“เริ่มต้นมาจากวันที่ 3 กันยายน พี่ก็นอนหลับอยู่ประมาณ 8-9 โมงเช้า แล้วอยู่ดีๆ พี่เสกเขาก็เดินขึ้นมาตบตีทำลายข้าวของพี่ โพสต์ไปแล้ว แจ้งไปแล้ว เสร็จแล้วเขาก็เดินลงไปพี่ก็นอนต่อซักพัก แล้วแม่บ้านก็ขึ้นมาบอกว่า ให้คุณกานต์ออกไปก่อนเพราะว่าเสกเขาคุ้มคลั่ง พี่เลยออกมาตั้งแต่วันนั้น แล้วไม่ได้เข้าไปอีก ก่อนหน้านั้นเกิดอะไร ? “พี่ไม่ได้คุยกับเขาตั้งแต่ 18 สค. เนื่องจากเขาพูดจาไม่ดีกับพี่ พี่ไม่คุย ไลน์ไม่ตอบ ไม่รับสาย แล้วเขาก็เป็นอย่างนั้น” พาคุณหมอ ? “ใช่ค่ะ เพราะพฤติกรรมเขาเปลี่ยนไปตั้งแต่ต้นปี บ้าค่ะ คุ้มคลั่ง ก้าวร้าว บอกว่าตัวเองเป็นเจ้า พี่เลยไม่อยากคุยกับเขา ตอนพาคุณหมอเข้าไปเป็นวันที่ 18-19 ก.ย. พี่ได้คุยปรีกษาคุณหมอสองคนมาสักระยะ ก็พาคุณหมอเข้าไป ปรากฎว่าพอเขาเห็นคุณหมอ เขาก็เก็บตัวเอวไว้ในห้องกระจก ก็อาการสังเกต แต่ไม่ให้เข้า เขาด่าคุณหมอไอ้สัตว์ ก็รอสักพักแล้วก็กลับกัน” พี่เสกกลับไปใช้ยา ? “พี่เสกมีพฤติกรรมเปลี่ยนไป ก้าวร้าวแล้วคิดว่าตัวเองเป็นเจ้านานมากแล้ว เขาบ้าอำนาจตลอดเวลา มันก็มีสองอย่างอาจเป็นโรคจิตหนึ่ง ใช้ยา คนในวงรู้ดี คอยเตือนพี่มาตลอด พี่ก็สงสัยว่าใช่ไม่ใช่ จากพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป ก้าวร้าวมาก คืออยู่ดีๆ ก็เดินมาตบพี่โดยไม่มีสาเหตุ บางครั้งเอางานมาให้ดู ก็ลุกขึ้นมาตบ มันไม่ใช่แล้ว เพราะปกติพี่เสกไม่ใช่ขนาดนั้น” ถึงขั้นทนไม่ไหว ? “ก็ที่เขาบ้าอำนาจ มันสะสมค่ะ แล้วเขาเอาแก้วของพี่ทิ้งพันสองพันใบ พี่ไม่รู้ว่าเขาฟ้องหย่าหรือฟ้องอะไร แต่หมายศาลยังไม่เห็น” อดทน ? “ไม่ทนแล้วค่ะ มันหนักเกินไป มีแต่เขาส่งไลน์มาด่า แล้วมันมีเยอะกว่านั้น พี่เอาออกมาแค่บางส่วน มันอยู่กันไม่ได้ ขนาดนี้ ตัวเขาต้องการหย่า พี่ก็อยากหย่าเหมือนกัน ก็ให้นัดมาก็โพสต์ไปแล้ว ก็ไม่เห็นมีติดต่อพี่กลับมาเลย” คนมองว่าเป็นการประจาน ? “ไม่ได้ประจานนะ ไม่รู้จะคุยกันทางไหนมากกว่า พี่เสกก็มีคนครอบงำเขาหลายคน มันคุยกันไม่ได้ต้องให้ทุกคนเห็นด้วยว่าเขาปกติหรือเปล่า ที่เขาจ้างมาอยู่รอบตัวเขา เป็นสิ่งที่พี่ก็ค่อนข้างเป็นห่วงเพราะเขาเป็นคนเชื่อคนง่าย ก็จัดการเห็นบอกว่ามีใบมอบอำนาจทุกอย่างเกี่ยวกับทุกเรื่องรวมถึงการเงินด้วย ตอนพี่ออกมาได้เกือบเดือนก็ไม่แน่ใจนะแต่ก็ได้ยินว่ามีการใช้เงินไปสิบกว่าล้าน มันคืออะไร” คนในครอบครัวพี่เสกหรือคนนอก ที่ดูแล ? “คนนอกค่ะ ครอบครัวเขาไม่เกี่ยว กานต์รู้จักบางคน กานไม่ได้คุยกับครอบครัวเขาเลย ไม่มีใครมายุ่งอะไร” ทนไม่ไหวเลยขอหย่า ? “คือจุดประสงค์หลักๆ คือต้องการให้เขาเข้าบำบัดหรือรักษาโรคที่เขาเป็นก่อน แต่ถ้าเขาจะหย่าเลยก็หย่าได้ แต่อยากให้ทางผู้ใหญ่ใครก็ได้ช่วย หรือมีกฎ พรบ พาเขาไปรักษาตัว พี่ขอความช่วยเหลือไปหลายหน่วยงานแล้วแต่ไม่มีใครกล้า แต่เรื่องนี้มันเซ็นซิทีป เราอาจคิดไปเองหรือเปล่า ถ้าไม่ได้อยู่ในนั้นจริงๆ ไม่รู้หรอก เพราะเขาคล้ายๆ สองบุคลิก คือทำงานได้ บางทีสัมภาษณ์รายการวู้ดดี้ก็ดูปกติ แต่อีกบุคลิกคือหลอนๆ ตอนดึกๆ” ซ้ำรอย ? “เหมือนเดิม ไม่รักแล้วค่ะ เขาทำเกินไป” ยังคงห่วง ? “เป็นห่วง เพราะพี่ยังอยู่ในสินสมรส นั่นมันคือปากท้องลูกพี่ไง” พี่เสกบอกทำร้ายเรื่องปกติ ? “เขาทำร้ายมาเรื่อย ๆตั้งแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว” มีบอกลูกว่าจะหย่า ? “ไม่ต้องบอกลูกก็รู้อยู่แล้วว่าไม่สามารถกลับไปอยู่ด้วยกันได้อีกแล้ว น้องๆ อยู่กับพี่อยู่แล้วก็บอกว่ายังไงไม่มีทางกลับไปคืนดีกันได้ ล่าสุดเมื่อวานน้องๆ เขาก็เข้าไปจะเอาชุดนักเรียนอุปกรณ์ คือมันเหมือนกับ 3 ปีที่แล้วเด๊ะ แต่พี่ไม่ได้ไป พี่ให้น้องเขาพาไป เขาไม่ให้น้องเข้าบ้าน เขาดูแลเรื่องการเงินเพราะเขาเป็นคนหาเงินเป็นหลักของครอบครัว แต่ความรู้สึกการเอาใจใส่ลูกไม่เคยสนใจ พี่ไปเช็กตอนเขาออกมา เขายังไม่เห็นหน้าพ่อเลยขนาดอยู่บ้านเดียวกัน” เรื่องจะจบไง ? “ก็อยากให้เขาบำบัดหรือไม่ก็รักษาโรคจิต ให้คุณหมอวินิจฉัยว่าเขาปกติหรือเปล่า เพราะก่อนหน้านั้นเขารักษาตัวที่ธัญรักษ์ ก็ใช้ยาหมอจิตแพทย์มาตลอด แต่พอเขาเลิกใช้ก็เป็นแบบนี้ เลิกมาปีกว่า พอเลิกใช้ยาพวกนั้น สงสัยปรับอารมณ์มั้งคะ เขาก็ไม่ไปหาหมอ ไม่ไปหาจิตแพทย์”
ติดตามบทสัมภาษณ์แบบเต็มๆ ได้ในรายการ “คนดังนั่งเคลียร์” ได้ทาง “ช่อง 2” บันเทิง..ถึงรส ถึงคุณ ทุกวันจันทร์-อาทิตย์ เวลา 11.00/ 15.00/ 20.00/ น. และติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่ www.facebook.com/thaich2 หรือ twitter @thaich2tv
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit