นายแอนดรู แจคก้า ประธานการจัดงานโครงการเวิลด์สปา แอนด์ เวล-บีอิ้ง คอนเวนชั่น 2014กล่าวว่าสมาคมสปาไทยร่วมมือกับกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ จัดงาน “เวิลด์สปา แอนด์ เวล-บีอิ้ง คอนเวนชั่น 2014” (World Spa & Well-being Convention 2014) มหกรรมด้านสปาและสุขภาพที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ภายใต้คอนเซ็ปของงานในปีนี้คือ “by Hand, through Head, with Heart” เพื่อส่งเสริมสินค้าและบริการด้านสปาและสุขภาพ ยกระดับมาตรฐานธุรกิจสปาไทยและกระตุ้นให้เกิดนวัตกรรมใหม่ๆที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมนี้
งาน “เวิลด์สปา แอนด์ เวล-บีอิ้ง คอนเวนชั่น 2014” (World Spa & Well-being Convention 2014) จัดขึ้นภายใต้รูปแบบงานแสดงสินค้าและการประชุมสัมนาระดับนานาชาติ โดยรวบรวมบรรดาผู้ผลิตและผู้ประกอบการที่อยู่ในอุตสาหกรรมด้านสปาและสุขภาพกว่า 400 ราย ร่วมนำเสนอนวัตกรรมสินค้าและบริการ โดยคาดว่าจะมีผู้สนใจเข้าชมงานกว่า 15,000 คน มากกว่าปีที่ผ่านมา 50 % และผู้ร่วมสัมมนากว่า 400 คน โดยเฉพาะกลุ่มโรงแรม สปา รีสอร์ท ผู้พัฒนาธุรกิจโรงแรมและสปา ศูนย์ความสวยงามและสุขภาพ สถาบันดูแลรูปร่าง โรงเรียนเสริมสวย และฟิตเนส เป็นต้น
สำหรับภาพรวมอุตสาหกรรมตลาดสปาและสุขภาพทั่วโลกนับว่าแนวโน้มการเติบโตที่น่าสนใจ อีกทั้งยังมีช่องว่างในตลาดธุรกิจค่อนข้างสูง โดยประเทศที่น่าสนใจและน่าจับตามอง อาทิ ประเทศในแถบแอฟริกาซึ่งธุรกิจสปาเพิ่งเปิดตลาดอย่างเป็นทางการ ถือเป็นตลาดที่มีช่องว่างน่าสนใจมาก เช่นเดียวกับตลาดประเทศพม่าซึ่งเป็นเพื่อนบ้านของไทย ขณะที่ประเทศในตะวันออกกลางและยุโรปซึ่งประสบปัญหาการเมือง ทำให้กระแสการเดินทางท่องเที่ยวจากประเทศดังกล่าวชะลอตัว มีผลกระทบต่อธุรกิจสปาไปด้วย แต่คาดการณ์ว่าภายใน 12 เดือนหลังจากนี้ การท่องเที่ยวจะเริ่มฟื้นตัว และการเปิดตัวของแหล่งสปาและสุขภาพใหม่ๆ จะได้รับการตอบรับดีจากนักท่องเที่ยวดังกล่าวอีกครั้ง , หมู่เกาะในคาริบเบียนและแปซิฟิค กำลังให้ความสนใจกับธุรกิจสปา
โดยมีการขยายธุรกิจต่อเนื่อง และมีความพยายามในการสร้างจุดขายในการเป็น“เจ้าแห่งตลาดสปาที่ใหญ่ที่สุดในโลก” (Largest Spa in the World) อีกด้วย
ขณะที่ตลาดเอเชีย แปซิฟิค ,ลาว , กัมพูชา และเวียดนาม ยังเป็นตลาดเกิดใหม่ (Emerging Spa Market) โดยกลุ่ม รีสอร์ทและสปาในประเทศเวียดนาม จะกลายเป็นคู่แข่งเชิงธุรกิจที่น่าสนใจ กับอินโดนีเซีย มาเลเซีย และไทย ภายใน 2-3 ปี นับจากนี้ อย่างไรก็ตามการเปิดเขตการค้าเสรีอาเซียน หรือ AEC จะเป็นปัจจัยที่ช่วยส่งเสริมให้ธุรกิจสปาเติบโตได้อย่างน่าสนใจ แต่ทั้งนี้ผู้ประกอบการสปาจะต้องปรับตัวเพื่อรับมือกับการแข่งขัน เพื่อสร้างความแข็งแกร่งทางธุรกิจและเติบโตอย่างยั่งยืน โดยมุ่งพัฒนาสินค้าและบริการให้เป็นไปตามมาตรฐานสปาระดับสากล และมาตรฐานสปาแห่งอาเซียน (ISO Wellness Spa Service Standard, ASEAN Spa Services Standard)
นายกรด โรจนเสถียร นายกสมาคมสปาไทย กล่าวว่า สำหรับธุรกิจสปาไทย ถือว่ามีโอกาสในการขยายตัวอย่างมาก เพราะสปาไทยมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยเฉพาะในแง่ของการบริการ แต่ทั้งนี้ผู้ประกอบการสปาไทยจำเป็นจะต้องปรับตัวเพื่อสร้างความพร้อมในการแข่งขัน ซึ่งจะมีมากขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะอาเซียน สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคของประชากรในอาเซียนที่กลุ่มคนชั้นกลางขยายตัวและมีการใช้จ่ายเพื่อความงามมากขึ้น จนทำให้การขยายตัวของมูลค่าการค้าในตลาดธุรกิจความงามในกลุ่มประเทศอาเซียนช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ขยายตัวถึง 3 เท่า ขณะที่มูลค่าตลาดสปาไทย มีโอกาสเติบโตและมีแนวโน้มจะขยายตัวต่อเนื่องโดยเฉพาะหลังจากที่เข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 เนื่องจาก 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่ 1.การเพิ่มขึ้นของกลุ่มคนในระดับกลาง 2.จำนวนประชากรสูงอายุมีอัตราการเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งประเมินว่าในปี 2050 เฉลี่ยคนจะมีอายุเกิน 60 ปี คิดเป็น 2 พันล้านคน คิดเป็นสัดส่วน 1 ใน 5 ของโลก และ 3.โลกที่มีการพัฒนาเป็นเมกะซิตี (การพัฒนาเมืองให้ยิ่งใหญ่มากขึ้น) จะทำให้คนต้องการหาพื้นที่ธรรมชาติมากขึ้น แนวโน้มของรีสอร์ทสุขภาพ จะได้รับการตอบรับมากขึ้น และศาสตร์ที่จะมาแรงมากคือเรื่องของการชะลอวัยหรือเอนไทร์ เอจจิ้ง
ทั้งนี้การจัดงาน “เวิลด์สปา แอนด์ เวล-บีอิ้ง คอนเวนชั่น 2014” ซึ่งถือเป็นงานระดับโลก จะเป็นเวทีที่สร้างเครือข่ายธุรกิจให้แข็งแรงมากขึ้น ระหว่างเอเชียกับประเทศต่างๆทั่วโลก และส่งเสริมให้ไทยเป็นศูนย์กลาง (Hub) ตลาดความงามของอาเซียน โดยเฉพาะในธุรกิจสปา ซึ่งประเทศไทยมีความโดดเด่นมากที่สุดประเทศหนึ่งในโลก นายกรด กล่าว
นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ (DITP) กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยกำหนดยุทธศาสตร์ที่จะพัฒนาประเทศให้เป็นศูนย์กลางธุรกิจบริการด้านความงามของเอเชีย (Medical Hub of Asia) เพื่อสร้างให้เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้แข็งแกร่งมากขึ้น เนื่องจากผู้ประกอบการของไทยในอุตสาหกรรมดังกล่าว โดยเฉพาะธุรกิจสปาของไทย มีการพัฒนาศักยภาพและมีเอกลักษณ์ จนได้รับการยอมรับจากนานาประเทศ
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit