ดร.สุทิน เวียนวิวัฒน์ หัวหน้าโครงการอีสานโพล เปิดเผยว่า การสำรวจนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจความคิดเห็นของคนอีสานต่อภาวะเศรษฐกิจระดับครัวเรือนและระดับจังหวัดในอีกประมาณ 3 เดือนข้างหน้า เพื่อประเมินสภาวะเศรษฐกิจและคำนวณดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคต่อภาวะเศรษฐกิจอีสานในไตรมาสที่ 4/2557 ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 3-5 ตุลาคม 2557 จากกลุ่มตัวอย่าง 1,076 ราย ในเขตพื้นที่ภาคอีสาน 20 จังหวัด
เมื่อสอบถามความเห็นของชาวอีสานในอีกประมาณ 3 เดือนข้างหน้า ต่อภาวะเศรษฐกิจและการค้าของจังหวัดจะเป็นอย่างไร กลุ่มตัวอย่างกว่าร้อยละ 61.6 เห็นว่าเศรษฐกิจและการค้าของจังหวัดจะยังคงทรงตัว รองลงมาร้อยละ 28.8 เห็นว่าเศรษฐกิจและการค้าจะดีขึ้น มีเพียงร้อยละ 9.6 ที่เห็นว่าจะแย่ลง
เมื่อสอบถามกลุ่มตัวอย่างว่า ในอีกประมาณ 3 เดือนข้างหน้า รายได้ต่อเดือนจากแหล่งต่าง ๆ ของครอบครัวท่านจะเป็นอย่างไรเมื่อเทียบกับปัจจุบัน กลุ่มตัวอย่างกว่าร้อยละ 72.6 เห็นว่ารายได้ของครอบครัวจะยังเท่า ๆ เดิม รองลงมาร้อยละ 23.8 เห็นว่าจะเพิ่มขึ้น มีเพียงร้อยละ 3.6 ที่เห็นว่ารายได้ต่อเดือนจากแหล่งต่าง ๆ ของครอบครัวจะลดลง
ในส่วนประเด็นของการหมุนเงิน/สภาพคล่องการเงินของครอบครัวในอีกประมาณ 3 เดือนข้างหน้าเมื่อเทียบกับปัจจุบันจะเป็นอย่างไร กลุ่มตัวอย่างกว่าร้อยละ 67.7 เห็นว่าการหมุนเงิน/สภาพคล่องการเงินของครอบครัวจะยังเท่า ๆ เดิม รองลงมาร้อยละ 27.1 เห็นว่าจะดีขึ้น มีเพียงร้อยละ 5.2 เห็นว่า จะแย่ลง
เมื่อนำข้อมูลมาคำนวณดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคต่อภาวะเศรษฐกิจอีสานในไตรมาสที่ 4/2557 พบว่าอยู่ที่ระดับ 120.4 ซึ่งแผ่วลงจาก 122.6 เมื่อเทียบกับผลสำรวจในไตรมาสที่ 3/2557 เล็กน้อย ทั้งนี้เมื่อจำแนกตามเขตที่อยู่อาศัยระหว่างเขตเมือง และเขตชนบท พบว่าในเขตเมืองมีดัชนีความเชื่อมั่นฯ อยู่ที่ระดับ 117.4 ซึ่งลดลงจาก 124.5 ในการสำรวจครั้งที่แล้วพอสมควร เนื่องจากคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจและการค้าขายในจังหวัดยังฟื้นตัวได้ไม่เร็ว ขณะที่ในเขตชนบทมีดัชนีความเชื่อมั่นฯ อยู่ที่ระดับ 123.5 ซึ่งเพิ่มจาก 118.9 ในการสำรวจครั้งที่แล้วพอสมควร เนื่องจากไตรมาส 4 จะเป็นช่วงเก็บเกี่ยวผลผลิตของเกษตรกรและข่าวมาตรการจ่ายเงินช่วยชาวนาไร่ละ 1,000 บาท
เมื่อจำแนกตามการบริหารงานแบบบูรณาการเชิงยุทธศาสตร์กลุ่มจังหวัด พบว่า กลุ่มจังหวัด อีสานตอนกลางเขต 12 ได้แก่ จังหวัดร้อยเอ็ด ขอนแก่น มหาสารคาม และกาฬสินธุ์ (หรือกลุ่มจังหวัดร้อยแก่นสารสินธุ์) มีดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคต่อภาวะเศรษฐกิจในอีก 3 เดือนข้างหน้าสูงสุด โดยอยู่ที่ระดับ 128.9 ซึ่งเพิ่มขึ้นค่อนข้างมากจาก 121.9 เมื่อเทียบกับผลสำรวจไตรมาสก่อน เนื่องจากเศรษฐกิจเขตชนบทจะกลับมาคึกคักในไตรมาส 4 และการกลับมาของนักศึกษาหลังจากปิดเทอมยาวกว่า 5 เดือน ซึ่งเป็นกลุ่มจังหวัดกลุ่มเดียวที่มีดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคต่อภาวะเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น รองลงมา คือ กลุ่มจังหวัดอีสานตอนล่างเขต 13 ได้แก่ จังหวัดอุบลราชธานี อำนาจเจริญ ศรีษะเกษ และยโสธร มีดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคต่อภาวะเศรษฐกิจอยู่ที่ระดับ 123.5 ซึ่งเท่ากับไตรมาสที่แล้ว ตามมาด้วย กลุ่มจังหวัดอีสานตอนบนเขต 11 ได้แก่จังหวัด สกลนคร นครพนม และมุกดาหาร (หรือกลุ่มจังหวัดสนุก) มีดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคต่อภาวะเศรษฐกิจอยู่ที่ระดับ 122.0 ซึ่งลดลงอย่างมากจาก 144.9 ในไตรมาสที่แล้ว เนื่องจากราคายางตกต่ำ กลุ่มจังหวัดอีสานตอนล่างเขต 14 ได้แก่ จังหวัดนครราชสีมา สุรินทร์ ชัยภูมิ และบุรีรัมย์ มีดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคต่อภาวะเศรษฐกิจอยู่ที่ระดับ 116.6 ลดลงเล็กน้อยจาก 118.3 เมื่อเทียบกับผลสำรวจไตรมาสก่อน ส่วนกลุ่มจังหวัดกลุ่มอีสานตอนบนเขต 10 ได้แก่ จังหวัดอุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู และเลย (หรือกลุ่มจังหวัดสบายดี) พบว่ามีดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคต่อภาวะเศรษฐกิจอยู่ในระดับต่ำที่สุดติดต่อกัน 2 ไตรมาส โดยอยู่ที่ระดับ 111.5 ลดลงค่อนข้างมากจาก 117.9 เมื่อเทียบกับผลสำรวจไตรมาสก่อน เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่ปลูกยางพารามากที่สุดในภาคอีสานซึ่งต้องเผชิญกับราคายางที่ตกต่ำ
ข้อมูลทั่วไปของกลุ่มตัวอย่าง มีความเชื่อมั่นในการพยากรณ์ 99% และคลาดเคลื่อนได้บวกลบ 4% ประกอบด้วย เพศหญิง ร้อยละ 50.8 เพศชาย ร้อยละ 49.2 ส่วนใหญ่อายุ 36-45 ปี ร้อยละ 32.6 รองลงมา อายุ 26-35 ปี ร้อยละ 27.2 อายุ 46-55 ปี ร้อยละ 26.1 อายุ 18-25 ปี ร้อยละ 6.6 อายุ 56-60 ปี ร้อยละ 4.0 และอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป ร้อยละ 3.4
ส่วนระดับการศึกษาส่วนใหญ่จบการศึกษาระดับประถมศึกษา/ต่ำกว่า ร้อยละ 35.3 รองลงมามัธยมศึกษาตอนต้น ร้อยละ 22.9 ปริญญาตรี ร้อยละ 20.0 มัธยมศึกษาตอนปลาย/ระดับปวช. ร้อยละ 14.3 อนุปริญญา/ปวส. ร้อยละ 4.7 ปริญญาโทหรือสูงกว่า ร้อยละ 2.7 ด้านอาชีพส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกร ร้อยละ 39.3 รองลงมารับจ้างทั่วไป/ใช้แรงงาน ร้อยละ 16.5 อาชีพค้าขาย/ธุรกิจส่วนตัว ร้อยละ 13.4 รับราชการ/รัฐวิสาหกิจ ร้อยละ 10.0 พนักงานบริษัทเอกชน ร้อยละ 9.5 พ่อบ้าน/แม่บ้าน ร้อยละ 5.3 นักเรียน/นักศึกษา ร้อยละ 3.6 อื่นๆ ร้อยละ 2.3
ด้านรายได้เฉลี่ยต่อเดือนส่วนใหญ่อยู่ที่ 5,001-10,000 บาท ร้อยละ 42.4 รองลงมามีรายได้อยู่ระหว่าง 10,001-15,000 บาท ร้อยละ 19.9 รายได้ไม่เกิน 5,000 บาท ร้อยละ 16.0 รายได้ 15,001-20,000 บาท ร้อยละ 13.2 รายได้ 20,001-40,000 ร้อยละ 7.7 และรายได้มากกว่า 40,001 บาทขึ้นไป ร้อยละ 0.8
หมายเหตุ: นอกเหนือจากผลสำรวจซึ่งนำเสนอข้อมูลตามวิธีทางสถิติแล้ว ความคิดเห็นอื่นๆ ในผลสำรวจนี้เป็นความเห็นของผู้รับผิดชอบโครงการ ซึ่งไม่จำเป็นต้องสอดคล้องกับความเห็นของศูนย์วิจัยธุรกิจและเศรษฐกิจอีสาน คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยขอนแก่นรายชื่อคณะผู้วิจัยรศ.ดร.กัลปพฤกษ์ ผิวทองงาม คณบดีคณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยขอนแก่นและ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยธุรกิจและเศรษฐกิจอีสานผศ.ดร.ศิริลักษณ์ ศุทธชัยรองผู้อำนวยการฝ่ายบริหารผศ.ประเสริฐ วิจิตรนพรัตน์รองผู้อำนวยการฝ่ายอุตสาหกรรมสัมพันธ์ ดร.สุทิน เวียนวิวัฒน์หัวหน้าโครงการสำรวจอีสานโพลเจ้าหน้าที่เก็บข้อมูลและประมวลผลนางสาวศิริพรรณ ยศปัญญานายศุภกร ศิริสุนทรนางสาวสงบ เสริมนา นางสาวกมลทิพย์ ศรีหลิ่งนางสาวกุสุมาวดี คำคอนสารนางสาวนันท์นภัส คำนำโชคนางสาวปุณิกา สิ่วศรีนางสาวพิชญาภา จันศรีนายพุฒิพงศ์ แสงหอยนางสาวศิรินันท์ บุตรพรมนางสาววิไลวรรณ แปนเมือง