บริษัท มหาจักรอุตสาหกรรม จำกัด บริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ชั้นนำของประเทศไทย ประสบความสำเร็จในการบูรณาการเอพิคอร์ ERP 10 เข้ากับเวิร์คโฟลว์ของบริษัท คุณอัศวิน กาญจนชัยภูมิ กรรมการบริหาร บริษัท มหาจักรอุตสาหกรรม กล่าวว่า หลังจากบูรณาการระบบเอพิคอร์ ERP 10 แล้ว บริษัทสามารถจัดการกับงานด้านการผลิต การเงิน สินค้าคงคลัง และซัพพลายเชน ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าที่เคย และในขั้นตอนต่อไปบริษัทตั้งใจที่จะใช้โซลูชั่นนี้จัดการงานด้านภาษีด้วย
“เพื่อก้าวให้ทันการเติบโตของบริษัท พร้อมๆ กับการปฏิบัติตามกฎหมาย บริษัท มหาจักรอุตสาหกรรม ได้วางแผนจะใช้ฟีเจอร์การจัดการภาษีในอนาคตอันใกล้นี้” คุณอัศวิน กล่าว
ฟีเจอร์การจัดการภาษีได้กลายมาเป็นหนึ่งในฟีเจอร์ที่ขาดไม่ได้ของระบบ ERP เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัท มีโก้ ชิพบอร์ด หรือ มีโก้ ได้เลือกใช้เอพิคอร์ ERP 10 เพื่อรองรับระเบียบและข้อกำหนดของภาษีสินค้าและบริการใหม่ หรือ GST (Goods and Services Tax) ในประเทศมาเลเซีย ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 เมษายน 2558 มีโก้ เป็นบริษัทโฮลดิ้งที่ทำการผลิต การตลาด และขายแผ่นไม้ชิพบอร์ดที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในการผลิตเฟอร์นิเจอร์สำนักงานและที่พักอาศัย รวมไปถึงไม้ฝา งานพื้นผิวส่วนบนของเฟอร์นิเจอร์ งานตกแต่งภายใน และอื่นๆ อีกมาก
ประเทศมาเลเซียกำลังจะมีการบังคับใช้ภาษีสินค้าและบริการใหม่ในอีกไม่ถึงหนึ่งเดือนข้างหน้า ซึ่งทำให้ธุรกิจที่ต้องเสียภาษีในมาเลเซียนับถอยหลังสู่ระบบคำนวณภาษีแบบใหม่ การเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับระบบภาษีใหม่จึงกลายเป็นประเด็นหลักที่ทุกบริษัทที่มีผลประกอบการต่อปีมากกว่า 500,000 ริงกิตมาเลเซีย ให้ความสนใจอย่างมากในช่วงปลายปีที่ผ่านมา
อีริค หว่อง ผู้อำนวยการฝ่ายบัญชีและการเงิน ของบริษัท มีโก้ ชิพบอร์ด ย้ำว่า บริษัท มีโก้ เลือกใช้โซลูชั่นเอพิคอร์ ERP 10 เพราะช่วยให้บริษัทสามารถจัดการงานด้านภาษีให้เป็นไปตามระเบียบข้อบังคับภาษีสินค้าและบริการใหม่ ได้อย่างสมบูรณ์ นอกจากนี้ เอพิคอร์ ERP 10 ยังช่วยให้บริษัทบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจอื่นๆ อย่างมีประสิทธิภาพ “ก่อนที่จะเลือกใช้โซลูชั่นของเอพิคอร์ เราได้ใช้ทรัพยากรของเราเพื่อศึกษาผลกระทบหลักๆ ที่มีต่อระบบภาษีสินค้าและบริการใหม่ ซึ่งช่วยให้เราตัดสินใจได้ว่าสิ่งใดบ้างที่จำเป็นในการปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง”
“นอกเหนือจากฟีเจอร์หลักๆ เรายังมองหาระบบ ERP ที่ใช้งานง่าย มีโครงสร้างชัดเจนแต่คงไว้ซึ่งสถาปัตยกรรมระบบแบบเปิดซึ่งมีความยึดหยุ่น และสามารถส่งมอบข้อมูลเชิงลึกแบบเรียลไทม์ให้แก่หัวหน้าแผนกได้ หลังจากพิจารณาอย่างรอบคอบ เราตัดสินใจเลือกเอพิคอร์ ERP 10 เพราะเป็นระบบที่ดีที่สุดสำหรับบริษัทในการตอบสนองความต้องการที่จะปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านภาษี พร้อมๆ กับช่วยให้บริษัทบรรลุเป้าหมายธุรกิจด้านอื่นๆ ด้วยงบประมาณที่คุ้มค่าที่สุด”
เอพิคอร์ ERP ออกแบบด้วยสถาปัตยกรรมเชิงบริการบนเทคโนโลยีไมโครซอฟท์ร้อยเปอร์เซ็นต์ เอพิคอร์ ERP คือซอฟต์แวร์สำหรับองค์กรธุรกิจแบบครบวงจรซึ่งออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับแต่ละอุตสาหกรรม นำเสนอการใช้งานที่สามารถเลือกได้อย่างอิสระ ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานบนเครื่องคอมพิวเตอร์ของบริษัท การใช้งานผ่านโฮสต์ หรือบนระบบคลาวด์ผ่านอินเทอร์เน็ต หรือ SaaS (software as a service) ในบรรดาฟีเจอร์หลักๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจัดการด้านภาษที่บังคับใช้ในประเทศมาเลเซีย เอพิคอร์ ERP มีฟีเจอร์การบันทึกและรายงานภาษีซื้อและภาษีขาย การเรียกคืนภาษีสินค้าและบริการบนใบแจ้งหนี้ การยื่นขอภาษีสินค้าและบริการคืนจากรัฐบาลแบบอัตโนมัติ การสร้างไฟล์ออดิทภาษีสินค้าและบริการ และอื่นๆ ระบบ ERP ของเอพิคอร์มีการใช้งานในกว่า 100 ประเทศ และช่วยให้บริษัทต่างๆ ในประเทศมาเลเซีย ไทย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และสิงคโปร์ สามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านภาษีได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เอพิคอร์เล็งเห็นว่าหลายบริษัทในประเทศมาเลเซียจะประสบปัญหาในการปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านภาษีสินค้าและบริการใหม่ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในเดือนเมษายนที่จะถึงนี้ บริษัทเหล่านี้มีเวลาอีกไม่นานในการทดสอบระบบ ฝึกอบรม และแก้ไขจุดบกพร่องที่พบบนระบบและซอฟต์แวร์ด้านบัญชี
เคร็ก ชาร์ลตัน รองประธานอาวุโสและผู้จัดการทั่วไป เอพิคอร์ เอเชียแปซิฟิก โอเปอร์เรชั่น ย้ำว่า เอพิคอร์ได้ช่วยให้หลายบริษัทในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกก้าวผ่านการเปลี่ยนแปลงได้อย่างราบรื่น และยังมั่นใจในซอฟต์แวร์ ERP ที่ได้รับรางวัลรับรอง “ในขณะที่หลายบริษัทในประเทศมาเลเซียกำลังกังวลเกี่ยวกับความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในเเดือนเมษายนที่จะถึงนี้” มร. ชาร์ลตัน กล่าว “เอพิคอร์ได้ปรับตั้งค่าโซลูชั่นให้เข้ากับข้อกำหนดด้านภาษีสินค้าและบริการของมาเลเซีย โซลูชั่นของเราใช้งานได้อย่างง่ายดายจนลูกค้าส่วนใหญ่จัดการกับระบบด้วยตัวเองโดยอาศัยแค่การฝึกอบรมและคำแนะนำเล็กน้อยจากเอพิคอร์เท่านั้น”
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit