นายเกรียงไกร กาญจนะโภคิน ผู้ก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) ผู้นำในตลาดอาเซียน และบริษัทคนไทย บริษัทเดียวที่ติดอันดับ 7 ของโลก 3 ปีซ้อน (จากนิตยสารสเปเชี่ยน อีเว้นท์ แมกกาซีน สหรัฐอเมริกา) กล่าวว่า “จากการที่ อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ เข้าไปเปิดตลาดเมียนมาร์ และสร้างสรรค์ความเป็นผู้นำด้วย 5 ยุทธศาสตร์ 5 เครื่องมือหลัก เพื่อรองรับการเติบโตของประเทศเมียนมาร์อย่างต่อเนื่อง ด้วยอัตราการเจริญเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) โตขึ้นถึง 7.8% การเข้าไปยึดตลาดก่อน ถือว่าเป็นการสร้างความได้เปรียบ ทั้งในแง่ของการสร้างการยอมรับในฐานะที่เป็นผู้บุกเบิกตลาด ที่วางรากฐานอย่างมั่นคงกับ 5 เกมส์รุก นั่นคือ 1. งานด้านอีเว้นท์มาร์เก็ตติ้ง (Event Marketing) ด้วยประสบการณ์ความเป็นมืออาชีพเฉพาะด้าน ที่ไม่ได้เป็นเพียงแค่การรับจัดงานให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ของลูกค้าเท่านั้น ยังต่อยอดด้วยการวางกลยุทธ์ทางการตลาด 2. งานด้านการจัดเฟสทีฟ อีเว้นท์ (Festive Event) คือ การสร้างสรรค์ การจัดงานในเทศกาลต่างๆ ของเมียนมาร์ 3. งานด้านการศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคผ่านงานวิจัย (Consumer insight: Research) โดยบริษัทในเครือ คือ เอ็นไวโรเซล (ไทยแลนด์) สำรวจพฤติกรรมการบริโภค เป็นประโยชน์ต่อนักลงทุน 4. การสร้างช่องทางในการสื่อสารแบบผสมผสาน (Integrated media platform) การสร้างแพลตฟอร์มการสื่อสาร เพื่อเข้าถึงชาวเมียนมาร์ ในรูปแบบต่างๆ และ 5. การจัดงานแฟร์ และเอ็กซิบิชั่นทุกรูปแบบ (Professional Exhibition Organizer) เครื่องมือสำคัญในการต่อยอด และเชื่อมโยงกับยุทธศาสตร์ด้านอื่นๆ มืออาชีพ ด้านการจัดงานแฟร์ และเอ็กซิบิชั่น เพื่อรองรับตลาดภาคธุรกิจสู่ธุรกิจ หรือ B to B และ ภาคธุรกิจสู่กลุ่มผู้บริโภค หรือ B to C ด้วย 2 งานใหญ่ที่ผ่านมาเมียนมาร์ อินเตอร์เนชั่นแนล ฟู้ด แอนด์ เบฟเวอเรจ และโฮเรก้า นำนักลงทุนแบรนด์ชั้นนำ กว่า 100 ราย จาก 5 ประเทศทั่วโลก บุกตลาดอุตสาหกรรมอาหารเมียนม่าร์ และล่าสุดกับงานมหกรรมที่อยู่อาศัย และของแต่งบ้าน Myanmar Build & Decor 2014 เมื่อปลายเดือนกันยายน รองรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่กำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดดในเมียนมาร์ขณะนี้ รวมตัวผู้ประกอบการชั้นนำ กว่า 150 ราย นับเป็นงานที่สร้างมาตราฐานใหม่ให้กับงานแฟร์ในตลาดพม่า และประสบความสำเร็จอย่างสูง”
“ทั้งนี้อินเด็กซ์ฯ ยังเล็งเห็นโอกาสการเติบโตทางธุรกิจอื่นๆ ด้วยอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวพม่าที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งผลจากเออีซี รวมถึงนโยบายกระตุ้นการท่องเที่ยวจากรัฐบาลพม่า โดยในปี 2013 เมียนมาร์มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึง 93% หรือเกือบ 2 ล้านคน โดยรัฐบาลพม่าตั้งเป้าว่า ในปีนี้ 2014 จำนวนนักท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้นถึงสูงถึง 3.1 ล้านคน โดยนักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังพม่าไม่เพียงเฉพาะชาวเอเชียเท่านั้น แต่ยังมีนักท่องเที่ยวจากทางทวีปยุโรปหลากหลายชาติ อาทิ ฝรั่งเศส เยอรมัน รวมทั้งสหรัฐอเมริกา และอังกฤษ เป็นต้น อีกทั้งยังมีการเพิ่มสายการบิน บินตรงสู่ย่างกุ้ง เมืองยุทธศาสตร์ทางค้า เป็นจำนวนมาก ทั้งจากสิงคโปร์ ญี่ปุ่น จีน อินโดนีเซีย และเกาหลี”
