29 ก.ย. วันหัวใจโลก สคร. 12 สงขลา ชี้ “สุขภาพหัวใจที่ดี เริ่มต้นที่บ้าน”

15 Sep 2014
สมาพันธ์หัวใจโลก (World Heart Federation) ได้กำหนดให้วันที่ 29 กันยายนของทุกปี เป็นวันหัวใจโลก เพื่อสื่อสารสร้างกระแสให้ประชากรตื่นตัวต่อโรคหัวใจ โดยเน้นการป้องกัน การคัดกรอง และการดูแลรักษาไปสู่สาธารณชน สำหรับในปี 2557 กระทรวงสาธารสุขและมูลนิธิหัวใจแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้กำหนดคำขวัญเพื่อการรณรงค์วันหัวใจโลกประจำปี 2557 คือ “ประสานด้วยใจ เดินหน้าไปกับโลกสากลเพื่อยังผลให้หัวใจแข็งแรง” โดยเน้นการดูแลป้องกันตนเองโดยเริ่มต้นจากที่บ้านและครอบครัว

ดร.นายแพทย์สุวิช ธรรมปาโล ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 สงขลา เปิดเผยว่า โรคหัวใจและหลอดเลือดที่เป็นปัญหาสาธารสุขระดับประเทศ ซึ่งเป็นสาเหตุการป่วย การเสียชีวิตอันดับต้นๆ ของประชากรไทย เมื่อเปรียบเทียบสาเหตุการเสียชีวิต พบว่ามีอัตราการเสียชีวิตจากโรคหัวใจและหลอดเลือด มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ สาเหตุของกลุ่มโรคกลุ่มนี้เกิดจากวิถีชีวิตและพฤติกรรมสุขภาพที่ไม่ถูกต้องเหมาะสม ได้แก่ การรับประทานที่มากเกินพอดี ไม่สมดุล รับประทานอาหารรสหวาน มัน เค็ม รับประทานผักผลไม้น้อย ใช้เครื่องอำนวยความสะดวกมากขึ้น มีกิจกรรมทางกายน้อยลง ไม่ออกกำลังกาย เครียด และพักผ่อนไม่เพียงพอ ประกอบกับการสูบบุหรี่และการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งปัจจัยเสี่ยงด้านพฤติกรรมสุขภาพดังกล่าวส่งผลให้เกิดภาวะน้ำหนักเกิน อ้วน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง เบาหวาน และนำไปสู่การเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด

ในปี 2557 เน้นการรณรงค์ให้เกิดการมีส่วนร่วมเคลื่อนไหวในหลายภาคส่วนทั่วโลก โดยเริ่มจากการดูแลสุขภาพหัวใจที่ดีของคนในครอบครัว ด้วยการคัดเลือกอาหารที่ดีต่อสุขภาพหัวใจมาเก็บไว้ที่บ้าน โดยลดการรับประทานอาหารสำเร็จรูปที่มักจะมีส่วนประกอบของน้ำตาล เกลือและไขมันในปริมาณที่สูง เตรียมอาหารเพื่อสุขภาพในการรับประทานที่โรงเรียนหรือเป็นอาหารกลางวันในที่ทำงาน หยุดการสูบบุหรี่ในบ้านเพราะจะส่งผลดีต่อสุขภาพของคุณเองและทุกคนในครอบครัว สร้างความกระตือรือร้น กระฉับกระเฉง ด้วยการจัดกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น การปั่นจักรยาน หรือการเดินเล่นในสวน เข้ารับการตรวจสุขภาพประจำปีเพื่อประเมินภาวะสุขภาพและระดับความเสี่ยง ซึ่งจะได้รับคำแนะนำจากแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญในการรักษาและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อป้องกันการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด หากมีอาการเจ็บแน่นหน้าอก หายใจลำบาก บวมปลายมือปลายเท้า หรือมีอาการปากเบี้ยว แขนขาอ่อนแรงทันทีทันใดให้รีบเข้าพบแพทย์ภายใน 3 ชั่วโมง

ดร.นายแพทย์สุวิช ธรรมปาโล กล่าวเพิ่มเติมว่า องค์การอนามัยโลก (WHO) รายงานว่าโรคหัวใจและหลอดเลือด เป็นโรคที่มีอัตราการเสียชีวิตสูง เป็นฆาตกรอันดับหนึ่งที่เป็นสาเหตุการเสียชีวิตของประชากรโลก โดยพบว่าประชากรจำนนวน 17.3 ล้านคนเสียชีวิตก่อนวัยอันควร และจากการคาดการณ์ในปี 2030 นี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 23 ล้านคน ส่วนสถานการณ์โรคหัวใจและหลอดเลือดในประเทศไทยจากข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุข ในช่วงปี พ.ศ.2554-2556 พบว่าอัตราตายด้วยโรคหัวใจและหลอดเลือดต่อประชากร 100,000 คน มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยในปี พ.ศ. 2556 มีผู้เสียชีวิตด้วยโรคหัวใจและหลอดเลือด จำนวน 54,530 คน เฉลี่ยเสียชีวิตวันละ 150 คนหรือเฉลี่ยชั่วโมงละ 6 คน หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการป้องกันหรือการดูแลผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือด สามารถโทรศัพท์สอบถามข้อมูลได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422