นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา รักษาการอธิบดีกรมการปกครอง กล่าวว่า ปี 2556 กรมการปกครอง เครือข่ายองค์กรงดเหล้าและ สสส. ได้เชิดชูเกียรตินายอำเภอนักรณรงค์งดเหล้า จำนวน 131 ท่าน และในปี 2557 นี้ ได้เพิ่มจำนวนเป็น 152 ท่าน เพื่อขับเคลื่อน “นโยบายลดอบายมุขสร้างสุขให้สังคม” ของกระทรวงมหาดไทย โดยร่วมมือกับประชาคมงดเหล้าจังหวัด และภาคีเครือข่าย ทำกิจกรรม เช่น การรณรงค์ สร้างความเข้าใจ การทำข้อตกลงร่วมของชุมชน รับแจ้งเบาะแส รวมทั้งการบังคับใช้กฎหมายในสถานบริการ ร้านจำหน่ายสุรา และแหล่งอบายมุข จนตระหนักร่วมกันว่า เครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นปัจจัยเสี่ยงที่ก่อปัญหาในสังคม และครอบครัว โดยเฉพาะปัญหานักดื่มหน้าใหม่ ซึ่งเพิ่มขึ้นถึงปีละกว่า 250,000 คน เครื่องดื่มแอลกอฮอล์สร้างความสูญเสียทางเศรษฐกิจมากถึงปีละกว่า 4 แสนล้านบาท รวมทั้งเป็นเหตุของปัญหาอุบัติเหตุ อาญากรรม โดยเฉพาะทำให้เยาวชนต้องมีปัญหาตามมามากมาย เช่น ท้อง แท้ง ติดเอดส์ ติดคุก ฯลฯ และเนื่องจากแอลกอฮอล์ทำลายสมอง ย่อมจะมีผลต่ออนาคตของชาติแน่นอน พร้อมให้นายอำเภอที่ร่วมโครงการสานต่อเจตนารมณ์ เป็นแบบอย่างที่ดี ขยายจำนวนการรณรงค์ของพื้นที่ในระดับอำเภอ เพื่อลดปัญหาดังกล่าวในสังคม
“ผลจากการทำงานเชิงบูรณาการแผนยุทธศาสตร์ระดับอำเภอ เช่น นโยบายงานบุญเมืองยศปลอดเหล้า ปลอดการพนัน ของ อำเภอเมือง จังหวัดยโสธร การออก 17 มาตรการของอำเภอบัวเชด เพื่องดเหล้า บุหรี่ อุบัติเหตุ การพนัน นโยบายแค่หลวงปลอดเหล้า ของอำเภอบ้านโฮ่ง จังหวัดลำพูน และ การประสานพลังภาคีเครือข่ายของอำเภอทุ่งตะโก จังหวัดชุมพร นอกจากนี้ยังมีอำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย ซึ่งมีนายอำเภอ เป็นตัวอย่างที่ดีของการบูรณาการรณรงค์ประเด็น เหล้า บุหรี่ อุบัติเหตุ ยาเสพติด ไปดำเนินการอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าท่านจะย้ายไปเป็นนายอำเภอในพื้นที่อื่นแล้วก็ตาม ทำให้เห็นว่าการทำงานแบบบูรณาการ และการเป็นแบบอย่างที่ดีของนายอำเภอจะเป็นพลังสำคัญของการเปลี่ยนแปลงในพื้นที่ เพื่อจะได้กระตุ้นให้นายอำเภอที่เห็นความสำคัญในการทำงานเพื่อประชาชนมากขึ้น ช่วยปกป้องเยาวชนลูกหลาน ปกป้องสังคม ชุมชน ครอบครัวให้อบอุ่นน่าอยู่มากขึ้นเช่นกัน” รักษาการอธิบดีกรม การปกครอง กล่าวเภสัชกร สงกรานต์ ภาคโชคดี กรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ และผู้อำนวยการสำนักงาน เครือข่ายองค์กรงดเหล้า กล่าวว่า การจัดพิธีเชิดชูเกียรติในครั้งนี้ เพื่อสนับสนุนให้เกิดอำเภอต้นแบบรณรงค์งดเหล้า ลดปัจจัยเสี่ยง ภายใต้นโยบายลดอบายมุข-สร้างสุขให้สังคม ของกระทรวงมหาดไทย และทาง คสช.ก็ให้ความสำคัญเรื่องนี้เช่นกัน ซึ่งมีจุดร่วมสำคัญคือ ป้องกันเยาวชนไม่ให้สู่วงจรการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ เป็นบันไดขั้นแรกที่จะนำพาเยาวชน สู่วงจรการเสพยาเสพติด รวมทั้งค้นพบโอกาสและข้อมูลสำคัญที่จะนำเสนอให้แก่นายอำเภอทั้ง 878 อำเภอทั่วประเทศ ได้เห็นความสำคัญต่อการสร้างอำเภอรณรงค์งดเหล้า การสร้างสิ่งแวดล้อมในชุมชนและสังคม เพื่ออนาคตของลูกหลานไทยด้วยการหันมาร่วมมือรณรงค์งดเหล้า - บุหรี่ - การพนัน ลดอุบัติเหตุ และป้องกันยาเสพติด เพื่อปกป้องเยาวชน และ เพื่อส่งเสริมให้คนไทยมีสุขภาวะที่ยั่งยืน โดยใช้โอกาสการรณรงค์งดเหล้าเข้าพรรษา และเทศกาลอื่นๆตลอดทั้งปี การรณรงค์งานศพงานและบุญปลอดเหล้า การรณรงค์ในสถานศึกษา ในชุมชน และการเฝ้าระวัง บังคับใช้กฎหมาย โดยมีเครื่องมือสำคัญในการทำงาน คือ การกวดขันร้านจำหน่ายสุราให้ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติสถานบริการ พ.ศ. 2509 การกวดขันให้มีการขออนุญาตจำหน่ายสุราตามพระราชบัญญัติสุรา พ.ศ. 2493 การกำหนดเวลาจำหน่ายสุราตามประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 253 การห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้แก่บุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ และการห้ามขายห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสถานที่ต้องห้ามการห้ามโฆษณาและส่งเสริมการขายเครื่องดื่ม ตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 เป็นต้น
ด้านนายธีระ วัชรปราณี ผู้จัดการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า กล่าวว่า ในเบื้องต้นที่ได้จัดทำโครงการความร่วมมือนายอำเภอนักรณรงค์งดเหล้ากับประชาคมงดเหล้า เพื่อหนุนเสริมนโยบายลดอบายมุขสร้างสุขให้สังคม ปี พ.ศ. 2556 ถึง 2557นั้น มีนายอำเภอเข้าร่วมโครงการดังกล่าว จำนวน 131 ท่าน และเมื่อสิ้นสุดโครงการฯในปี 2557 มีนายอำเภอเข้าร่วมโครงการฯ ทั้งสิ้น จำนวน 152 ท่าน ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 17.3 ของนายอำเภอ 878 ท่านทั่วประเทศ นอกจากนี้ สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า กำลังประสานกับกรมการปกครองเพื่อขอความร่วมมือให้ 152 อำเภอเป็นอำเภอนำร่องในการจัดทำโครงการรับสมัครครัวเรือนจัดงานศพและงานบุญปลอดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาในมงคลโอกาส ครบรอบ 2,600 ปี การตรัสรู้ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อรณรงค์และสร้างเครือข่ายเจ้าภาพงานบุญปลอดเหล้าทั่วประเทศ โดยมีเป้าหมายว่าจะมีครัวเรือนเข้าร่วมโครงการไม่น้อยกว่า 260,000 ครัวเรือน เมื่อสิ้นสุดโครงการและจะมีการแถลงข่าวตัวเลขครัวเรือนที่เข้าร่วมโครงการรอบแรกในเดือน มกราคม พ.ศ. 2558
HTML::image( HTML::image(ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit