ถึงจะไม่ได้มีประสบการณ์ยาว
นานถึง13ปีเหมือนเหล่าทีม
นักแสดงตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช รุ่น 1 อย่าง
ผู้พันเบิร์ด พันโทวันชนะ
สวัสดี,
ปีเตอร์ นพชัย ชัยนาม, แอฟ ทักษอร
ภักดีสุขเจริญ (เตชะณรงค์) ฯลฯ แต่ตลอดระยะเวลา 10 ปี ในการถ่ายทอด
ตัวละคร นัดจินหน่อง ราชบุตรของ เมงเยสีหตู และ เมงเกงสอ แห่งอาณาจักรเกตุมวดีตองอู ที่ปรากฎตัวครั้งแรกในตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราชภาค2ประกาศอิสรภาพ ในฐานะ 1 ใน 3 มหาอุปราชจาก3เมือง ซึ่งรวมถึงพระนเรศวร, พระมหาอุปราชามังสามเกียด ตามพระราชโองการของพระจ้านันทบุเรง ให้ยกทัพไปทำการศึกที่เมืองคัง ก็ไม่ได้ทำให้ความรู้สึกภูมิใจที่ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในอภิมหาโปรเจกต์ภาพยนตร์เรื่องยิ่งใหญ่แห่งแผ่นดินลดน้อยแต่อย่างใด ทั้งหนุ่มโน้ต
นาวาอากาศโทจงเจตน์ วัชรานนท์ ได้พบรักกับคู่ชีวิตอย่าง คุณเกรซ มหาดำรงค์กุล ซึ่งรับบทเป็นพระสุพรรณกัลยา และยังเป็นโอกาสอันดีที่จะได้รับองค์ความรู้ และประสบการณ์ใหม่ๆ ที่เต็มไปด้วยความท้าทายซึ่งยากจะประเมินค่าได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการได้ร่วมงานกับผู้กำกับภาพยนตร์อันดับ 1 ของเมืองไทยอย่าง
ท่านมุ้ย หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล“ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ให้อะไรหลายๆ อย่างซึ่งไม่ใช่กับผมอย่างเดียว คือมันเป็นภาพยนตร์ของประเทศนะครับ ทำให้ชีวิตผมเปลี่ยนแปลง เพราะแบล็คกราวน์ของผมเป็นทหารอากาศ งานแสดงก็มีบ้างไม่ได้เข้าไปเต็มตัว มีโฆษณา มีละครนิดหน่อย ด้วยระยะเวลาที่ถ่ายทำที่ค่อนข้างยาวนานมากๆ จริงๆ ผมเองไม่ถึง13ปีนะครับ ต้องรุ่นแรกมี แอฟ, ทราย, พี่ปีเตอร์, เบิร์ด, พี่ต๊อด แล้วก็เอฟโฟร์นะครับมีพี่ต้นคมกริช ที่ได้จากพวกเราไปแล้ว แต่ผมมาทีหลังก็ประมาณ 10 ปี ตอนนั้นยังยศเรืออากาศเอกอยู่ นอกจากจะได้พี่ได้เพื่อนได้น้องแล้ว ยังมีโอกาสได้ทำงานกับท่านมุ้ย ผมเองค่อนข้างผ่านการแสดงมาน้อย แล้วก็เป็นทหารด้วย การเข้าฉากที่เต็มไปด้วยอารมณ์ ในขณะเดียวกันมันก็มีความตื่นเต้น คือต้องบอกว่าเริ่มตั้งแต่วันแรกที่แคสติ้งมาแล้ว มาฟิตติ้ง ท่านบอกว่าเราเหมือนกับเรฟเฟอร์เลนซ์นัดจินหน่องที่ท่านมี ท่านก็ให้ถ่ายหนังเลยวันนั้น คือผมตื่นเต้นมากวันที่ถ่ายฉากแรก เจอแต่ผู้ใหญ่ทั้งนั้นเลย เจอท่านมุ้ย เจอ อ. เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ศิลปินแห่งชาติมาแต่งกลอนให้ เจอเอ็กซ์ตร้า เจอช้าง เจอม้า เจอน้องๆ ทหารมาเข้าฉาก มันที่สุดแล้ว ได้บทวันนั้นเลยครับไดอาล็อคค่อนข้างเยอะพอสมควร แต่ว่าท่านไม่ทำให้เรากลัวเลย ปกติแล้วผมได้ยินมาใครๆ ก็พูดว่าโอ้โหถ่ายหนังกับท่านมุ้ยเลยเหรอ แต่ว่าท่านมากำกับใกล้ๆ และเป็นกันเองมาก แล้วในวันนั้นก็ถ่ายได้สำเร็จคือเทคน้อยมากครับ นี่คือความประทับใจแรกที่ผมมี คือท่านอาจจะรู้ว่าเราใหม่นะครับ แต่ท่านก็เหมือนมีจิตวิทยา ถ้าเกิดวันนั้นท่านดุ ผมก็คงไปเหมือนกันคงเล่นไม่ได้เหมือนกัน ทำให้ผมมีความกล้า กล้าที่จะแสดงออกมา จำบทไม่ได้ไม่เป็นไร แต่ท่านมีวิธีทำให้พูดได้ คือท่านมีจิตวิทยาสูงเคยได้ยินคำว่า ฉันกำกับลิงฉันยังกำกับได้เลย ทำไมกับคนฉันจะกำกับไม่ได้ ซึ่งก็จริงครับ ก่อนจะถ่ายท่านจะบอกอารมณ์เรา ให้เราคิด แต่จะไม่บอกทำหน้าอย่างนี้นะทำโกรธ ทำเกลียด ทำยิ้ม ให้ทำเอง เราคิดๆ แล้วเราก็ทำไปตามที่ท่านบอกสตอรี่ แล้วมันก็ออกมาอย่างนั้น แต่ถ้าท่านไม่ชอบท่านก็จะบอกว่าอย่างนี้เยอะไปนะอย่างนี้น้อยไปนะ ท่านเป็นเหมือนครูนะครับ ท่านสอนให้เรามีอารมณ์ของตัวเอง”