหนือชั้น ด้วยอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง อยู่ที่ 3.3 วินาที และถึง 200 กิโลเมตร/ชั่วโมง ทำได้ในระยะเวลาเพียงแค่ 10.9 วินาทีเท่านั้น อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงแบบเฉลี่ย NEDC อยู่ที่ 12.7 ลิตร/100 กิโลเมตร (7.90 กิโลเมตร/ลิตร) เท่านั้น เสริมทัพด้วยฟังก์ชั่นการทำงานใหม่ อาทิเช่น "paddle neutral" ซึ่งสามารถเปรียบเทียบได้กับการกดคลัชต์ที่ใช้สำหรับเกียร์ธรรมดาได้เลยทีเดียว พร้อมฟังก์ชั่น Speed Limit โดยใช้ปุ่ม Pit Speed ที่ได้รับการปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมตามการใช้งานของมอเตอร์สปอร์ต สิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่มอบความอิสระให้กับผู้ขับขี่อย่างเต็มพิกัดในเรื่องของความคล่องตัวและช่วยเรื่องประสิทธิภาพมากขึ้นเมื่อขับขี่บนสนามแข่ง

911 จีที3 อาร์เอส (Porsche 911GT3 RS) คือผลงานชิ้นยอดเยี่ยมของการออกแบบโดยเน้นน้ำหนักเบาหรือ intelligent lightweight design โดยถือว่าเป็นครั้งแรกที่หลังคาทำจากแมกนีเซียม ด้านฝากระโปรงเครื่องยนต์และช่องเก็บสัมภาระทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ รวมถึงการผสมผสานกับวัสดุอื่นๆ ส่งผลให้ RS รุ่นนี้มีน้ำหนักที่เบากว่า 911 จีที3 (911 GT3) ถึง 10 กิโลกรัม ไม่เพียงเท่านี้หลังคาน้ำหนักเบาอยู่ในตำแหน่งที่ต่ำลงส่งผลให้การพัฒนาเรื่องของจุดศูนย์ถ่วงและความคล่องตัวของรถได้ดียิ่งขึ้น ตัวรถได้มาจากรุ่น 911 เทอร์โบ (911 Turbo) ซึ่งเป็นการย้ำให้เห็นว่านี่คือรถแข่งที่มาพร้อมกับชิ้นส่วนต่างๆ ของความเป็น RS และให้ความสมดุลตามหลักอากาศพลศาสตร์ที่มากขึ้น ลิ้นสปอยเลอร์ด้านหน้าขยายเข้าสู่ท้องถนนมากขึ้น และปีกด้านหลังมีขนาดใหญ่สร้างความดุดันมากกว่าเดิม

ด้วยการขยายฝากระโปรงแบบ CRFP ให้กว้างขึ้น 30 เซนติเมตร และการใช้หลังคาแบบแมกนีเซียม ส่งผลให้รูปลักษณ์ของรถมีความโดดเด่นขึ้น ฝากระโปรงที่เก็บของเน้นการออกแบบตามความคลาสสิคของ 911 ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ที่ระบายความร้อนด้วยอากาศ และชิ้นส่วนน้ำหนักเบาขนาดใหญ่ 2ชิ้นได้กลายมาเป็นจุดเด่นของ 911 จีที3 อาร์เอส (Porsche 911GT3 RS) อย่างสมบูรณ์แบบ อีกหนึ่งความพิเศษคือช่องดักอากาศที่อยู่บนฐานล้อหน้าซึ่งเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร และได้รับการขยายใหญ่เข้าสู่ส่วนบนของปีกรถ ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจมาจากรถมอเตอร์สปอร์ต ส่งผลให้รถมีแรงกดทางด้านเพลาหน้าเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย

ตัวถังของ 911 จีที3 อาร์เอส (Porsche 911GT3 RS) ได้รับการปรับเปลี่ยนเพื่อประสิทธิภาพการขับขี่ที่คล่องตัว รวมถึงความแม่นยำสูงสุด ระบบ Rear-axle steering และระบบกระจายแรงบิดที่ล้อ Porsche Torque Vectoring Plus ที่มาพร้อมกับ fully variable rear axle differential lock จะช่วยให้รถเกาะถนนได้ดี คล่องตัวมากขึ้น ด้านหน้าและด้านหลังที่ขยายกว้างขึ้นจะช่วยให้รถสามารถรักษาเสถียรภาพได้ดียิ่งกว่า 911 จีที3 (Porsche 911GT3) อีกด้วย ไม่เพียงเท่านี้ 911 จีที3 อาร์เอส (Porsche 911GT3 RS) ยังมาพร้อมกับยางขนาดใหญ่และกว้างที่สุดสำหรับ 911 โดยได้รับการติดตั้งมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐานให้กับรถ ผลลัพธ์ที่ได้คือ การทรงตัวที่ดีเยี่ยมและการใช้ความเร็วในการเข้าโค้งที่เพิ่มมากขึ้น

การออกแบบภายในห้องโดยสารของ 911 จีที3 อาร์เอส (Porsche 911GT3 RS) จะมาพร้อมกับชิ้นส่วนของหนัง Alcantara เป็นหลักเหมือนที่ใช้ในรุ่น 911 จีที3 (911 GT3) อีกหนึ่งความโดดเด่นหลักคือเบาะนั่งแบบ full bucket seats โดยใช้พื้นฐานเดียวกันกับเบาะ Bucket Seats ในรุ่น 918 สไปเดอร์ (918 Spyder) นั่นเอง อีกหนึ่งอุปกรณ์ที่โดดเด่นคือ แพ็คเกจ Club Sport Package มาพร้อมกับโครง Roll Cage ติดตั้งอยู่หลังเบาะหน้า รวมถึงการติดตั้งสายไฟต่างๆ เพื่อการใช้งาน battery master switch อีกทั้งยังมีเข็มขัดนิรภัยแบบ 6 จุดติดตั้งให้กับผู้ขับขี่ และถังน้ำมันดับเพลิงที่ติดตั้งเข้ากับเบาะนั่งอีกด้วย แพ็คเกจ Sport Chrono สามารถเลือกติดตั้งเป็นอุปกรณ์เสริมได้ และคุณสมบัติที่โดดเด่นนั่นคือฟังก์ชั่นจับเวลา และใช้งานผ่าน Porsche Track Precision app ในโทรศัพท์มือถือได้ โดยแอพพลิเคชั่นนี้จะถูกใช้ในการวัดเวลาแบบอัตโนมัติผ่าน GPS และข้อมูล Log Data บนโทรศัพท์มือถือเพื่อการได้ค่าของการขับขี่ในรูปแบบต่างๆ เช่น ความเร็วของรถ , อัตราเร่ง และการลดอัตราเร่งในสถานการณ์การขับขี่ที่แตกต่าง โดยระบบจะทำการจัดการกับข้อมูล และส่งให้ผู้ขับขี่สามารถเปรียบเทียบกับผู้ขับขี่ท่านอื่นได้911 จีที3 อาร์เอส (Porsche 911GT3 RS) จะเปิดตัวที่ประเทศเยอรมนีประมาณเดือนพฤษภาคม 2015

911 จีที3 อาร์เอส (Porsche 911GT3 RS): อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงในเมืองอยู่ที่ 19.2 ลิตร/100 กิโลเมตร; (5.20 กิโลเมตร/ลิตร) นอกเมืองอยู่ที่ 8.9 ลิตร/100 กิโลเมตร; (11.23 กิโลเมตร/ลิตร) แบบเฉลี่ยอยู่ที่ 12.7 ลิตร/100 กิโลเมตร; (8.06 กิโลเมตร/ลิตร) อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2 ) อยู่ที่ 296 กรัม/กิโลเมตร;

911 จีที3 (911 GT3): อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงในเมืองอยู่ที่ 18.9 ลิตร/100 กิโลเมตร; (5.30 กิโลเมตร/ลิตร) นอกเมืองอยู่ที่ 8.9 ลิตร/100 กิโลเมตร; (11.23 กิโลเมตร/ลิตร) แบบเฉลี่ยอยู่ที่ 12.4 ลิตร/100 กิโลเมตร; (8.06 กิโลเมตร/ลิตร) อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2 ) อยู่ที่ 289 กรัม/กิโลเมตร;

ปอร์เช่ ประเทศไทย โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ ปอร์เช่อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทยเท่านั้น ที่มีศูนย์บริการมาตรฐานและทีมวิศวกรที่มากประสบการณ์ ซึ่งได้รับการฝึกอบรมจากทางโรงงานปอร์เช่ประเทศเยอรมนีโดยตรง พร้อมการันตีด้วยรางวัล Porsche Service Excellence Award และ The Highest Score of Porsche Service Support Mission 2014 จากการตรวจสอบคุณภาพประจำปี รวมถึงทีมวิศวกรที่ได้รับการรับรองและผ่านการทดสอบจากโรงงานในระดับเหรียญทอง(Zertifizierter Porsche Techniker – Gold Expert) ซึ่งเป็นมาตรฐานสูงสุดของปอร์เช่คอยให้บริการรถปอร์เช่ของท่านตามนโยบายหลักของบริษัทที่ว่า “เอเอเอส ดูแลทั้งรถและคุณ” หรือ “AAS Looking after YOU and your CAR” สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถยนต์ปอร์เช่ได้ที่แผนกขาย โทร. 02-522-6655 ต่อ 101-103 หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่ www.porsche.co.th

หมายเหตุ: ผู้สื่อข่าวสามารถดาวน์โหลดรูปภาพได้ที่ Porsche Press Database athttp://presse.porsche.de.

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมสามารถเยี่ยมชมได้ที่ Porsche News room : newsroom.porsche.com.