นายเกรียงไกร กาญจนะโภคิน ผู้ก่อตั้ง บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) ผู้นำในตลาดอาเซียน เปิดเผยว่า “จากสถิติพบว่า นอกจากเที่ยวชมย่างกุ้ง เมืองหลักของพม่าแล้ว ยังเดินทางไปเมืองท่องเที่ยวอื่นๆ อีก อาทิ การเที่ยวชมเมืองมัณฑะเลย์ สักการะพระธาตุอินทร์แขวน หาดฮาปาลี เป็นชายหาดที่มีชื่อเสียงที่สุดของพม่า และที่ขาดไม่ได้เมืองที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจ จนติดอันดับ 1 ใน 3 สุดยอดเมืองท่องเที่ยวรองจาก ย่างกุ้ง และมัณฑะเลย์ คิดเป็น 35% ของนักท่องเที่ยวทั้งหมด นั่นคือ “บากัน” หรือที่คนไทยเรียกติดปากว่า “พุกาม” เมืองแห่งประวัติศาสตร์ จนได้รับการเสนอชื่อเป็นมรดกโลก ในประเภทโบราณสถาน (Archaeological Site) นอกจาก “บากัน” จะเป็นแหล่งกำเนิดวัฒนธรรมที่มีความเจริญรุ่งเรืองสูงสุดแล้ว บากันยังคงเป็นแหล่งกำเนิดศาสนา ภาษา และศิลปะ รวมถึง ‘ทะเลเจดีย์’ สถาปัตยกรรมโบราณสำคัญ ที่อันทรงคุณค่า กว่า 4,000 องค์ และยังคงอยู่ถึง กว่า 2 พันองค์ ในปัจจุบัน แต่เนื่องจากพุกามเป็นเมืองที่มีกิจกรรมสำหรับนักท่องเที่ยวน้อย ทั้งในเวลากลางวัน และกลางคืน อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จึงได้จับมือร่วมกับ บริษัท บากัน เมียนมาร์ ผู้นำธุรกิจด้านการท่องเที่ยวในเมืองพุกาม นำเสนอการแสดงวัฒนธรรมเมียนมาร์แบบร่วมสมัย ผสานเทคนิคแสงสีเสียง ภายใต้ชื่อ “ดันดารี” (ในภาษาพม่า หมายถึง เรื่องราวหรือตำนานที่มีมาช้านาน) เป็นการแสดงที่นำเอาความสวยงามทางด้านศิลปะ วัฒนธรรม การแสดงพื้นบ้าน กีฬา และประวัติศาสตร์ความเจริญรุ่งเรืองของพม่า มาร้อยเรียงบอกเล่าเรื่องราวอย่างน่าตื่นตาตื่นใจ ผ่านนักแสดงกว่า 100 ชีวิต ณ พระราชวังบากันโกลเด้นพาเลซ (Bagan Golden Palace) พระราชวังประจำเมืองพุกาม ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมือง ที่มีความสวยงามตามเอกลักษณ์สถาปัตยกรรมแบบพม่า จนติดอันดับ 1 ใน 3 พระราชวัง ที่นักท่องเที่ยวต่างชาติต้องเดินทางมาเยี่ยมชมให้ได้”
“โดยการแสดง “ดันดารี” จะเปิดแสดงในช่วงฤดูท่องเที่ยวสูงสุด หรือไฮ-ซีซั่น ของเมืองพุกาม นั่นคือช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนมีนาคม ของทุกปี เริ่มเปิดทำการแสดงทุกวัน ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน ถึง มีนาคม 2558 ด้วยจำนวน 464 ที่นั่งต่อรอบ ราคาบัตรเริ่มต้นที่ 50 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือ ประมาณ 1,600 บาท โดยเริ่มมีการเปิดสำรองที่นั่งตั้งแต่เดือนกันยายนที่ผ่านมา รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถเข้าชมได้ที่ www.dandaree.com ซึ่งเชื่อว่าจะเป็น 1 ในกิจกรรมที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวในโซนยุโรป ที่มีความสนใจในเรื่องประวัติศาสตร์ ความสวยงามของศิลปวัฒนธรรม ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง รวมทั้งช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวเมืองพุกาม รวมถึงตอกย้ำความเป็นผู้นำการตลาดผสานความคิดสร้างสรรค์แบบครบวงจร (Creative Marketing Solutions) ของอินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ ในประเทศเมียนมาร์” นายเกรียงไกร กาญจนะโภคิน กล่าวทิ้งท้าย
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit