นายจันทอน สิดทิไซ รองประธานกรรมการและผู้อำนวยการใหญ่ (CEO) บริษัท ปิโตรเลียมเทรดดิ้ง ลาว มหาชน หรือ "PetroTrade" " ผู้ดำเนินธุรกิจจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงผ่านสถานีบริการน้ำมันครบวงจร และจัดจำหน่ายให้แก่ลูกค้าโดยตรงไปยังลูกค้าโครงการก่อสร้าง และภาคส่วนอุตสาหกรรมต่างๆ ภายใต้เครื่องหมายการค้า "PLUS" เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม .2557 บริษัทฯ ได้ยื่นคำขอเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) ต่อสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองหลักทรัพย์ (สคคซ.) จำนวน 60 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 2,000 กีบ
ปัจจุบันบริษัทฯ มีทุนจดทะเบียนชำระแล้วจำนวน 350 ตื้อกีบ(1,400 ล้านบาท) มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 2,000 กีบและภายหลังเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ลาว (LSX) บริษัทฯ จะมีทุนจดทะเบียนชำระแล้วเป็น 470 ตื้อกีบ (1,880 ล้านบาท) มูลค่าที่ตราไว้(พาร์) หุ้นละ 2,000 กีบ ส่วนการกำหนดราคาเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้แก่ประชาชน( IPO) จะมีการกำหนดราคาเมื่อทางสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองหลักทรัพย์(สคคซ.) อนุมัติให้บริษัท ปิโตรเลียมเทรดดิ้ง ลาว มหาชน เสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนแล้วปัจจุบันบริษัทฯ มีสถานีบริการน้ำมันทั่วสปป.ลาว จำนวน 107 แห่ง โดยแบ่งเป็นรูปแบบที่บริษัทลงทุนเอง (Company Owned Company Operated หรือ COCO) จำนวน 8 แห่งและรูปแบบผู้ร่วมลงทุน(Company Owned Dealer Operated หรือ CODO ) จำนวน 99 แห่ง นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมีช่องทางการจำหน่ายน้ำมันไปยังลูกค้าที่เป็นโครงการก่อสร้าง โรงงานอุตสาหกรรมและบริษัทขนส่งที่สำคัญต่างๆ ทั่วสปป.ลาว อาทิ บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) บริษัท ชิโนไฮโดร จำกัด
ทั้งนี้บริษัท ฯ มีคลังน้ำมันที่สามารถจัดเก็บน้ำมันเชื้อเพลิงกว่า 3,610,000 ลิตร กระจายอยู่ทั่วสปป.ลาว ได้แก่ คลังน้ำมันเวียงจันทน์ 1,120,000 ลิตร คลังน้ำมันปากเซ 640,000 ลิตร คลังน้ำมันปากซัน 350,000 ลิตร คลังน้ำมันสะหวันเขต 800,000 ลิตรและคลังน้ำมันเมืองเงิน 700,000 ลิตร
“สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนบริษัทฯ จะนำไปขยายสถานีบริการน้ำมันที่ครบวงจร เพื่อรองรับการขยายตัวของชุมชนเมืองอีกทั้งเพื่อเป็นแหล่งศูนย์กลางในการใช้ชีวิตของสังคม นอกเหนือจากนี้ยังนำเงินระดมทุนดังกล่าว เพื่อพัฒนาปรับปรุงระบบขนส่งผลิตภัณฑ์และบริการ และอีกส่วนหนึ่งใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัทฯ เพื่อรองรับอัตราการเติบโตของธุรกิจ เนื่องจากสปป.ลาวเป็นประเทศที่อยู่ระหว่างการพัฒนา ทำให้ภาคอุตสาหกรรมมีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญและเพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปลายปี 2558”นายจันทอน กล่าว
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีรายได้จากการให้เช่าพื้นที่ สำหรับร้านค้าต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวก แก่ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ อาทิ ร้านสะดวกซี้อภายใต้ตราสินค้า “PLUS Mart” ธุรกิจคาร์แคร์ ภายใต้ตราสินค้า ” Moly Care” การให้บริการระบบบัตร Fleet Card เพื่อใช้ในการเติมน้ำมันแทนเงินจสด รวมไปถึงร้านกาแฟและตู้เอทีเอ็ม (ATM)
นายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ผู้อำนวยการ (CEO) บริษัท หลักทรัพย์เอพีเอ็มลาว จำกัด หรือ APMLAO ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของ บริษัท ปิโตรเลียมเทรดดิ้ง ลาว มหาชน กล่าวว่า ได้ยื่นไฟลิ่งต่อสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองหลักทรัพย์(สคคซ.) เป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2557 ที่ผ่านมา ทั้งนี้เพื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ลาว (LSX) ซึ่งจะมีส่วนสำคัญในการทำให้ธุรกิจมีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว รวมไปถึงเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันในธุรกิจ
โดยบริษัทฯ มีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 ปี ดังนี้ ปี 2554 มีรายได้รวม 905.08 ตื้อกีบ(3,620.32ล้านบาท) และมีกำไรสุทธิ 15.73 ตื้อกีบ( 62.92ล้านบาท) ปี 2555 มีรายได้รวม 1,019.01 ตื้อกีบ(4,076.04ล้านบาท) กำไรสุทธิ 20.21 ตื้อกีบ (80.84ล้านบาท) และปี 2556 มีรายได้รวม 1,075.04 ตื้อกีบ(4,300.16ล้านบาท) กำไรสุทธิ 16.16 ตื้อกีบ(64.64ล้านบาท)
“บริษัทฯ มีแผนงานที่ชัดเจน โดยบริษัทฯ วางแผนจะขึ้นเป็นผู้นำในธุรกิจการจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงในสปป.ลาว โดยตั้งเป้าหมายไว้ว่าตั้งแต่ปี 2557-2561 จะเพิ่มสถานีบริการอีกจำนวน 97 แห่ง และเมื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ลาว จะยิ่งทำให้บริษัทฯ มีฐานทุนที่แข็งแกร่งเพิ่มขึ้น รวมไปถึงความน่าเชื่อถือและภาพลักษณ์ที่ดี ซึ่งจากปัจจัยดังกล่าวเชื่อว่าจะทำให้บริษัทฯ เติบโตอย่างต่อเนื่อง ”นายสมภพ กล่าว
นายสุลิไซ ทิบวงไซ รองผู้อำนวยการ บริษัท หลักทรัพย์ ลานช้าง มหาชน เปิดเผยว่า บริษัทฯ เป็นผู้รับประกันการจัดหน่ายหุ้นจำนวน 60 ล้านหุ้น ที่อยู่ระหว่างการวางแผนการจัดจำหน่ายหุ้นทั้งในส่วนของผู้ร่วมรับประกันการจัดจำหน่าย(Co-Underwriter) รวมถึงตัวแทนการจัดจำหน่าย(Selling Agent) ที่จะมีการหาข้อสรุปผ่านผู้เกี่ยวข้องต่อไป
“เร็วๆ นี้จะมีการเดินทางทั่วสปป.ลาว เพื่อนำเสนอข้อมูล(Road Show) ให้กับนักลงทุนฟัง อย่างไรก็ตามมั่นใจว่าหุ้นของบริษัท ปิโตรเลียมเทรดดิ้ง ลาว มหาชน จะได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั้งในสปป.ลาว และต่างประเทศ เนื่องจากธุรกิจของบริษัทฯ มีการบริการที่ครอบคลุมทั้งผ่านสถานีบริการ และจำหน่ายให้ลูกค้าโดยตรงทั้งลูกค้าโครงการก่อสร้าง และอุตสาหกรรม รวมถึงชื่อเสียงของบริษัทก็เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย ทำให้มั่นใจว่าผลการดำเนินงานของบริษัทฯ จะเติบโตเพิ่มขึ้นทุกปี รวมถึงเมื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ลาว(LSX) จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนอย่างแน่นอน” นายสุลิไซ กล่าว
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit